สรุปเนื้อหา ตอนที่116 หนี้เลือดชดใช้ด้วยเลือด – บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่
บท ตอนที่116 หนี้เลือดชดใช้ด้วยเลือด ของ บุบผาร้อยเสน่ห์ ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่116 หนี้เลือดชดใช้ด้วยเลือด
ฉีหลินไม่กล้าเอ่ยปากพูด กู้อ้าวเวยก็หัวเราะออกมา
“นี่ ท่านคงจะไม่ได้คิดจริงๆใช่ไหมว่าข้าจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้”
“เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ?” ฉีหลินกลอกตาไปมา ท่าทางที่จริงจังของกู้อ้าวเวยเมื่อสักครู่ เขาเกือบจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ทำได้เพียงมองไปยังองุ่นที่ตกบนพื้น แต่ยังไม่กล้าที่จะกิน: “จริงๆ ความเสี่ยงนี้ไม่ใช่เล็กน้อย”
“แม้ว่าจะไม่ใช่เพื่อโลก แต่ข้าก็ไม่ต้องที่จะเห็นซ่านจินจื๋อสืบทอดบัลลังก์จักรพรรดินี้” กู้อ้าวเวยถอยกลับเข้าไปในเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน และพูดต่อ: “เพื่อที่จะไม่ปล่อยให้เขาขึ้นเป็นจักรพรรดิ ข้าจะทำทุกวิถีทาง”
ฉีหลินกลืนน้ำลายหนึ่งอึก ต้องทำเช่นไรถึงจะหยุดท่านอ๋องผู้เป็นที่ชื่นชอบของทุกไม่ให้ได้ครองบัลลังก์ หรือว่าจะเป็นเรื่องราวความไม่ยุติธรรมของโลกใช่หรือไม่?
”เพราะเหตุใด?”
“เพราะคนที่เขามีใจรักได้ดื่มเลือดของข้า สมควรได้รับการตอบแทน” กู้อ้าวเวยหัวเราะเย็นชา หันกลับมองไปยังฉีหลิน: “อย่างไร? เต็มใจที่จะช่วยข้าติดต่อองค์ชายสามหรือไม่?”
เมื่อมองไปยังรอยยิ้มบนใบหน้าของกู้อ้าวเวย ฉีหลินไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมร่างกายถึงพยักหน้าตอบรับ แลกมากับเสียงหัวเราะของกู้อ้าวเวย: “ดังนั้น เราเป็นสหายที่มีความลับร่วมกัน”
“เจ้าช่างเชื่อถือข้าจริงๆ” ฉีหลินถอนหายใจ
“ใช่เชื่อถือ”กู้อ้าวเวยกับฉีหลินตั้งแต่แรกเห็นก็รู้สึกถูกชะตา เทียบกับรักแรกสบตาอาจยังน้อยกว่า แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ทำให้กู้อ้าวเวยสบายใจมาก
เขาไม่ใช่คนในราชวงศ์ และเขาไม่ได้เป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ฉีหลินสามารถพูดคุยกับนางได้ตามต้องการ ถึงแม้ก่อนหน้าต่างก็สามารถทำสิ่งต่างๆของตนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ประมาณว่า กู้อ้าวเวยเชื่อใจเขามากกว่าชิงต้ายกับหยินเชี่ยว
ฉีหลินนวดแล้วนวดอีกบนหัว: “อาจจะเป็นเพราะชาติก่อนพวกเราเป็นสหายกันก็ไม่แน่”
“อาจเป็นไปได้” กู้อ้าวเวยหัวเราะตัวโยน
……
นั่งเพียงลำพังในห้องหนังสือ เยว่คุกเข่าอยู่ข้างประตู: “ได้โปรดองค์ชายสามอย่าให้กู้อ้าวเวยหลอกได้ หากว่านางเห็นหลักฐานตั้งแต่ที่บ้านริมน้ำ เหตุใดป่านนี้ถึงเพิ่งพูด ไม่มีอะไรมากไปกว่าการพยายามหลอกใช้พวกเรา จิตใจหญิงสาวยากลึกหยั่งถึง ใช้ไม่ได้”
ซ่านเซิ่งหานถือหนังสือไว้ในมือ แค่เหลือบมองเยว่คุกเข่าที่ประตูอย่างเฉยเมย ไม่รู้จะพูดอย่างไร: “ฆ่าก็ไม่ได้ ปล่อยวางก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้ในมือของนางได้กุมเรื่องราวของเราไว้ ถ้าหากนางได้พูดออกไป อย่าว่าแต่เสด็จพ่อกับเสด็จอาจจะไม่ปล่อยข้า แม้แต่โหวเซ่อถ้ารู้ว่าข้ายังแอบติดต่อกับนาง ก็คงจะไม่ปล่อยข้าเช่นกัน”
“คนตายไม่สามารถพูดได้” เยว่กัดฟัน
