บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 406

บทที่406 แกล้งตาย

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นท้องฟ้าก็สว่าง

วิหารเฟิ่งหมิงก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมา สาวใช้สองคนที่ยังอายุไม่ถึงสิบห้าหน้าซีดเผือกคลานออกมาจากวิหารเฟิ่งหมิง ซ่านจินจื๋อที่นอนไม่หลับทั้งคืนเมื่อเพียงได้ยินเสียงพ่อบ้านใจกล้ากลิ้งอยู่ที่พื้นจนแทบจะเอาหัวมุดเข้าไปที่พื้น “พระชายานาง…..นางตายแล้ว….”

ถ้วยที่อยู่ในมือถูกบีบแตกเป็นจุณ ซ่านจินจื๋อรู้สึกว่าจิตวิญญาณตนเองได้หายไป

“เช้านี้…..ตอนที่สองสาวใช้ไป พระชายาล้มอยู่ที่เตียง…..”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงซ่านจินจื๋อก็เดินไปที่วิหารเฟิ่งหมิงอย่างรีบร้อน

มีเสียงร้องไห้อยู่ด้านนอกสวนเฟิ่งหมิง สีหน้าของซ่านจินจื๋อก็ยิ่งหมองลงเข้าไปอีก เมื่อวานก็ยังดีๆอยู่วันนี้จะหายไปได้ยังไง! ไม่แน่กู้อ้าวเวยอาจจะคิดถึงแนวคิดอะไรที่ทำให้คนเจ็บปวด

เมื่อคิดอย่างงี้ ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยแต่ใจดวงนี้กลับเหมือนว่าไม่เคยเต้นมาก่อน

เขากลั้นหายใจแล้วเปิดประตูก็เห็นกู้อ้าวเวยล้มเอียงอยู่ข้างเตียง

เธอพิงอยู่ข้างเตียงขาสองข้างโค้งขึ้นเล็กน้อย หนังสือทางการแพทย์ที่ยังเปิดอยู่ตกแผ่ไปอยู่ข้างตัวแต่หน้านั้นกลับซีดเซียว ซ่านจินจื๋อยืนหยุดอยู่กับที่ไปครู่ ขาทั้งสองข้างขยับไม่ได้

แล้วก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จนกระทั่งเขาเอาเธอเข้าในอ้อมกอด

คนนั้นกลับไม่มีลมหายใจมานานแล้ว แม้กระทั่งมุมปากที่ปกติมักจะยกขึ้นเล็กน้อยตอนนี้ก็ตรงเรียบถึงขนาดมีสีม่วงคล้ำ ส่วนในมือเธอก็กุมจดหมายไว้แผ่นหนึ่ง แต่กลับเขียนแค่ร้านขายโลงศพภายใต้ของเมือง ราวกับว่าได้คาดการณ์วันนี้ไว้

เดิมทีซ่านจินจื๋อคิดว่า ถ้าหากซูพ่านเอ๋อหรือกู้อ้าวเวยใครคนใดคนหนึ่งจากไป เขาจะต้องเจ็บจนไม่อยากมีชีวิตอยู่แน่

แต่ก็อุ้มเธอขึ้นแล้ววางลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน เขาพูดขึ้นเรียบๆว่า “ส่งคนไปบอกเสด็จพี่ แล้วก็ไปร้านโลงศพภายใต้ของเมืองตามที่จดหมายเขียนไว้แล้วก็เอาโลงศพกลับมา วันนี้ตำหนักอ๋องจิ้งจะจัดงานศพ หลังจากสามเดือนค่อยเลื่อนพระชายาเป็นพ่านเอ๋อ

ดูเหมือนทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนแต่มีเพียงเฉิงซานที่รู้จักซ่านจินจื๋อดีเท่านั้นที่รู้

ภายใต้ใบหน้าที่ยิ่งสงบ ความรู้สึกในใจเขากลับยิ่งลึกซึ้ง

เหมือนตอนที่สูญเสียความรักในวันที่ซ่านจินจื๋อเป็นวัยรุ่นอยู่ในสนามรบ แต่ผลสุดท้ายซ่านจินจื๋อก็ตีประตูเมืองแตกและสังหารทหารกองทัพ แต่กลับทิ้งชีวิตหัวหน้าไว้คนเดียวผูกติดไว้บนประตูเมืองแล้วก็ถูกลมฝนทรมานจนตาย

และเพราะด้วยเหตุนี้ข่าวลือเรื่องความดุร้ายของซ่านจินจื๋อก็แพร่ออกไปแต่ไม่มีใครรู้ว่าคนรักของซ่านจินจื๋อนั้นหลังจากที่มีเรื่องอับอายก็ถูกแยกส่วนจนตาย

จัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยซูพ่านเอ๋อกับกู้จี้เหยาก็สวมเสื้อผ้าสีขาว

ห้องโถงตั้งศพใช้เวลาจัดการประมาณสองชั่วโมงแต่ซ่านจินจื๋อกลับไม่ยอมให้ใครแต่กู้อ้าวเวยแม้แต่น้อย แล้วก็ช่วยเธอมัดผมด้วยตัวเองพร้อมทั้งเอาถ้วยชามที่เธอชอบใช้วางไว้ในกล่องเอาลงในโลงศพ

ซูพ่านเอ๋อมองมุมปากม่วงของกู้อ้าวเวย แล้วก็ยกมุมปากขึ้นในที่ที่ไม่มีใครมองเห็น

ที่สุด เธอก็ควรตายจริงๆ

ตั้งแต่ต้นจนจบซ่านจินจื๋อไม่พูดอะไรสักคำจนกระทั่งโลงศพถูกปิดไปได้ครึ่งนึง ทางด้านหลังก็มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของกู้จี้เหยา เขาถึงปิดตาลงอย่างช้าพูดเบาๆว่า “ไปตามจิตรกรทั้งเมืองมาให้หมดเพื่อให้ดูรูปร่างหน้าตาครั้งสุดท้ายของพระชายาจิ้ง”

“พี่จื๋อ แบบนี้มันจะเป็นการไม่เคารพพระชายา…..”

“ข้าต้องการให้นางอยู่บนโลกใบนี้นับว่านี่เป็นการชดเชยอย่างหนึ่ง”มือผอมๆของซ่านจินจื๋อวางลงบนโลงศพอย่างช้าๆดวงตาแดงก่ำทั้งสองข้างจ้องมองคนที่อยู่ในโลงศพไม่วางตาแล้วพูดเสียงทุ้มว่า “เอาใบสั่งยาทั้งหมดของพระชายาจิ้งให้มหาบัณฑิต ของสํานักฮั่นหลินคัดลอกเป็นหนังสือ แล้วเอาให้ร้านยาทั้งหมดในเทียนเหยียน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์