บทที่ 314 เรื่องราวในอดีต
ขณะมองดูตั๋วเงินสามพันตำลึงบนโต๊ะ จื่อเหมิงส่งเสียงหัวเราะ ‘พรืด’ออกมา
หลิ่วเอ๋อร์ตะลึงลาน มองดูกู้อ้าวเวยด้วยสายตาอันน่าประหลาดใจ แต่ก็ยังรับตั๋วเงินสามพันตำลึงนั้นเก็บกลับมา “ท่านลองบอก เพียงแต่ต้องเป็นเรื่องที่พวกเราสามารถกระทำได้”
“ไม่ว่ากู้เฉิงจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบใด จงไว้ชีวิตเขา แล้วนำตัวบ่าวรับใช้เหล่านั้นมาด้วย”
เมื่อสิ้นคำ จื่อเหมิงหยุดหัวเราะโดยพลัน ส่วนหลิ่วเอ๋อร์ก็หน้านิ่วคิ้วขมวด “กู้เฉิงกลับไม่ได้เอ็นดูท่าน”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพียงแค่เพราะเขาเป็นบิดาข้า อีกทั้งเขาได้กระทำเรื่องเลวทรามไว้ไม่น้อย หากให้เขาตายลงเช่นนี้จริง แล้ววิญญาณอาฆาตเหล่านั้นจะไปลงได้ที่ใครกันเล่า?”กู้อ้าวเวยหัวเราะเบาๆพลางย้อนถาม
“ได้ การค้าขายครานี้ พวกเราจะรับไว้” หลิ่วเอ๋อร์พิจารณาอยู่ชั่วครู่หนึ่งจึงนำเงินเก็บลงไป แต่จื่อเหมิงที่อยู่ข้างกายกลับไม่ยินดี พลันเอียงกายมองดูกู้อ้าวเวย “ท่านไม่สงสัยพวกเราเลย? แล้วยังทำการค้าขายค่าหัวกับพวกเราอีกด้วย?
“มีอะไรที่ต้องสงสัย? พวกเจ้าล้วนพูดเองว่าจะไม่ทำอันตรายแก่ข้า ข้าก็แค่ออกใบสั่ง พวกเจ้ารับผิดชอบจัดการก็พอ หากขาดแคลนเงินจะมาเบิกกับข้าเมื่อใดก็ย่อมได้”กู้อ้าวเวยหัวเราเบาๆ เห็นกุ่ยเม่ยที่ใบหูกำลังขึ้นสีแดง นางจึงรีบดึงเสื้อผ้าจื่อเหมิงให้เรียบร้อย
หลิ่วเอ๋อร์สังเกตเห็น จึงรีบนำคนดึงกลับมา
จื่อเหมิงมุ่นคิ้วมองกู้อ้าวเวย “ท่านกล่าวเช่นนี้ รู้สึกว่าน่าโมโหนัก”
“เป็นเพราะข้ามีเงินน่ะซี่” กู้อ้าวเวยยิ้มสดใสขึ้นเล็กน้อย จื่อเหมิงผู้นี้นี่น่าสนใจเสียจริง
จื่อเหมิงกุมหน้าอก ขณะมองดูหลิ่วเอ๋อร์ที่น่าสงสาร หลิ่วเอ๋อร์ก็ทอดถอนใจกับนางด้วยความอับจน นับได้ว่าพวกนางจริงๆไม่มีแต่กู้อ้าวเวยมีเงิน ปกติการได้เงินก้อนใหญ่ยังคงเป็นการค้าขายที่มิอาจแพร่งพราย
ก่อนที่ทั้งคู่จะไป กู้อ้าวเวยยังกระซิบกำชับ “หากในอนาคตมีการค้า ยังสามารถไปหาพวกเจ้าได้อยู่หรือไม่?”
“ย่อมได้ ตราบใดที่ให้ส่งคนนำเงินติดมาด้วย” รอยยิ้มของหลิ่วเอ๋อร์แข็งทื่ออยู่บ้าง
รอจนทั้งคู่จากไป กู้อ้าวเวยจึงได้กวักมือเรียกกุ่ยเม่ย กุ่ยเม่ยเดินเข้ามาด้วยความแปลกใจ “ท่านพบเห็นอะไรแล้วหรือ?”
“ข้าคิดว่าจื่อเหมิงหน้าตาสะสวยยิ่งนัก คนมีนิสัยใจคอเปิดเผย น่าสนใจทำการสู่ขอ” กู้อ้าวเวยตบบ่าของเขา
หลังจากที่ฟังจบ กุ่ยเม่ยพลันขนลุกชูชันทั่วทั้งร่าง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง
กู้อ้าวเวยตบโต๊ะด้วยความเบิกบาน กุ่ยเม่ยจึงสลัดความคิดเกี่ยวกับเรื่องเมื่อครู่โยนทิ้งไป ตั้งมั่นสมาธิกับกู้อ้าวเวย
แต่มีเพียงชิงต้ายที่อยู่ด้านข้างเห็นครบถ้วนทุกขบวนความพลันขมวดคิ้วมุ่น แม้กุ่ยเม่ยจะเป็นคนที่ไม่คิดอะไรมาก แต่มีเพียงนางที่รู้ ว่าทุกครั้งที่กู้อ้าวเวยก่อกวนล้วนเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น
แต่ว่า หลิ่วเอ๋อร์กับจื่อเหมิงนั้นก็ประหลาดจริงๆ คนของทิงเฟิงโหลวไหนเลยจะสามัญธรรมดา แถมยังทำงานให้แก่ฮ่องเต้เอ่อตาน แล้วยังสามารถให้ค่าปิดปากเป็นเงินถึงสามพันตำลึงอย่างง่ายดาย เบื้องหลังของคนกลุ่มนี้ไม่ควรประเมินต่ำเกินไป
กู้อ้าวเวยกับกุ่ยเม่ยทุ่มเถียงกันอยู่สักพัก ทะเลาะกันจนต้องไปหาซ่านจินจื๋อ
นางมาที่ห้องหนังสือ กลับบังเอิญได้ยินขุนนางใหญ่ที่อยู่ด้านในหารือเกี่ยวกับเรื่องของกู้เฉิง
“หากไม่มีหลักฐานความผิดเป็นรูปเป็นร่าง สุดท้ายแล้วก็ไม่มีหนทางที่จะฉุดกู้เฉิงเสี้ยงให้ลงจากอำนาจเลยนะ”ขุนนางใหญ่รายหนึ่งกล่าว
“หลักฐานย่อมมีแน่นอน หากกู้เฉิงเสี้ยงสิ้นอำนาจแล้ว ฮ่องเต้แห่งเอ่อตานอาจไม่ตรัสอะไรเลย เกรงว่ายังอาจจะปรบมือร้องไชโยด้วยซ้ำ”ขุนนางใหญ่อีกคนส่งเสียงโหนตามกระแส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...