ในที่สุดก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะดูหนังสือต่อ ซ่านเซิ่งหานปวดศีรษะจนต้องนวดทั่วหน้าผาก รู้สึกจนหนทาง
ตั้งแต่เมื่อสักครู่มีคนมาส่งข่าว ว่าคนที่คอยติดตามกู้อ้าวเวยโดนปลดออก อีกทั้งนางได้ออกจากตำหนักอ๋องไปยังร้านยาเหย้าแล้ว เยว่ก็ยิ่งเชื่อว่านางยอมจำนน สามารถเปลี่ยนแปลงความระวังของซ่านจินจื๋อ แล้วยังใจกล้ารู้ว่าโหวเซ่อไม่กล้าลงมือ ดังนั้นจึงดูเหมือนใจกว้าง
แต่เป็นถึงหญิงสาวที่ฉลาด ถ้าเช่นนี้ทำลายลง คงช่างน่าเสียดาย
ยิ่งไปกว่านั้น ข้างๆมือคือกล่องไม้ที่วางไว้ข้างในเป็นสิ่งที่กู้อ้าวเวยเขียนไว้ เขามักจะอดไม่ได้ที่จะนึกถึง พูดกระซิบว่า: “ถ้านางตายไป คนต่อไปที่ตายก็คงเป็นข้า”
“จะเป็นไปได้อย่างไร? ขอเพียงรัชทายาทลงจากบัลลังก์……”
“ข้าจะต้องเก็บนางไว้ใช้ประโยชน์ ตอนนี้ข้าเก็บตัวเป็นเวลานานแล้ว เจ้าคิดว่าสามารถช่วยเหลือข้าจริงๆมีสักกี่คน ส่วนพวกขุนนางก็เป็นเพียงพวกขี้เมาหยำเป โหวเซ่อยิ่งปรากฎตัวออกมาไม่ได้ ถ้ากู้อ้าวเวยเต็มใจช่วยข้า ส่งข้อมูลข่าวสาร คงไม่ใช่เรื่องยากที่ข้าจะโค่นล้มซ่านจินจื๋อ”
และก็มีเพียงกู้อ้าวเวยผู้หญิงที่ฉลาดหลักแหลมถึงยืนเคียงข้างเขาได้ เป็นพระชายาเอกของเขา
น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้ถูกฝังอยู่ในใจกลางขององค์ชายสาม เยว่ทำได้เพียงรอบกัดฟัน ยิ่งเพิ่มความต้องการให้กู้อ้าวเวยตาย
“น้องสี่กลับมาจากบ้านริมน้ำแล้ว ยิ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ พวกเราควรเชิญพวกเขาให้มารวมตัวกัน ให้คนไปจัดเตรียมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ เพื่อเตรียมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้ และเตือนอีฉินต่อหน้าน้องสี่อย่าทำผิดกฎใดๆ” ซ่านเซิ่งหานตบเบาๆที่ศีรษะนาง ด้วยท่าทางอ่อนโยน
“ใช่” เยว่พยักหน้าด้วยความอาย เร่งรีบไปจัดการเรื่องนี้
ฝูงชนจากไป ซ่านเซิ่งหานถึงคืนท่าทางที่เฉยเมยกลับมา เพียงแค่เหลือบมองเวลากลางคืนที่เกิดขึ้น เขาเปิดไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเอาชุดสีดำ และออกจากหน้าต่าง
พูดมาก็บังเอิญ องค์ชายสามผู้ไม่มีใครใส่ใจ ใครก็ไม่อาจรู้ว่าเขามีวรยุทธที่เก่งกาจมาก
เมื่อหน้าต่างตรงหน้าปรากฏเงาคนในเวลานั้น กู้อ้าวเวยคิดว่าคงต้องเป็นผู้ที่ได้รับข้อความแล้วจะต้องรีบมาอย่างซ่านเซิ่งหาน ดวงตาสว่างขึ้น กำลังจะมองให้ชัดใบหน้านั้นแต่ก็เลือนราง กระนั้นก็ดึงเสื้อบนไหล่ให้กระชับแล้วลุกขึ้นยืน: “องค์ชายสาม ต้องการมาเพื่อฆ่าข้า?”
“ข้ามาเพื่อดูสถานการณ์ของเจ้า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงได้นำเรื่องของโหวเซ่อมาพูด” ซ่านเซิ่งหานเดินตรงเข้ามาจากข้างประตู พร้อมปิดประตูในห้อง
กู้อ้าวเวยก็ดึงบานหน้าต่างปิดลง เป่าดับตะเกียงไฟ และไม่มีใครล่วงรู้ว่าในห้องนี้มีบุคคลที่สองอยู่
“ซูพ่านเอ๋อดื่มเลือดของข้า ข้ารู้สึกโกรธแค้น” กู้อ้าวเวยเปิดรอยแผลยาวบนข้อมือ รอยแผลนี้โดนเปิดออกเพื่อเอาเลือด กลัวว่าคงจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ แต่นางทำเพียงเฉยเมย: “ข้าอยากให้นางหนี้เลือดก็ต้องชดใช้ด้วยเลือด แต่ว่านางมีซ่านจินจื๋อคอยคุ้มครอง ข้าหาทางพบแล้ว”
…………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...