บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 551

บทที่ 551 ลูกสาวของกู้เฉิง

“เจ้า...”

ซูพ่านเอ๋อพึมพำกับตัวเอง ปล่อยให้เซียวไห่ดึงนางออกมาจากรถม้าที่เปื้อนด้วยโลหิต

แม้แต่ลูกน้องที่เซียวไห่พามาล้วนสวมผ้าพันคอผืนหนา ทั่วกายเปื้อนฝุ่นผง ถึงกระนั้น ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อซูพ่านเอ๋อในการมองเห็นกู้จี้เหยาซึ่งอยู่บนหลังม้าเลย

เมื่อศัตรูเผชิญหน้ากัน ย่อมต้องตาร้อนผ่าว ๆ เป็นธรรมดา

ซูพ่านเอ๋อยังคิดจะไถ่ถามเซียวไห่ว่าเพราะเหตุใดจึงพากู้จี้เหยาออกมา หรือไม่ก็ทำไมเขาไม่รออยู่ในชางหลานเพื่อแก้ปัญหาเรื่องของทิงเฟิงโหล แต่เซียวไห่ได้โยนนางขึ้นบนหลังม้าเสียแล้ว

“ทิงเฟิงโหลยากต่อการยั่วยุนัก ได้มาพบท่านที่นี่ก็ต้องขอบคุณข่าวสารของพวกเขามากแล้ว”

เซียวไห่ยกมือ เหล่าผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านหลังจึงควบม้าตะบึงไป แม้กระทั่งกู้จี้เหยาก็ยังดึงผ้าพันคอขึ้นมา ควบม้าตามไปด้วยสายตาเปี่ยมความเหนื่อยล้า ซูพ่านเอ๋อแสนจนปัญญา ทำได้เพียงฝืนตัวเองอยู่บนม้าตัวนี้

ลมและทรายที่พัดมาซึ่ง ๆ หน้าเกือบจะทำให้ดวงตาของนางพร่าเลือน นางทำได้เพียงยกความผิดทุกอย่างไปโทษกู้อ้าวเวย

คนทั้งขบวนเร่งรุดเดินทางอย่างตุปัดตุเป๋หลายวัน ถึงแม้จะยังไม่มีใครไม่ยุติธรรมกับซูพ่านเอ๋อ แต่การนอนกลางดินกินกลางทรายถูกคนตามฆ่าหลายวันมานี้ รอกระทั่งทุกอย่างปลอดภัยลงมาโดยสิ้นเชิง นางก็อาเจียนจนไม่เหลือสภาพความเป็นคนแล้ว กู้จี้เหยายิ่งล้มป่วยลงไป ณ ตรงนั้นเป็นที่เรียบร้อย

ผู้ใต้บัญชาของเซียวไห่ไม่เข้าใจว่าช่วงเวลาคับขันอันตรายเช่นนี้ไยต้องกระเตงผู้หญิงสองคนนี้มาด้วย

“ซ่านจินจื๋อคงยังไม่ปล่อยซูพ่านเอ๋อไปง่าย ๆ ขนาดนี้หรอก อีกอย่างกู้จี้เหยาสุดท้ายก็เป็นลูกสาวของกู้เฉิง ต่อให้จะเป็นเบี้ยตัวหนึ่งก็ยอดเยี่ยมมากทีเดียว” เซียวไห่กล่าวเช่นนี้

ซูพ่านเอ๋อแทบจะขย้อนสิ่งของในกระเพาะออกมาจนหมดจด ชะล้างใบหน้าแล้วจึงเดินเข้าไปในเรือน มองไปที่เซียวไห่รวมถึงคนกลุ่มหนึ่งซึ่งอยู่ตรงหน้า “พากู้จี้เหยามาด้วยมันมีผลดีกับเจ้าอย่างไร”

“แม้ว่าท่านจะชิงชังนางอย่างไร ตอนนี้นางก็มีศักดิ์เป็นน้องสาวของท่าน ทั้งเป็นบุตรีแท้ ๆ ของกู้เฉิง หากสามารถได้รับความช่วยเหลือจากนาง อย่างน้อย ๆ ท่านอยู่แคว้นซินก็จะไม่ตกเป็น...” เซียวไห่มองกายท่อนล่างของนางปราดหนึ่ง

ซูพ่านเอ๋อกำหมัดแน่น “ข้ารู้แล้วน่า แต่ทิงเฟิงเก๋อนั่นถึงขั้นรู้เรื่องราวตั้งมากมายขนาดนี้ รวมถึงรู้ว่าข้าอยู่ที่ไหนด้วย?”

