บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 202

บทที่ 202 ลงมือของจริง

ส่วนปลายอาภรณ์ถูกฉุดกระชากเดินออกไป เหลือเพียงความว่างเปล่า

เมื่อได้ยินถ้อยวาจานี้ของลี่วาน ซ่านเชียนหยวนยังไม่ได้เอ่ยอะไร เป็นกู้อ้าวเวยที่ปริปากเอื้อนเอ่ย “ลี่วาน เจ้าคิดว่ารัชทายาทมีปัญหามาตั้งนานแล้ว เหตุใดจึงถ่วงเวลามาจนถึงวันนี้ถึงปลดเขากันล่ะ”

“ก็ไม่ใช่เพราะว่ารัชทายาททำสิ่งชั่วร้ายมามากแล้วหรือ อะไรที่เรียกว่าถ่วงเวลามาจนถึงวันนี้กัน...”

“ฮ่องเต้ไม่ได้ละทิ้งรัชทายาท เพียงแต่มันพระทัยจะเก็บรักษาไว้ต่างหาก กลัวว่าหลังจากการสลักแผ่นป้ายบรรพบุรุษนั่นแล้วจะทิ้งร่องรอยโองการลับ จึงเขียนนามของราชวงศ์บางคนลงไป”กู้อ้าวเวยชักมือของตนกลับมา ช้อนสายตาขึ้นมองนาง “รัชทายาทไม่ได้สำคัญนัก ขอเพียงสามารถได้รับความโปรดปรานของฮ่องเต้ได้ เช่นนั้นทุกอย่าง ก็จะเป็นของท่านทั้งหมดแล้ว”

สายตาของนางเคลื่อนจากร่างของลี่วานไปที่ร่างของซ่านเชียนหยวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่น่าเสียดายนางพยายามหรี่ตาลงแล้วก็ยังมองไม่ชัดเจนอยู่ดี ทำได้เพียงทอดถอนใจเบาๆ อย่างจนปัญญา ก่อนค้ำผิวโต๊ะหยัดกายลุกขึ้นมา ลี่วานยังคงคิดไม่ออก ซ่านเชียนหยวนกลับดึงข้อมือของกู้อ้าวเวยเอาไว้ด้วยอาการสั่นระริกเล็กน้อย “เจ้าคิดว่าข้า...”

“ไม่ว่าจะต่อสู้หรือไม่ก็ตาม ตอนนี้ท่านควรเรียกเก็บทัพหน้าทั้งหมด การแก้ไขเรื่องวุ่นวายในที่ลับจึงจะเป็นสิ่งสำคัญ องค์ชายสามและองค์ชายคนอื่นๆ เป็นพวกเรื่องมาก โดยเฉพาะองค์ชายหก หากเขากลับมา ก็จะเป็นขวากหนาม หากไม่กลับมา วันข้างหน้าจะเป็นบ่าซ้ายไหล่ขวาของท่าน”

กู้อ้าวเวยสลัดมือของซ่านเชียนหยวนออก ก่อนนั่งลงอีกครั้ง ทำเพียงกล่าวต่อไป “หากข้าเป็นพระชายาองค์ชายสี่ แน่นอนว่าคงจะคิดเผื่อเขาแบบนี้”

สีหน้าของลี่วานซีดขาวไปครู่หนึ่ง

นางไม่ได้เคยเป็นแบบกู้อ้าวเวยเลยสักนิด และยิ่งไม่รู้ว่าสถานการณ์โดยรวมเป็นอย่างไร หลังจากฟังถ้อยวาจานี้แล้วนางก็ไม่เต็มใจเท่าใดนัก

ส่วนซ่านเชียนหยวนกลับจ้องนางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และเอ่ยถามกู้อ้าวเวยต่อ “ข้าเข้าใจความหมายของเจ้าแล้ว แต่ข้าบอกเรื่องนี้กับเจ้า อันที่จริงแล้วก็สงสัยอยู่ว่าทำไมเสด็จลุงถึงไม่มีความเคลื่อนไหว”

“รอดูการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องเคลื่อนไหว ท่านไม่ต้องสนใจเขาหรอก ท่านไปทำตามอิสรเสรีของตนเองเถิด”

กู้อ้าวเวยหัวเราะพลางโบกมือ ซ่านเชียนหยวนเองก็หัวเราะตามขึ้นมาด้วย

ทั้งสองยังคงดูเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และพูดคุยเสวนากันต่อไป

มีเพียงลี่วานคนเดียวที่ยังคงไม่เข้าใจว่านี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ชิงต้ายทำได้เพียงให้นางนั่งลงอยู่ข้างๆ และเอาขนมอบจำนวนไม่น้อยมาให้ ก่อนกล่าวปลอบประโลมเสียงแผ่ว “อุปนิสัยของพระชายาก็เป็นเช่นนี้แหละ แต่นางก็ทำเพื่อองค์ชายสี่จริงๆ นะเจ้าคะ”

“จริงหรือ ทำไมข้าถึงมองไม่ออกเลย” ลี่วานไม่พอใจ

“ไม่สู้ให้ข้าพูดรายละเอียดให้ท่านฟัง?” ชิงต้ายรีบพูดคุยกับนางขึ้นมา พลางบอกความหมายของกู้อ้าวเวยโดยละเอียด

คนหนึ่งรับบทเป็นนางร้าย อีกคนรับบทเป็นนางเอก นับว่าไม่เลวทีเดียว

ถ้าหากสามารถปลุกระดมลี่วานได้จริงๆ ก็ไม่เสียเรื่องดีๆ เปล่าไปหนึ่งเรื่องก็แล้วกัน

กู้อ้าวเวยปราดมองแวบหนึ่งก่อนยิ้มบางขึ้นมา จากนั้นจึงไปเสวนากับซ่านเชียนหยวนต่อ

แต่น่าเสียดายที่ซ่านจินจื๋อให้พวกเขาเข้ามาเยี่ยมเยียนได้เพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น ขณะที่รอเวลาจากไปนั้น กู้อ้าวเวยออกแรงเขียนสิ่งของที่เตรียมตั้งครรภ์ลงบนกระดาษ กำนัลให้แก่เขา และไม่ลืมนำสิ่งของจำนวนมากมอบให้แก่พวกเขา เสร็จแล้วจึงส่งแขก

เพิ่งจะส่งแขกไป กู้อ้าวเวยก็หาวอย่างเกียจคร้านหนึ่งที ยังนึกอยากเขียนสูตรยาทำกำไรบางส่วนให้ฉีหรัวอยู่ แต่กลับได้ยินเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นอยู่ด้านนอกวิหารเฟิ่งหมิง

“ชิงต้าย ไปดูหน่อย” กู้อ้าวเวยยกมือ นั่งอยู่เบื้องหน้าโต๊ะเพียงลำพัง รอหลังจากชิงต้ายกลับมาแล้วจึงมีคนเขียนอะไรบางอย่างแทน

แต่สักพัก ชิงต้ายก็กลับมา เสียงสะอื้นนั้นกลับตามเข้ามาด้วย

“พระชายา ท่านไปดูคุณหนูหน่อยเถอะ วันนี้นางทานอาหารก็เริ่มจะอาเจียนท้องร่วง ทานยาแก้พิษที่ท่านส่งมาให้ กลับไม่เป็นประโยชน์เลย ตอนนี้ยังคงเจ็บยิ่งนัก” หลานเอ๋อร์คุกเข่าลงพลางสะอื้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์