บทที่ 506 มูลค่าการพิสูจน์
ทั้งสามคนกำลังคุยธุระนิดหน่อยอยู่ด้านนอก
แต่ผู้คนด้านในต่างกำลังดื่มด่ำอยู่กับชาด้วยความสงบ กู้อ้าวเวยคิดไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรที่ซ่านจินจื๋อต้องเยี่ยมเยียนด้วยตนเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลังจากที่นางออกมา นางก็ไม่รู้ว่าซ่านจินจื๋อลงโทษซูพ่านเอ๋อจริงหรือไม่
บางคราซ่านจินจื๋อก็ปฏิบัติต่อนางดีทุกอย่าง เพียงเพราะเพื่อซูพ่านเอ่อก็ไม่แน่
อันที่จริงมันก็ยากที่จะมาที่นี่ ตอนนี้เริ่มที่จะอ่อนแอนิดหน่อยหรือว่าตนเองอาจจะต้องยอมศิโรราบแล้วจริง ๆ นางไม่อาจจะเชื่อคำเหลวไหลของซ่านจินจื๋อได้อีก โดยปกติแล้วเขาจะชอบเปิดไพ่โดยไม่ทำตามแผนที่วางกันเอาไว้
ตอนที่กู้เฉิงกลับมา นางกำลังตกอยู่ในภวังค์
“บางทีซ่านจินจื๋ออาจจะทำเพื่อซูพ่านเอ๋อจริง ๆ” กู้เฉิงพูดแบบนี้ “ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องที่จะพาซูพ่านเอ๋อไปแคว้นเอ่อตานตอนฤดูใบไม้ร่วง”
กู้เฉิงรู้เรื่องนี้ผ่านทางกู้จี้เหยา
แต่กู้อ้าวเวยได้ยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ที่อยู่ขององค์หญิงแคว้นเอ่อตานจะเปิดเผยออกไปไม่ได้ บางทีกู้เฉิงอาจจะส่งคนออกไปสืบ ซ่านจินจื๋อทำไปเพื่อให้ซูพ่านเอ๋อมีตัวตนที่แท้จริง
ตื่นตระหนกตกใจออกมาอย่างไม่มีปิดบัง กู้อ้าวเวยนิ่งเงียบไปชั่วขณะ หลับตาลงแล้วเอ่ยปากพูด “ข้าก็รู้ว่าเขาทำไปทุกอย่างก็เพื่อซูพ่านเอ๋อ”
“แต่ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ ข้ารู้สถานะตัวตนของเจ้า” กู้เฉิงยกมือขึ้นและจับมือนางไว้ เหมือนว่าจะให้กู้อ้าวเวยเป็นลูกสาวแท้ๆของตนเองขึ้นมาจริง ๆ “หยุนหว่านไม่อยู่ ข้าสามารถจะพิสูจน์สถานะของเจ้าได้”
เวยหน้าขึ้นมองเขา กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง
ความอาฆาตแค้นในใจเต็มแน่นอยู่ในอก อาจจะมีใครสักคนบนโลกนี้ที่นางจะสามารถเชื่อได้ แต่มีไม่มาก
ครั้งแรกที่หยุนหว่านก่อตั้งทิงเฟิงเก๋อ ก็เพื่อตระกูลหยุน เพื่อล้างแค้น แต่กลับให้นางทั้งใจ และฮ่องเต้แคว้นเอ่อตานผู้เป็นบิดากลับเป็นคนที่เพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นางก็ไม่อยากจะเชื่อเลย จึงไม่สามารถพูดบอกได้ทุกอย่าง
ที่พึ่งพาได้อยู่ ก็คงจะมีเพียงตนเองเท่านั้น
เมื่อเทียบกับความเชื่ออีกด้านหนึ่ง ถ้าหากไม่ลงมือทำอะไรเลย ในระหว่างที่กำลังตรวจสอบก็คงจะต้องช่วยเหลือตนเองไป
“กีวแต่เพียงว่าสถานการณ์ของข้าที่อยู่ในเมืองเจียงเยี่ยนจะลำบากมากขึ้น” กู้อ้าวเวยดึงมือของตนเองออกมา “หากแต่ใต้เท้าเห็นแก่ความรักครั้งเก่า หากว่าจะช่วยพาข้าไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ก็จะเป็นการทำให้ข้าสามารถจะใช้ชีวิตต่อไปได้”
“เป็นแบบนี้ก็ดีนะ แต่ข้าก็ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า” กู้เฉิงหัวเราะ “ฮ่องเต้ถูกวางยามานาน นั้นเป็นฝีมือของอ้ายหยิน ข้าอยากให้เจ้าช่วยนำเรื่องทั้งหมดออกมา แล้วบีบให้อ้ายหยินลงมือ”
กู้อ้าวเวยเลิกคิ้วเล็กน้อย “ได้ อย่างนั้นเจ้าก็ต้องรับรองข้าด้วย ไม่ว่าในอนาคตซ่านจินจื๋อและซูพ่านเอ๋อจะยั่วยุอย่างไร เจ้าก็ยังคงจำเป็นจะต้องยืนยันในสถานะของข้า โดยไม่คิดมูลค่า”
“คุยงานกับคนฉลาด คำไหนคำนั้นแน่นอน” กู้เฉิงก็ดึงมือตนเองกลับเช่นกัน
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม
กู้เฉิงรู้สึกว่าตนเองรู้จักกู้อ้าวเวยเป็นอย่างดี ยิ่งรู้ด้วยว่านางไม่ใช่พวกไร้ประโยชน์หาสาระไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ในอนาคตจะกลับมาคืนดีกับซ่านจินจื๋ออีก แต่กลับไม่เห็น หลังจากที่เขาออกไป กู่เซิงได้ตามล่ายเสวียนเข้ามาในจวน
ส่งกู้เฉิงออกไป ก็มีกู่เซิงและล่ายเสวียนเข้ามา
สีหน้าท่าทีของกู้อ้าวเวยยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่กลับอดไม่ได้ที่จะมองไปยังห้องของอ้ายจือ ที่นั่นดูเงียบสงบ แต่หากมองไปอย่างละเอียด ก็จะยิ่งมองเห็นว่าที่นั่นมีคนนั่งอยู่บนเก้าอี้
กู่เซิงนั่งลง พูดออกไปตรง ๆ “กู้จี้เหยาส่งข่าวมาให้ข้า การกระทำเหล่านั้นท่านพ่อทำไปก็เพื่อหลอกเจ้าเท่านั้น เพื่อต้องการกระตุ้นความรู้สึกระหว่างเจ้าและซ่านจินจื๋อ”
ในแผนการไม่ได้นับรวมกู่เซิง นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป “เจ้ามาครั้งนี้ เพียงเพื่อเปิดโปงพ่อตัวเอง ข้าจำได้ว่าระหว่างเจ้ากับข้าเราไม่ได้มีสัมพันธ์ที่ดีกันเท่าไร ฮัวลี๋เองก็ยังมาตายอยู่ที่ตำหนักอ๋องจิ้งหลังจากข้าจากไป”
ล่ายเสวียนยืนฟังอย่างเงียบๆ มองไปเห็นกู่เซิงขมวดคิ้ว ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้ารู้ด้วยว่าเจ้าทำร้ายซูพ่านเอ๋อด้วยตัวเอง และรู้ด้วยว่าหยุนหว่านยังไม่ตาย เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนรู้มาจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฉางอีฉินและกู้จี้เหยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...