บทที่ 481 ท่านแม่เดือดดาล
“แม่นาง วันนี้มีพ่อครัวใหญ่มาจากชางหลาน เกี๊ยวที่ทำเป็นผลงานชิ้นเอกเชียวนะ”
อาหารยกมาวาง เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์คนนั้นประชิดเข้ามาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“เอาล่ะ เอาแบบเผ็ดเปรี้ยว” กู้อ้าวเวยมองดูอาหารโอชะโต๊ะนี้ แต่กลับปริปากเอ่ยคำ
ฉูหลี่เคยพบเห็นความอยากอาหารของกู้อ้าวเวย จะว่าไปแล้วก็ไม่ถือว่าน้อยเลย ซ้ำยังกินเร็วอีก เดิมเขายังคิดว่าสถานะของบิดาจะกระตุ้นให้นางทานข้าวช้าลง หลายวันมานี้กลับขันชะเนาะคืนมาไม่ได้เลยสักนิดเดียว ในทางกลับกันยังถูกนางคีบอาหารมาให้บ่อยครั้งเล่นเอาผงะ
ก็แม้แต่เมื่อวานตอนที่หารืออยู่กับฉูห้าวในห้องหนังสือ ยังถูกเจ้าหลานชายตาแป๋วจิตใจดำชี้แนะให้อย่างดีหนึ่งฉาด วันนี้ออกมา วันนี้ที่ออกมา ดูจากลุกปัดแก้วเส้นนี้แล้ว กลับคงทำได้เพียงเอาเงินให้เท่านั้นแล้ว
ผ่านไปสักพัก เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ยกเกี๊ยวสองชามวิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นมา ในถาดยังมีถุงหองวางอยู่หนึ่งอัน
วางข้าวของลง เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์เช็ดมือและวางถุงเครื่องหอมนั่นยื่นให้ต่อหน้ากู้อ้าวเวย “ด้านล่างมีแขกท่านหนึ่งให้ข้านำของสิ่งนี้มามอบให้ท่าน บอกให้ลองถามดูว่า วันนี้สะดวกขึ้นมาพบหน้าพูดคุยกันสักหนหรือไม่”
กลิ่นหอมในถุงเครื่องหอมนั้นช่างแสนคุ้นเคยยิ่งนัก นางเหลือบมองฉูหลี่ปราดหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “ท่านสามารถรับปากข้าว่าอีกประเดี๋ยวได้ยินอะไรเข้าท่านก็จะไม่ส่งเสียงหรือไม่”
“ได้สิ” ฉูหลี่พยักหน้ารับปาก
“ให้พวกเขาขึ้นมาเถิด และเอาชามตะเกียบมาเพิ่มอีกหน่อยด้วย” กู้อ้าวเวยยิ้มพลางนำถุงหอมชิ้นนั้นส่งกลับคืนใส่มือของเด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ “ถุงหอมนี้เป็นของชางหลาน หากเจ้าชอบละก็ เช่นนั้นจงนำไปมอบให้กับคนในดวงใจเถิด”
เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์วิ่งลงไปข้างล่างด้วยความปลื้มปีติ
แต่ไม่นานนัก ก็มีสองคนเดินขึ้นมา หยินเชี่ยวนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงก็โถมเข้ามาเสียแล้ว ฉีหรัวที่อยู่ด้านหลังกลับยับยั้งไว้ ทำเพียงชำเลืองมองฉูหลี่หนึ่งที รู้แต่ว่าคนผู้นี้มั่งคั่งน่าเชื่อถือ จึงหย่อนตัวนั่งลงอย่างใจเย็น กล่าวอย่างจนปัญญา “ท่านช่างรู้จักเอื้อเฟื้อจริง ๆ ก็แม้แต่ถุงเครื่องหอมของข้ายังเอาให้คนอื่นเลย”
“ถุงหอมชิ้นนั้นไม่ใช่ของที่เจ้าพกติดตัวเสียหน่อย เอาให้ไปก็ไม่ได้เจ็บปวดรวดร้าวนักหรอก มันช่วยประให้ให้เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์คนนั้นไม่มีแก่ใจมีแนบหูฟังข้างกำแพง” กู้อ้าวเวยลูบกระหม่อมของหยินเชี่ยว ก่อนพยุงนางไปนั่งลงบนตำแหน่งด้านข้างอย่างประคบประหงม “อายุมากแล้ว ถูกฉีหลินตามใจจนเคยตัวไปแล้วสินะ”
หยินเชี่ยวนั่งลงอย่างว่าง่าย เวลานี้ถึงเพิ่งมองเห็นผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงข้ามของกู้อ้าวเวย ถูกสายตาคมกริบคู่นี้กรีดแทงจนต้องหดตัวลงไป ก่อนถาม “คุณหนู ท่านผู้นี้คือ...”
“สหายท่านหนึ่ง” กู้อ้าวเวยกระแอมไอเบา ๆ หลายที ลอบชำเลืองฉูหลี่ปราดหนึ่ง เห็นเขาไม่ได้โกรธ คราวนี้จึงกล่าวต่อไปอย่างกล้าหาญชาญชัย “จะว่าไปเหตุใดพวกเจ้าถึงมา อ๋องจงผิงว่าอย่างไรแล้วหรือ”
“ย่อมต้องเกี่ยวพันกับเขาอย่างแน่นอน พวกเราเข้ามาในคราวนี้ก็เพื่อจะนำข่าวคราวมาแจ้งให้ท่านสักหน่อย และจะพักอยู่ที่นี่ติดต่อกันสักระยะ ทางฝั่งชางหลานนั้นอาจจะค่อนข้างอลหม่านไปหน่อย” ฉีหรัวรอจนเด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์นำชามตะเกียบขึ้นมาให้ หลังจากที่เขาออกไปโดยสมบูรณ์แล้วจึงเริ่มอ้าปาก
เดิมทีเมืองชี่ถูกล้อมโจมตีในตอนแรก องค์ชายสามจับกุมสองนายพลเจียงเยี่ยน ทว่าตอนที่เรื่องดังกล่าวแพร่สะพัดไปที่เทียนเหยียน ฮ่องเต้ต้วนโฉงกลับยกคุณงามความดีทั้งหมดใส่ตัวอ๋องจงผิง องค์ชายสามยังไม่ทันตอบสนองกลับมาด้วยซ้ำ อ๋องจงผิงก็นำคนไปเก็บกวาดเบื้องบนเบื้องล่างในเมืองชี่รอบหนึ่งแล้ว ส่วนเมิ่งซู่ก็ยืนอยู่ฝั่งอ๋องจงผิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...