บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 470

บทที่470 เปิดช่องโหว่

เมืองชายแดนต้องกลายเป็นสถานที่สำคัญทางการทหารแน่นอนว่าให้เหลือประชากรไว้ไม่ได้

เมื่อตอนที่ออกจากเมืองผู้อพยพจำนวนนับไม่ถ้วนแบกกระเป๋าบ้างเดินบ้างจ้างรถม้าอย่างมีระเบียบ แต่ทาสเหล่านั้นทำได้แค่พึ่งสองขาเดินไป

ทั้งหมดนี้คือทาสที่เมืองชายแดนนี้ ดูแล้วมีผู้อพยพสักครึ่ง ในตาของวัยรุ่นเด็กจำนวนไม่น้อยเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจเพียงแต่โทษแคว้นเจียงเยี่ยนว่าทำเครื่องผูกมัดมากเกินไปจึงไม่มีทางหนีได้

คนพวกนี้ไม่ได้เข้าใจจริงๆ

เมื่อตอนจะไปกู้อ้าวเวยก็ต้องการเอาสาวใช้กลุ่มนึงไปด้วย กุ่ยเม่ยก็เอาสาวใช้อีกครึ่งนั่งอยู่ด้านหลังในรถม้า ด้านกู้อ้าวเวยก็เอาสาวใช้ที่เพิ่งเจอไว้ข้างกาย ล่ายเสวียนนั่งตรงข้าม

ยื่นมือออกมา ข้าจะช่วยจัดการให้” กู้อ้าวเวยโน้มตัวยื่นมือออกไปแล้วยิ้ม

สาวใช้ก็รีบเอาสองมือวางมือทั้งสองข้าง กู้อ้าวเวยก็เห็นว่าในซอกเล็บของพวกเขามีดินอยู่ บนตัวก็มีร่องรอยฟกช้ำ จึงใช้ของต่างๆจัดการให้เรียบร้อยอย่างใจเย็นแล้วก็บีบแก้มเขา “เสร็จแล้ว ถ้าหิว กระหายก็บอกข้านะ”

เหมือนคิดถึงชิงจือขึ้นมา กู้อ้าวเวยมักจะชอบเหล่าเด็กๆมาก

แม้ล่ายเสวียนจะมองนางอย่างไม่เห็นด้วยแต่พอผ่านไปสักพักก็พูดขึ้นมาว่า “ท่านเป็นถึงองค์หญิง ปกติก็ชอบเสียงเอะอะโวยวายของเด็กหรือ?”

“ท่านเป็นถึงแม่ทัพเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการอุทิศตน ก็ไม่เพียงแต่ฟังคำสั่งของอ้ายหยินไม่ทำอะไรเลยหรือ?” กู้อ้าวเวยตอบกลับเสียงเย็นอย่างไม่พอใจ ก็เห็นสายตาเขาเย็นชาอีกครั้งจึงยกมือขึ้นมาปิดตาสาวใช้แล้วมองล่ายเสวียนอย่างโกรธเคือง “แม่ทัพล่าย โปรดอย่าทำให้เด็กกลัว”

ล่ายเสวียนเก็บสายตาไปอย่างเคืองๆแล้วหันหัวไป

กู้อ้าวเวยคิดว่าทาสสาวใช้ยังกลัวอยู่ใครจะไปรู้ว่าสาวใช้จะกะพริบตาปริบๆดึงแขนเสื้อกู้อ้าวเวยแล้วพูดว่า “นายท่าน นิ้วมือของใต้เท้าล่ายก็มีดินอยู่”

ในรถม้าเล็กๆ เสียงใสๆของเด็กน้อยก้องกังวาน ล่ายเสวียนกอดอกไม่พูดสักคำ 

“เจ้าไม่กลัวเขาหรือ?” กู้อ้าวเวยอุ้มสาวใช้ไว้ในอ้อมแขนรู้สึกได้ถึงความเกร็งแต่ก็ลูบๆหัวนาง “ข้าเห็นเขาน่าโหดร้าย ข้ายังกลัวเลยเจ้านี่กล้าหาญจริง”

สาวใช้ถูกชมหน้าแดงพูดอย่างอายๆว่า “ตอนที่ผู้อื่นรังแกข้ามีเพียงใต้เท้าล่ายที่ขัดขวางพวกเขา ครั้งก่อน…..ยังแอบเอาของหวานๆให้ข้ากินนั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าได้กินของอร่อย…..”

เด็กน้อยที่ยังไม่โตมากยังคงหลงเหลือความไร้เดียงสาอยู่แต่กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกปวดใจ

นายพลเหล่านั้นแม้แต่เด็กอย่างงี้ก็ยังทำได้ลงคอ แต่สำหรับล่ายเสวียนท่านนี้ นางมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปแล้วก็ถามเขาด้วยเสียงอ่อนลงว่า “ทำไมเจ้าถึงถูกอ้ายหยินขับไล่ ไม่แน่ข้าอาจช่วยท่านได้?”

“เจ้าเป็นแค่คนของแคว้นเอ่อตาน”

“แล้วยังไง ทุกคนก็มีจมูกมีตา พูดไปพูดมาไม่ใช่ทุกคนที่ต้องกินต้องดื่มต้องเข้าส้วม ต้องการมีชีวิตหรือต้องการตายจะใส่ใจพวกนี้ไปทำไม?”กู้อ้าวเวยก็อยากจะหัวเราะคำพูดหยาบคายของตนเองแต่คำพูดนี้นางก็ได้ยินมาจากฉีหลินและมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล

คิดไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงแคว้นนึงจะสามารถพูดอะไรอย่างงี้ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์