บทที่ 506 เทพโบราณมาเยือน หอคอยเทพสงครามถล่ม!
ทุกคนมองท้องนภาตาไม่กะพริบ
ตรงนั้นมีร่างเงาปกคลุมโลกกำลังสำแดงพลังวิเศษที่สุดแห่งยุค โจมตีหกจักรพรรดิ
มหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายที่เดิมทีชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ มองท้องนภาอย่างโอหัง กลับถูกทุบตีเอามือกอดศีรษะวิ่งแจ้น ร้องโอดครวญไม่หยุด
ภาพนี้ ทุกคนเห็นถึงกับตาพร่ามัว
พวกเขาไม่นึกเลยว่าวิกฤติที่ทำให้ห้าดินแดนสิ้นหวังจะแก้ได้ด้วยตัวคนเดียว
….
หวังเสินซวีมีใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ “นั่นมัน…สหายเสิ่น!
สหายเสิ่นเขา ทุบตีมหาจักรพรรดิรึ สวรรค์! ข้าไม่ได้ฝันไปกระมัง
เหล่าฉี เจ้าตีข้าหน่อยดูว่าเจ็บหรือไม่”
หวังเสินซวีตาเหม่อลอย รู้สึกเหลือเชื่อ
ไม่นึกเลยว่าไม่พบกันมาร้อยปี เสิ่นเทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว
ไหนบอกว่าจะเติบโตไปด้วยกันไม่ใช่รึ
ปรากฏว่าพวกเขายังสู้กับเซียนแท้สูสี แต่เสิ่นเทียนกลับทุบตีมหาจักรพรรดิแล้ว!
อีกทั้ง ยังทุบตีมหาจักรพรรดิพร้อมกันหกตน!
จะพูดอย่างไรดี
ความต่างระหว่างคนกับคน บางครั้งก็มากกว่าความต่างของคนกับสุนัข!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หวังเสินซวีมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง
สหายเสิ่นโกงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ไม่กลัวถูกสวรรค์ลงโทษรึ
……
ฉีเซ่าเสวียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มีสีหน้าตกใจ
เขาเพิ่งเคยเห็นคนเอ่ยคำขอที่ต่ำช้าเช่นนี้เป็นครั้งแรก
ตึง!
ฉีเซ่าเสวียนไม่เกรงใจเลย เขกศีรษะหวังเสินซวีอย่างแรง!
หวังเสินซวีกุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด แยกเขี้ยวขึ้น “เจ้าคนแซ่ฉี เจ้าทำอะไร”
ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าเฉยเมย “ก็ต้องทำตามที่เจ้าขอสิ!”
หวังเสินซวีด่าทอกลับทันที “ข้าแค่พูดไปอย่างนั้น แต่เจ้าลงมือจริงรึ”
ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ไม่ได้สนใจ
เขาเงยหน้ามองฟ้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตต่อสู้
สหายเสิ่น ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!
แซ่ฉี ได้ชิงอันดับหนึ่งใต้ฟ้าอีกครั้งแล้ว!
……
มหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายเผยแววตาตื่นกลัว ตื่นตกใจอย่างยิ่ง
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็สำแดงกำลังรบที่น่ากลัวมากจริงๆ พวกเขาพบว่าเสิ่นเทียนไม่ได้กุมพลังของมหาจักรพรรดิ ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ
ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ แต่กลับกำราบหกมหาจักรพรรดิ
เจ้านี่ เป็นปีศาจเกินไปแล้ว
สามจักรพรรดิที่เหลือเผยแววตาเหี้ยมโหด จู่โจมเสิ่นเทียนจากข้างหลัง
พวกเขาจะแก้สถานการณ์หยุดชะงัก ให้หกจักรพรรดิออกมือสวนกลับได้ ทว่าพวกเขายังไม่ทันเข้าไป จักรพรรดิฮวงสือก็ออกมือแล้ว
ชุดคลุมม่วงเขาสยายออกมาขวางสามจักรพรรดิ “คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า คือข้า!”
สามจักรพรรดิมองหน้ากันก่อนแผดเสียงคำราม “ฆ่า!”
