บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 444

บทที่ 444 อำนาจบดบังดวงตา

หยาดเลือดสาดกระเซ็น เปรอะเข้ากับหิมะที่ลอยละล่องร่วงลงมา

มีดที่อยู่ในมือก็อาบเอาไว้ด้วยเลือดอันนับไม่ถ้วน ภายใต้กีบม้าก็เต็มไปด้วยซากกองกระดูกที่ท่วมกองพะเนิน

ซ่านจินจื๋อดึงเอาบังเหียนไว้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งหวังจะประหัตประหารเอาชีวิตต้องมองคนที่คุกเข่าลงอยู่กับพื้นด้วยความเยียบเย็น  

“คิดไม่ถึงว่าสตรีก็จะเป็นผู้นำพลทหารได้ แม้กระทั่งนายกองของเจ้ายังอาจหาญมากกว่าเจ้าด้วยซ้ำ”ดาบในมือซ่านจินจื๋อฟาดลงจรดบนปลายจมูกของอ้ายจือ

 นายกองที่อยู่ข้างกายอ้ายจือทั้งศีรษะแล้วตัวกระเด็นแยกออกจากกัน มีเพียงแค่ใบหน้าที่น่าสยดสยองแหงนมองไปที่ท้องฟ้า  

หิมะตรงสุดปลายทางมาอย่างรวดเร็วและก้อนใหญ่ อ้ายจือคุกเข่าลงกับพื้นแขนขาทั้งสองข้างต่างก็สั่นเทาขึ้น ถึงแม้ว่าจะสวมใส่ชุดเกราะเอาไว้ นางก็ยังคงมีท่าทีที่แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงกันแน่

“ท่านจะฆ่าข้าไม่ได้”น้ำเสียงของอ้ายจือสั่นระรัว ละอองหิมะบนหน้าผากของนางกลางเป็นหยดน้ำที่ร่วงลง ก่อนที่ทัพใหญ่ของซ่านจินจื๋อจะมาถึง นางพูดขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ข้าทนดูท่านพ่อของข้าไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ข้าสามารถให้ในสิ่งที่ท่านต้องการได้ เพียงแค่ว่าท่านจำต้องไว้ชีวิตข้า”

“เจ้าทำความหายนะให้กับกู้เฉิงและพวกเขา ดังนั้นถึงได้เมืองทั้งสองเอาไว้ในมือ”  ซ่านจินจื๋อหัวเราะด้วยเสียงเย็น “นี่ก็ยังเป็นอีกสองเมืองที่พวกเจ้ามาขโมยไป ข้าจะต้อง一一ตีเอามันกลับมาทั้งหมด เจ้า มันไม่มีประโยชน์อันใด”

ร่างของอ้ายจือสั่นระรัว หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งในตอนที่มีเสียงกีบเท้าม้าพุ่งมา “ข้าสามารถแย่งชิงบัลลังก์มาให้เจ้าได้”

ตามมาด้วย บรรดาพลทหารที่รีบเร่งเร้าล้อมตัวของอ้ายจือไว้เป็นมั่น โดยที่ยังไม่ได้ใช้มีดดาบจ่อเข้ากับที่ทรวงอกของศัตรู ก็ได้ยินเสียงนายทหารชั้นสูงที่อยู่ด้านบนม้าสีดำของพวกเขาสะบัดดาบยาวลง หยาดเลือดที่อยู่บนดาบกระเด็นเข้าใส่ร่างของอ้ายจือ นางตกใจเสียหมดสติลงไปในสถานการณ์ตอนนั้น

“ท่านอ๋อง เขา……”

“นำเอานางกลับไปด้วย ขังจำคุกเอาไว้ให้มั่น”

ซ่านจินจื๋อดึงบังเหียนขึ้น ในเวลาเดียวกับที่หมุนตัวจะกลับไปยังค่าย พลทหารที่คาบข่าวด่วนก็กระโดดลงจากหลังม้า คุกเข่าลงตรงหน้าของเขา

