บทที่ 450 ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร
ท่ามกลางความหนาวเหน็บในฤดูใบไม้ผลิ กู้อ้าวเวยหลงเหลือเพียงแค่ชุดด้านในตัวบางลงแช่อยู่ในลำธารเล็ก ๆ นางกอดเข่าตัวเองอยู่ในน้ำ คลื่นที่อยู่ข้างใต้ก็ได้เอ่อท่วมขึ้นมายังเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้เปียกไปด้วย ล่องลอยเพียงเล็กน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบริเวณคอเสื้อที่ได้เผยออกมาเล็กน้อย ปรากฏให้เห็นถึงบริเวณไหปลาร้าที่บอบบางพร้อมกับกลุ่มเมฆที่บูดเบี้ยวไปมา
บนชุดด้านในต่างก็เคลือบไว้ด้วยสีของเนื้อหนัง
พอซ่านเซิ่งหานรู้ตัวเข้า ก็รู้สึกเพียงแค่ว่าใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าว หลบเข้ากับหลังต้นไม้อย่างไม่ทันได้รู้ตัว
แต่กู้อ้าวเวยในเพลานี้เองก็หาได้ตระหนักถึงปัญหาใด ๆ ไม่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นางอยู่ในค่ายทหารมาเป็นระยะเวลานานกระทั้งข้อมือและข้อเท้าไม่ได้เผยออกมาให้เห็น วันนี้โชคดีที่ว่ามีเวลาได้ออกมา ก็เลยถือโอกาสจัดแจงทำความสะอาดไปเลยสักรอบ ก่อนที่กุ่ยเม่ยจะไปหาผลไม้ก็ได้ออกไปเสาะหาจนทั่ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ ของผู้คน นางเองก็โล่งใจ
“อย่าสะบัดน้ำแล้วสิ รออีกสักเดี๋ยวข้าจะจุดไฟแล้วผิงมันด้วยกันนี่ล่ะ”กู้อ้าวเวยยกมือกดสุนัขของค่ายทหารเอาไว้
จะว่าไปแล้วจมูกของสุนัขพวกนี้ล้วนแล้วแต่ว่องไว คอยช่วยเหลือข้าราชการท้องถิ่นทำงานมาเป็นเวลานาน ก็สามารถบอกเตือนอันตรายล่วงหน้าก่อนได้ พวกนายกองทั้งหลายต่างก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับนาง แต่จะสั่งกำลังคนให้มาแทนก็ไม่ได้ง่าย ๆ ถึงบังคับสั่งสุนัขตัวใหญ่ให้ติดตามมาด้วย
สุนัขตัวใหญ่ที่ว่านี้จามออกมาหนึ่งที ตลกเสียจนทำให้กู้อ้าวเวยต้องขำออกมา คว้ามันเอามาให้ไปอยู่ในน้ำ มีความประสงค์ร้าย ๆ อยู่ด้วย “เจ้าเองในปกติก็ไม่ได้พบเจอน้ำ เล่นสักหน่อยไม่แน่ว่าจะชอบเข้าก็ได้นะ”
สุนัขตัวใหญ่นั้นก็ได้วิ่งหนีอย่างกระหืดกระหอบ อยู่ที่ด้านหลังก้อนหินส่ายตัวไปมา ดวงตาจ้องมองไปที่นางอย่างระแวดระวัง
กู้อ้าวเวยรู้สึกอิดหนาระอาใจ ราวกับว่าสัตว์ตัวนั้นไม่ชอบจะเข้าใกล้ตัวเองสักเท่าไหร่
เหยียบย้ำลงไปในน้ำสักครู่ ตอนที่กู้อ้าวเวยได้หายใจเข้าอย่างเอื่อย ๆ เสียงที่แหวกอากาศพลันก็ดังขึ้นในทันที
ซ่านเซิ่งหานกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ ดาบที่อยู่ในมือขวางเอาลูกธนูที่พุ่งเข้ามา
“นี่!”กู้อ้าวเวยตกใจเสียจนรีบลุกขึ้นยืน แล้วก็คว้าเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนก้อนหินเอามาบดบังท่อนบนของตัวเองไว้
“สวรรค์!”เพื่อให้สบายตัวแม้กระทั่งชุดชั้นในท่อนบนก็ถอดออกด้วย ชุดเสื้อตัวในที่เป็นสีขาวเดิมทีไม่ได้มีประโยชน์ที่จะช่วยบดบังอะไร
เหมือนกับถูกความตกตะลึงของกู้อ้าวเวยทำให้รู้สึกตกใจขึ้น ซ่านเซิ่งหานก็มือไม้เก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางตรงไหน เพียงแค่ขัดขวางเอาไว้จากอันตรายที่ซุ่มซ่อนอยู่ใกล้ ๆ เขาถึงได้หันหลังเขยิบเข้าไปใกล้กู้อ้าวเวยด้วยความใจกล้า ใบหน้าก็แดงซ่านขึ้น “เมื่อครู่ข้ามาถึง เห็นเจ้ากำลัง……”
“เดิมทีเป็นองค์ชายสามนี่เอง ข้าก็คิดว่าทหารที่ไม่ดูตาม้าตาเรือคนไหนกัน ทำผิดมหันต์”
ได้ยินเพียงแค่เสียงคุ้นเคยที่ดังเข้า กู้อ้าวเวยก็ยังไม่ทันได้มองเห็นหน้าคนนั้นชัด ๆ เสื้อคลุมหนาตัวหนักก็ได้ถูกดันเข้ามาอยู่ตรงด้านหน้า
นางรีบคว้าเอาที่เสื้อคลุมอย่างว่องไวแล้วโผล่แต่ดวงตาทั้งสองข้างออกมา รอจนเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าชัดขึ้น ถึงได้รีบเอาเสื้อคลุมห่อพันตัวเองเอาไว้ในทันที ตอนแรกสุนัขตัวใหญ่นั้นก็ดูมีทีท่าไม่เป็นมิตรต่อคนที่เข้ามา ยังไม่ทันได้ออกตัวพุ่งเข้ามา ก็ถูกกู้อ้าวเวยโค้งตัวลงไปยึดมันเอาไว้แน่น มองไปที่คนที่อยู่ในชุดขาวอย่างเหนื่อยใจ “เจ้ามาได้ยังไงกัน?ทุกครั้งที่เห็นเจ้าก็ตื่นเต้นกระวีกระวาดจะตายไป”
“ข้ายืนเฝ้าเจ้าเองไว้ที่ใกล้ ๆ นี้เป็นเวลานานแล้ว มาอาบน้ำข้างนอกไม่ได้เตรียมการป้องกันอะไรเอาไว้เลยสักนิด ถ้าหากว่าถูกเห็นเข้า นายท่านกลัวว่าจะดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปแล้ว”ผิงชวนพูดขึ้นอย่างระอาใจ พร้อมกับเอากิ่งไม้ที่หยิบได้โดยบังเอิญขึ้นมา แล้วพูดต่อไปว่า “เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสามเนี่ยจะเป็นผู้ทรงศีล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...