บทที่ 200 ช่วยเหลือจี้เหยา
บรรดาสาวใช้ทยอยกันเข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดพื้น
และก็ยังไม่ลืมเยาะเย้ยพระชายาผู้ไม่ได้รับความโปรดปรานที่กำลังตั้งครรภ์ “พระชายาท่านกล้าปั้นปึ่งกับท่านอ๋องเช่นนี้ ตอนนี้ท่านไม่ได้รับความโปรดปรานก็เป็นเพราะตัวท่านนั่นล่ะที่หาเรื่องเอง”
“ไปรับโทษโบยด้วยตนเองสิบไม้” กู้อ้าวเวยคลายมือออกจากปกเสื้อแล้วนวดที่หว่างคิ้ว
สาวใช้ที่เพิ่งปากมากรายนั้นตกตะลึง “พระชายา....”
“ในเมื่อเจ้าเรียกขานข้าว่าพระชายา ก็สมควรรู้จุดจบ” กู้อ้าวเวยโบกมือ หญิงรับใช้ที่พอตาพอมีแววรีบเงียบปากลงทันที ทยอยมาข้างกายกู้อ้าวเวย “พระชายามีรับสั่งอันใดเพคะ?”
“ไปนำบะหมี่น้ำร้อนๆมาให้ข้าอีกถ้วย” น้ำเสียงของกู้อ้าวเวยในยามนี้กลับนุ่มนวลมากขึ้น
แต่ไรมานางไม่เคยตำหนิคนรับใช้ในจวน เมื่อพบคนรับใช้ที่ต้องการความช่วยเหลือก็จะใจดีเสียทุกครั้ง เหล่าสาวใช้เพียงพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ไปจัดการเรื่องนี้แต่ยังนำตัวสาวใช้ที่พูดไร้มารยาทเมื่อสักครู่นี้ไปด้วย
วิหารชิงเฟิงแตกต่างกับวิหารเฟิ่งหมิงอย่างสิ้นเชิง สมุนล้วนตามเจ้านายที่ไม่แยแส
เกรงว่าปกติแล้วกู้จี้เหยาเองก็เอ่ยวิจารณ์คนอื่นในทางลบไว้ไม่น้อย
ชิงต้ายยังไม่กลับมา กลับกลายเป็นว่ากู้จี้เหยาได้เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านกลับมาเรียบร้อย เพียงนั่งข้างกู้อ้าวเวยด้วยความสั่นเทา หลานเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆมองแผนการของกู้อ้าวเวยไม่ออก จึงพูดหยั่งเชิง “พระชายา เมื่อคืนคุณหนูได้....”
“เช่นนั้นเรื่องต่อจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวพวกเจ้าเองแล้ว” กู้อ้าวเวยประคองขอบโต๊ะลุกขึ้นมา “ในเมื่อหลานเอ๋อร์เป็นคนของท่านแม่เล็ก เช่นนั้นท่านแม่เล็กวางแผนทำเรื่องอะไร พวกเจ้าสมควรเข้าใจชัดเจนแล้ว ส่วนข้าก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น”
ขณะที่กล่าว กู้อ้าวเวยได้เดินเข้าไปในห้องอย่างเชื่องช้า ต้องการรอบะหมี่น้ำร้อนๆของตน
“หลานเอ๋อร์ ข้ารู้สึกว่านี่มันไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ กู้อ้าวเวยเป็นคนเจ้าเล่ห์....”
“แต่เรื่องนี้ไม่ควรล่าช้านานไปนัก ข้าเพิ่งได้เขียนจดหมายไปที่จวนเฉิงเสี้ยง รอถึงคืนพรุ่งนี้ค่อยนำคนเข้าไปส่งในจวนอย่างลับๆ จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย” หลานเอ๋อร์คุกเข่าแหงนหน้ามองขึ้นไปหากู้จี้เหยา
นางใบหน้าซีดขาว ถึงแม้สาวใช้ข้างกายจะไม่ได้ยิน แต่นางยังคงกัดฟันแน่น “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ข้ากู้จี้เหยาต้องใช้วิธีเช่นนี้....”
“ข้าสังเกตเห็นว่าหลังจากที่พระชายาตั้งครรภ์ ท่านอ๋องก็อดทนกับนางขึ้นมาก เมื่อท่านมีทายาทให้กับท่านอ๋อง อนาคตทุกอย่างจะต้องดีขึ้นแน่นอน ท่านเพียงต้องพาลูกไปปรากฏตัวต่อหน้าท่านอ๋องให้มาก แล้วระหว่างท่านกับท่านอ๋องก็จะค่อยๆเกิดเป็นความรัก” หลานเอ๋อร์รีบโน้มน้าว
ตราบใดที่สามารถตั้งครรภ์ทายาทได้ในช่วงเวลานี้และกล่าวได้ว่าเป็นทายาทของซ่านจินจื๋อ
และแม้ว่านางจะไม่ได้รับความโปรดปรานภายในจวนอ๋อง แต่ก็ยังสามารถได้ครองตำแหน่งสูง
“แต่ถ้าหากข้าจะต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋อง เหตุใดจำเป็นต้อง......”
“คุณหนู ท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านอ๋องไร้เมตตาเพียงใด? ในเมื่อได้เข้าในจวนอ๋องก็ย่อมต้องอยู่ต่อไปอีกนาน อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้เตียงท่านหนาวเย็น เข้านอนเพียงลำพังทุกๆคืน” หลานเอ๋อร์ได้แต่เกลี้ยกล่อมด้วยเจตนาดี นางในฐานะสาวใช้ หากเจ้านายไร้อำนาจ เช่นนั้นแล้วอนาคตวันหน้าในจวนอ๋องของนางคงไม่ดีนัก
กู้จี้เหยายังคงพะว้าพะวัง ปกตินางเคยลดตัวไปทำเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน
ตอนนี้ยังต้องการให้นางพัวพันกับชายแปลกหน้า เพียงเพื่อให้กำเนิดสิ่งที่เรียกว่าทายาทอ๋อง นางคิดไม่ตกมาตลอดได้แต่ดวงตาแดงก่ำ ตัดสินใจรออีกไม่กี่วัน
กู้อ้าวเวยที่อยู่ภายในห้องโถงเพียงได้ยินบางอย่างแว่วๆ แต่ในใจได้กระจ่างแล้ว
ผู้หญิงในยุคสมัยนี้ล้วนให้ความสำคัญกับทายาท การตัดสินใจดังกล่าว ในวันหน้าคงต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับสิ่งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...