บทที่529 บีบบังคับ
ตะวันโด่งฟ้าซ่านจินจื๋อก็เอาอาหารแสนอร่อยกลับมาที่บ้าน
ชิงจือที่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกำลังนั่งพิงในอ้อมกอดของกู้อ้าวเวยเล่นด้ายในมือส่วนเอ้อยาตอนนี้ก็สะอาดเรียบร้อยสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อนกำลังกินเกี๊ยวอย่างช้าๆ
กู้อ้าวเวยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อวานช่วยเอ้อยาเช็ดๆปากแล้วก็ทำเหมือนมองไม่เห็นซ่านจินจื๋อ พูดกับเอ้อยาอย่างอ่อนโยนว่า: “เมื่อวานเจ้าก็ไม่ได้กลับบ้าน รอสักพักข้าจะไปบ้านกับเจ้าจะได้ไม่ถูกคนที่บ้านดุเอา”
“ไม่หรอกค่ะ พี่ชายพี่สาวไม่อยู่บ้าน น้าหกก็ต้องดูแลครอบครัวตัวเองไม่เคยมาสนใจข้า”เอ้อยาที่ถูกเช็กปากก็หรี่ตาน้อยๆแล้วกินเกี๊ยวอย่างน่าเอ็นดู
ชิงจือก็เงยหน้าขึ้นมองเอ้อยาแล้วคว้าปลายเสื้อกู้อ้าวเวยเบาๆ——เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาที่เอ้อยาพูดถึงครอบครัวมักจะมีแววตาที่แปลกๆ
ก็อ้าวเวยลูบๆหน้าเขาวางเขาลงจากตัก: “ชิงจือ ครอบครัวของเอ้อยาปฏิบัติต่อนางไม่ค่อยดีดังนั้นถึงรู้สึกหดหู่ทุกวัน ในฐานะเพื่อน เจ้าควรตั้งใจช่วยนาง รู้ไหม?”
“ต้องช่วยยังไงถึงจะดีหรือ?” หน้าของชิงจือเต็มไปด้วยความสงสัย
“ต้องการจะรู้ว่าจะช่วยอย่างไรอันดับแรกก็ต้องไปดูว่าปัญหามาจากที่ไหนหลังจากนั้นถึงจะรู้ว่าต้องการช่วยอะไรเขา จากนั้นก็จะรู้ว่าควรจะช่วยเขายังไง” กู้อ้าวเวยเอาถ้วยเกี๊ยวเล็กๆของเขาวางไว้บนโต๊ะ พูดยิ้มๆว่า: “กินของก่อนแล้วค่อยไปช่วยคน”
ชิงจือพยักหน้าอย่างแปลกใจแต่ก็ยังปีนขึ้นไปบนเก้าอี้เพื่อกินข้าว เอ้อยาหันไปมองกู้อ้าวเวยอย่างใจลอยจากนั้นก็หันไปมองซ่านจินจื๋อที่วางกล่องข้าวระดับสูงลง แล้วก็ถามอย่างแปลกใจ: “พวกท่านกับชิงจือไม่เหมือนกันสักนิด”
“ข้ากับเขาไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน” กู้อ้าวเวยหยิบเครื่องเคียงมาจัดไว้เรียบร้อยแล้วก็หันไปมองซ่านจินจื๋อ“ระหว่างข้ากับเขานั้นมันไม่ชัดเจนนับไม่ได้ว่าเชื่อถือได้”
ซ่านจินจื๋อไม่พอใจกับคำพูดนี้เอาข้าวของกู้อ้าวเวยส่งไปตรงหน้านาง: “พูดไร้สาระระหว่างเรามันน่าเชื่อถือได้ เมื่อวานเพิ่ง……”
“ท่านคิดพูดอะไรต่อหน้าเด็ก?” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นมาปิดปากเขาจ้องตาเขม่น
ซ่านจินจื๋อเลิกคิ้วขึ้นจับแขนของกู้อ้าวเวยมาที่ข้างกายแล้วเชิดคางขึ้นให้กับเอ้อยาอย่างภูมิใจ: “พวกเราเป็นสามีภรรยา”
“เหมือน”เอ้อยายิ้มหวาน: “ชิงจือปฏิบัติกับข้าอย่างจริงใจ พี่ชายพี่สาวก็บอกข้าว่าก็ต้องปฏิบัติอย่างจริงใจเช่นกัน ข้าจะดูแลเขาให้ดี”
“ถ้างั้นก็ต้องขอบใจเจ้า” กู้อ้าวเวยยิ้มบางๆ
ทั้งสี่คนกินข้าวอย่างรีบๆเด็กสองคนก็จูงมือกันออกไป ซ่านจินจื๋อกับกู้อ้าวเวยก็ส่งคนคอยแอบตามไป ด้านกู้อ้าวเวยก็อยากเข้าวังเพื่อไปอุดปากหมอหลวง ซ่านจินจื๋อก็ตามขึ้นมา: “ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”
“ถ้าเจอซูพ่านเอ๋อจะทำเช่นไร?” กู้อ้าวเวยไม่เห็นด้วย
“เจอก็ไม่เห็นเป็นไร”ซ่านจินจื๋อยืนกรานกอดเอวนางไว้ แม้จะอยู่ในแคว้นเอ่อตานที่ค่อนข้างเปิดกว้างแต่ก็ยังดึงดูดความสนใจคนอยู่มาก กู้อ้าวเวยจึงต้องหมุนตัวมาจับมือเขาไว้ เขาจะได้ไม่ทำอะไรหน้าไม่อายเช่นนี้อีก
เข้าไปในวังก็หาหมอหลวงเป็นอันดับแรกเพื่อระงับเรื่องนี้แล้วสอบถามเรื่องคนดูแลมารยาทที่จัดการรายละเอียดเกี่ยวกับพิธีบรรดาศักดิ์ ถึงจะกลับไปที่ห้องรองของตนแล้วก็ส่งซ่านจินจื๋อออกไปตนเองก็กินยา คนที่อยู่ด้านหลังก็เอามือข้างหนึ่งวางเธอไว้บนเตียง: “ข้าเอง”
นอนลงอย่างเชื่อฟังปล่อยให้ซ่านจินจื๋อบีบนวดขาตนเอง นางมองเขา: “วันนี้ท่านเหมือนมีอะไรเปลี่ยนไป”
“ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป” ซ่านจินจื๋อยังคงก้มหัวทำสิ่งที่กำลังทำ
กู้อ้าวเวยไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรมารู้เพียงแต่ว่าสองสามวันนี้หยุนหว่านกับจื่อเหมิงไม่มาที่นี่เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...