บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่ นิยาย บท 65

“ป้ายขาว!”

ดวงตาของเจ้าหน้าที่ศาลาว่าการสองคนที่ต้องโบยไม้กระดานตาเป็นประกาย ก่อนที่พวกเขาจะผลัดกันโบยอย่างแรง

ป้ายคำสั่งในกระบอกไม้ไผ่ของนายอำเภอมีสามประเภท ได้แก่ ป้ายขาว ป้ายแดง และป้ายดำ!

ป้ายสีขาวคือคำสั่งโบยพอเป็นพิธี ป้ายสีแดงคือคำสั่งโบยจนผิวหนังหรือเนื้อแตก ป้ายสีดำคือคำสั่งโบยจนตาย

นี่คือกฎก่อนพิจารณาคดี!

หากนายอำเภอโยนป้ายคำสั่งสีดำออกไป แม้ว่าใครจะให้เงินเขาเท่าไหร่ก็ตาม คนผู้นั้นก็ยังถูกโบยให้เนื้อแหลกเป็นชิ้น ๆ

เผียะ เผียะ…

กระดานส่งเสียงกระทบกัน

หวังเอ้อโกวที่นอนอยู่บนพื้นมีสีหน้าเหลือเชื่อ “ไม่เจ็บเลย ทำไมไม่เจ็บกันนะ เสียงจากด้านบนก็ดังมากแท้ ๆ แต่บั้นท้ายของข้าไม่แตะไม้กระดานด้วยซ้ำ!”

“ใต้เท้านายอำเภอเป็นคนใจดี โยนป้ายขาว ญาติของคนผู้นี้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์!”

“เจ้าเด็กนี่ก็โง่เสียจริง ต่อให้ข้าโบยเจ้าไม่เจ็บ ก็ควรกรีดร้องให้มันสมจริงหน่อยสิ!”

“หากเขายังไม่กรีดร้องเช่นนี้ ต้องมีคนสงสัยว่าพวกเราแกล้งโบยแน่!”

“เช่นนั้นก็ตีจนกว่าเขาจะกรีดร้องเถอะ!”

เจ้าหน้าที่ศาลาว่าการทั้งสองสบตากัน คราวนี้เมื่อไม้กระดานฟาดลงมา มันก็ตกลงไปที่ก้นของหวังเอ้อโกว!

“อ๊าก!”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของหวังเอ้อโกวบิดเบี้ยวผิดรูป เขากรีดร้องอย่างน่าสมเพช

“นั่นไงล่ะ หากไม่กรีดร้อง คนอื่นจะคิดว่าเราโบยหลอกเอาได้!”

เจ้าหน้าที่ศาลาว่าการทั้งสองพยักหน้าให้กัน

พวกเขายังคงออกแรงลงไม้กระดานต่อไป เมื่อหวังเอ้อโกวหยุดร้อง ไม้ก็ลงมาปะทะบั้นท้ายอีกครั้ง

หลังจากถูกโบยจริง ๆ สามครั้งติดต่อกัน หวังเอ้อโกวถึงได้เข้าใจจุดประสงค์ ก่อนจะร้องโหยหวนอย่างน่าสมเพช

ครบสี่สิบรอบผ่านไป

จ้าวเว่ยหมินตะโกนถามด้วยเสียงอันทรงพลัง “เจ้าเป็นใคร? มาฟ้องร้องต่อข้าด้วยเรื่องใด?”

“ข้าน้อยประชาชนทั่วไป หวังเอ้อโกว มาจากหมู่บ้านต้าหวังในตำบลเป่ยผิง มาฟ้องร้ององครักษ์ฟางต่อศาลาว่าการ ข้อหาอยู่เบื้องหลังการจับกุมและลงโทษผู้บริสุทธิ์ของสิงซานโดยไม่ชอบ ทั้งยังสมรู้ร่วมคิดกับอันธพาลประมงในตลาดปลา…”

หวังเอ้อโกวยกเอกสารคำร้องขึ้นอย่างสั่นเทา จากนั้นก็บอกเล่าเรื่องทั้งหมดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

เขารู้กระบวนการฟ้องร้องมาจากหวังซื่อไห่ สมัยเขามาที่ที่ทำการอำเภอเพื่อฟ้องร้องหลิวโหย่วไฉหลายต่อหลายครั้ง ทำให้รู้ขั้นตอนเป็นอย่างดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่