“ไม่เพียงแต่เท่านี้ กองกำลังเบื้องหลังทิงเฟิงเก๋อแห่งนี้ไม่ได้มาจากยุทธภพด้วยซ้ำ ตอนนี้คล้ายกับคิดจะอพยพ แต่ข้าได้ส่งคนไปตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว และก็เพราะพวกเขาส่งคนตามฆ่าอย่างทรหดอดทน ข้าจึงทำได้เพียงออกจากชางหลานก่อนเป็นการชั่วคราว และรอคอยข่าวสาร” เซียวไห่หย่อนตัวนั่งลงพิงกับลำต้นไม้ “หากข้ารู้แต่แรกว่าซ่านจินจื๋อจะถูกกู้อ้าวเวยลูบคม วันนั้นข้าควรจะฆ่านางทิ้งไปเสีย”

สีหน้าของซูพ่านเอ๋อเหลือบเขียวเหลือบขาว ไม่อภิปรายร่วมกับเขาอีกต่อไป

ระยะทางมุ่งสู่แคว้นซินนั้นแสนยากลำบาก และตอนที่เข้าไปในเมือง กู้เฉิงยิ่งส่งคนทั้งหมดมาพิทักษ์กลับไป เผชิญหน้ากับเซียวไห่ผู้ซึ่งเคยเป็นแม่ทัพคนสนิทของซ่านจินจื๋อ กู้เฉิงมุ่งกดขี่เขาเข้าคุกไปเสียดื้อ ๆ ด้านนี้กลับพากู้จี้เหยาและซูพ่านเอ๋อเข้าไปในลานด้วยกัน

หากไม่ใช่ว่ากู่เซิงรุดหน้ามาก่อน ซูพ่านเอ๋ออาจจะถูกกู้เฉิงบิดคอขาดไปแล้ว

เวลานี้ซูพ่านเอ๋อนั่งลงบนพื้นด้วยอาภรณ์ไม่เป็นระเบียบ บนลำคอระหงยังทิ้งร่องรอยนิ้วมือที่กู้เฉิงคว้าเอาไว้เมื่อครู่อยู่เลย ใบหน้าขึ้นเป็นสีแดงพลางหอบหายใจ “ข้าพาลูกสาวของท่านกลับมาเชียวนะ”

“เจ้าคนโง่” กู้เฉิงแค่นเสียงเย้ยหยัน ยกมือขึ้นให้กู่เซิงพากู้จี้เหยาลงไป ส่วนทางนี้ตนโน้มกายลงไปมองนางอย่างคนลดตัวลงไปหา “การเหลือนักโทษอย่างเจ้าเอาไว้อยู่ข้างกาย สำหรับข้าแล้วไม่ได้มีผลดีอะไรเลย เว้นแต่เจ้าจะแสดงความจริงใจออกมาสักหน่อย”

“ท่านอยากให้ข้าทำอะไร” ซูพ่านเอ๋อ พยายามขัดขืนลุกขึ้นมา แหงนหน้าขึ้นมองเขา

“คิด ๆ ดูเจ้าสามารถทำอะไรเพื่อข้าบ้าง ไม่เช่นนั้นคราวหน้าถ้าหนีไปอีก คงจะไม่ไปส่งที่โรงเตี๊ยมอย่างง่ายดายแบบนี้แล้ว ข้ายังรู้มาอีกว่าการปลดปล่อยทาสในตอนนี้ ยังมีใต้เท้าจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องการทรมานผู้หญิงสวย ๆ อย่างเจ้า...”

“ข้ายังคงเป็นพระชายาจิ้งอยู่” ซูพ่านเอ๋อตะกายขึ้นมาจากพื้นด้วยสีหน้าซีดขาว ขอเพียงนึกถึงวันเวลาเช่นนั้นในโรงเตี๊ยม นางก็เอาแต่ตัวสั่นไม่หยุด “สถานะนี้ของข้าสามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นราชทูตไปแคว้นอื่นหรือไม่ก็...”

การพาเซียวไห่และกู้จี้เหยากลับมา ทำได้เพียงให้กู้เฉิงช่วยปกป้องชีวิตของนางเท่านั้น

และขณะเดียวกันนางก็ไม่ได้ลืมเลือนน้ำคำของกู้อ้าวเวย หากนางสามารถเป็นฝ่ายรับเรื่องราชทูตกับเจียงเยี่ยนให้กู้เฉิงได้ตอนช่วงสงครามในปัจจุบัน ไม่ว่าอย่างไรกู้เฉิงก็จะไว้ชีวิตของนางอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์