บทที่ 147 กฎเกณฑ์หรือชีวิต
แสงแรกของดวงอาทิตย์ในยามเช้าสาดกระทบลงพื้น
ทุกคนที่ซ่านจินจื๋อส่งไปกลับมาโดยที่งานไม่สำเร็จ คนสนิทที่อยู่ข้างกายกำลังมองซ่านเชียนหยวนสับเปลี่ยนทหารรักษาการณ์ประตูเมืองทั้งหมด อีกทั้งยังจัดกองกำลังไปทั่วทุกที่ด้วยขั้นตอนที่รวดเร็วเฉียบขาด แบ่งออกเป็นกลุ่มละสี่คนเพื่อมุ่งหน้าสืบค้นหาเส้นทางที่มีความเป็นไปได้
แม้เป็นเช่นนี้ ภายในเมืองเทียนเหยียนก็ยังเงียบสงบ ราวกับไม่มีคนรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ภายในเมืองมีที่ใดที่ยังไม่ตรวจค้น?” ซ่านจินจื๋อมองไปที่เซียวไห่อย่างกระทันหันและกระตุกบังเหียนให้หยุดอยู่ที่เดิม
“ยังเหลือแหล่งซ่องกับร้านรวงที่ถนนหนานต้า” เซียวไห่ประหลาดใจ “ท่านอ๋องคิดว่าพวกมันอาจจะยังรั้งอยู่ในเมืองเทียนเหยียนหรือ?”
“รีบส่งคนไปตรวจสอบ” สีหน้าของซ่านจินจื๋อมืดครึ้มลงทันใด
ต้องโทษเขาที่ในอดีตเอาแต่ดูแลจัดการกองทัพ กลับลืมไปนานแล้วว่าในสถานการณ์เช่นนี้สถานที่ที่สมควรอันตรายมากที่สุดก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง บางทีการสับเปลี่ยนทหารรักษาการณ์ประจำเมืองไม่แน่ว่าอาจจะเป็นกลลวง
“เช่นนั้นท่านอ๋องว่า พวกเรายังต้องออกค้นหาที่อื่นต่อใช่หรือไม่พะยะค่ะ?”
“ใช่” ซ่านจินจื๋อไม่อาจวางเบี้ยทั้งหมดลงในผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
ไม่ใช่แค่เขาที่ส่งคนไปตรวจสอบ คนจากจวนเฉิงเสี้ยงก็ส่งคนไปค้นหาด้วย กู้เฉิงกลับพบว่าทันทีที่หยุนชิงหยางจากไป พวกเขาก็สูญเสียช่องทางการสื่อสารทั้งหมดกับตระกูลหยุน หยุนฝูคล้ายกับหายตัวไปจากเมืองเทียนเหยียนกระทันหัน กองกำลังทหารก็ไม่สะดวกที่จะไปค้นหาที่แหล่งซ่องอันหยาบโลน จึงได้แต่ขอร้องฉีหลินติดต่อกับเหล่าหญิงสาวแห่งทิงเฟิงโหลว
หลิ่วเอ๋อร์ส่งคนไปค้นหาทุกหลังคาเรือนก็ไม่ลืมที่จะถามฉีหลิน “อ๋องจิ้งคิดว่าพวกมันยังไม่ออกไปจากเมืองเทียนเหยียนหรือ?”
“น่าจะหมายความตามนั้น” ฉีหลินพยักหน้าและรับผิดชอบหญิงสาวผู้ค้นหาสองสามราย เขาไปหาซ่านเชียนหยวนและคุยถึงเรื่องนี้โดยถือโอกาสไปหาด้วยกันกับเขา
สองชั่วยามต่อมา เหล่าหญิงสาวแห่งทิงเฟิงโหลวอ้างคำสั่งทหารนำตัวแม่เล้าออกมา และพามาหาซ่านเชียนหยวน “แม่เล้าคนนี้พูดตะกุกตะกักเกรงว่าจะรู้อะไรบางอย่าง”
“ใช่ๆ อีกทั้งก่อนหน้านี้ซ่องของนางเกิดเรื่องชัดๆ จะตายอยู่แล้วยังไม่ยอมรับ มีหลุมพรางแน่ๆ!”เหล่าหญิงสาวรวมกลุ่มกระซิบกระซาบ เต็มไปด้วยความขัดเคือง
แม่เล้าคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความสั่นเทา “องค์ชายสี่ โปรดขอให้พระองค์ท่านตรวจสอบให้ชัดเจน หม่อมฉันไม่ต้องการที่จะนำเรื่องที่ทะเลาะกันออกมาพูด ก็แค่ไม่ต้องการให้วุ่นวายถึงทางการเพคะ นี่...ซ่องอื่นๆก็เป็นเช่นนี้เพคะ!”
ซ่านเชียนหยวนยังไม่ทันจะเอ่ยปาก ซ่านจินจื๋อในชุดคลุมยาวสีดำที่มาได้ยินพอดี และเนื่องจากอดนอนตลอดทั้งคืนดวงตาทั้งสองข้างจึงแดงก่ำไปด้วยเส้นเลือด เซียวไห่ห้ามปรามไม่ทัน ดาบเล่มยาวในมือซ่านจินจื๋อได้แทงทะลุเสียงกรีดร้องของแม่เล้า
เหล่าหญิงสาวทิงเฟิงโหลวล้วนกรีดร้องพลางถอยหลัง หลิ่วเอ๋อร์สีหน้ามืดครึ้มพาคนจากไป
“เสด็จอา!” ซ่านเชียนหยวนลุกขึ้นพรวด คาดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวของซ่านจินจื๋อจะรวดเร็วเช่นนี้
เลือดสาดกระเซ็นซ่าน แม่เล้ากุมหัวไหล่ตะโกนออกมา “หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ! คนเหล่านั้นนำคนมาบีบบังคับเหล่าหญิงสาวในซ่องของเรา! หม่อมฉันจะไม่ช่วยก็ไม่ได้เพคะ! แล้วหม่อมฉันก็ไม่รู้แต่แรกด้วยว่าคนนั้นจะเป็นพระชายา! ไม่ทราบจริงๆเพคะ!”
ขณะที่พูด แม่เล้าก็ได้แต่กุมบาดแผลที่กำลังปวด พูดเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อย่างระมัดระวัง
“แต่พวกเขาออกจากที่ของหม่อมฉันไปแล้วเพคะ ตอนนี้ย่อมหนีไปโดยไม่เห็นแม้แต่เงา อ๋องจิ้งได้โปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ!”แม่เล้าโขกศีรษะอยู่หลายครา ยังบ่นถึงที่พระชายาจิ้งทำร้ายเด็กสาวของนางอีกด้วย
“รู้เห็นแต่ไม่รายงาน กักขังหน่วงเหนี่ยวคนราชวงศ์ นำตัวนางไปเรือนจำ ทหารรักษาการณ์ประตูเมืองคนอื่นๆจัดกลุ่มคนไปสอบถามอาจจะมีเส้นทางลับออกจากเมืองเทียนเหยียน” ซ่านจินจื๋อส่งสายตาเย็นชาลุกเดินออกไป
แม่เล้าทรุดร่วงลงพื้นด้วยความเซื่องซึม ไม่นานก็ถูกคนพาตัวไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...