“ท่านอ๋อง ! แคว้นเจียงเยี่ยนสั่งให้กองกำลังหลักเข้าโจมตีเมืองกวนผิง ขอกำลังสนับสนุนด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ”

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง ซ่านจินจื๋อเองก็พอจะรู้อยู่ว่าทำไมคนที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาได้ กลับมีเพียงแค่หญิงสาวที่ไม่ได้รับการเอาอกเอาใจ

เดิมทีนั่นมันคือกับดักหลุมพรางที่ล่อลวง

 ในตอนที่เขากำลังจะมีคำสั่งออกไป บัลลังก์คำสองพยางค์นี้ก็ได้ถาโถมเข้ามาในสมอง 

ภาพฉากในเมื่อครู่ที่อ้ายจือหัวเราะอย่างบ้าคลั่งยังคงแจ่มชัด ป้ายหลุมศพที่อยู่ภายใต้คลองลั่วส่วยก็สลักชื่อคนทั้งสองคนเอาไว้

 มีเพียงแค่ได้มาซึ่งราชบัลลังก์แล้วไซร้ เขาถึงมีทั้งอำนาจเกียรติยศและความรัก  “องค์ชายสามทรงมีวิธีอยู่แล้ว แต่พวกเจ้ายังต้องตระเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย หลังจากเวลาสองชั่วยามไปแล้วรีบไปที่เมืองกวนผิงเสีย”ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นอย่างลวก ๆ

“แต่เวลาสองชั่วยามนั้น……” สีหน้าของนายพลทหารพลันก็ซีดขาวลงในทันที

“ไปทำตามที่ข้าพูด”ซ่านจินจื๋อเน้นเสียงแต่ละคำอย่างหนัก พลทหารทั้งหมดทั้งมวลต่างก็พากันตั้งอกตั้งใจ ไม่มีใครกล้าทัดทานขึ้น

เพียงเพราะว่าซ่านจินจื๋อคือเทพแห่งสงครามสำหรับพวกเขา

เขามักจะมีวิธีไว้จัดการกับปัญหาทั้งหมดทั้งมวล เขาสามารถเอาชัยชนะมาให้กับชางหลานได้เสมอ ๆ

แต่องค์ชายสามเป็นเพียงแค่องค์ชายที่ธรรมดา ๆ ไม่โดดเด่น พวกเขาจึ่งรู้ได้เองว่าควรจะเชื่อใคร   

พายุโหมกระหน่ำก่อตัวขึ้น เกล็ดน้ำแข็งของหิมะขาวโพลนเป็นแผ่นใหญ่ ๆ ล่องลอยกระจุยกระจายไปตามสายลม ทำเอาสนามรบที่อาบไว้ด้วยเลือดล้อมตัวเข้าไว้ด้วยกันเป็นชั้น ๆ ซ่านจินจื๋อเดินเข้าไปในกระโจมใหญ่ที่อบอุ่น ซูพ่านเอ๋อที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับเลือดที่เปียกโชกไปทั้งตัวของเขาก็ได้ถลาเข้าสู่อ้อมกอด

“ท่านพี่จื๋อ” 

“ข้ากลับมาแล้ว” ซ่านจินจื๋อได้โอบซูพ่านเอ๋อเอาไว้เบา ๆ ใจดวงนั้นก็ค่อย ๆ ตกลงกลับไปอยู่ในท้องน้อย

“ข้าได้ยินมาว่าท่านได้นำอ้ายจือกลับมาด้วยกัน แต่ได้สอบถามข่าวคราวอะไรของเจียงเยี่ยน”ซูพ่านเอ๋อรีบกุลีกุจอรุดตัวเข้ามา เช็ดคราบรอยเลือดที่อยู่บนใบหน้าของซ่านจินจื๋ออย่างบรรจง

“ไม่มีนะ”ซ่านจินจื๋อได้เอาถ้อยถ้วนคำของอ้ายจือบอกเล่าตั้งแต่ต้นจนจบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์