พวกเขาพุ่งเข้าไปด้วยความโกรธแค้น จิตสังหารล้นฟ้า พลิกกลับท้องนภา
ฮวงสือหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาพาร่างแยกมหาจักรพรรดิสองท่านพุ่งไปอย่างน่าเกรงขาม
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน แม้จะชนะเก้าจักรพรรดิไม่ได้ แต่รับมือกับสามจักรพรรดิได้ไม่มีปัญหา
จักรพรรดิฮวงสือถือตราพลิกฟ้า ยันถ้ำแสงหนาทึบ อำนาจเทพปกคลุมโลก
เขาระเบิดพลังออกมาทั้งหมด ทำให้ธารดาราสั่นไหว
จักรพรรดิฮวงสือสำแดงคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์ แปลงเป็นวิชาสูงสุด พลังมากมายมหาศาล
ทุกการโจมตีมาพร้อมกับพลังพลิกฟ้าดิน พลิกกลับโลกหล้า
สองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด พลานุภาพหมุนม้วนฟ้าดิน
ไม่ว่าสามจักรพรรดิจะสู้อย่างไรก็ไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย
ฟ้าถล่มดินทลาย ตะวันจันทราไร้แสงสว่าง
นี่คือการต่อสู้ที่แกร่งที่สุด สภาพการณ์น่าตกใจ
…..
ด้านข้าง เสิ่นเทียนสู้กับหกจักรพรรดิอย่างดุเดือดเช่นกัน
เขาแผ่อำนาจเทพปกคลุมโลก รอบกายเปล่งแสงเทพไร้ขอบเขต
ตราราชันมนุษย์กับตำหนักราชันมนุษย์ขวางห้วงอากาศ แผ่พลังมหาศาล กำราบท้องนภา แสงสว่างสี่ทิศ พลังทรงอำนาจ!
เสิ่นเทียนเหมือนราชันสูงสุด แค่โบกมือก็ทำให้มหาจักรพรรดิกระอักเลือด มีท่วงท่าไร้พ่าย
“สมควรตาย!”
มหาจักรพรรดิที่บาดเจ็บสาหัสนั้นคำรามเสียงดัง ตัวเขายังมีเลือดไหลอยู่
ตรงบาดแผลมีปราณเบิกฟ้ามหาศาลวนเวียน ทำลายพลังชีวิต
ถูกเสิ่นเทียนโจมตี อาการบาดเจ็บก็หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังรบแกร่งขนาดนี้ โดยเฉพาะอาวุธสองชิ้นนั้น ทำให้มหาจักรพรรดิหวาดกลัว หากประมาทเพียงนิดเดียวได้บาดเจ็บสาหัส
“นี่มัน…ยอดอาวุธของราชันมนุษย์รุ่นหนึ่ง!”
“เจ้านี่มีกายราชันมนุษย์!”
มีมหาจักรพรรดิจำตราราชันมนุษย์กับตำหนักราชันมนุษย์ได้ก็หน้าเปลี่ยนสีไป
ยอดอาวุธสูงสุดเช่นนี้ เคยสร้างอำนาจคุกคามแก่เผ่าวิญญาณร้ายอย่างหนัก
ตอนนั้นราชันมนุษย์รุ่นหนึ่งใช้อาวุธนี้สังหารจักรพรรดิเซียนวิญญาณร้าย
ราชันมนุษย์รุ่นสองใช้อาวุธนี้ พลิกไปสังหารห้าจักรพรรดิ
ดังนั้นยอดอาวุธราชันมนุษย์จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้วิญญาณร้ายมากมายหนาวสั่น
ตอนนี้ได้เห็นยอดอาวุธสองชิ้นอีกครั้ง ทำให้มหาจักรพรรดิหน้าเปลี่ยนสี
ไม่นึกเลยว่ายุคหลังจะปรากฏกายราชันมนุษย์ขึ้นอีก
…..
ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพุ่งเข้ามาแล้ว
เขาทะยานขึ้น เคลื่อนตราราชันมนุษย์ตบเข้าไป
วูบ!
แสงสว่างสี่ทิศ แสงทองพุ่งขึ้น
ตราราชันมนุษย์พลันขยายใหญ่ ผลักฟ้าดิน
บึ้ม!
กระดูกและเลือดสาดกระจาย กายเนื้อระเบิด
มหาจักรพรรดิที่บาดเจ็บหนักนั้นถูกบดแหลกเป็นโจ๊กเนื้อ
มหาจักรพรรดิสิ้นชีพ ฝนโลหิตตกลงมา
ภาพนี้ทำให้วิญญาณร้ายมากมายหนาวสั่น
พวกเขาเผยแววตาตื่นตกใจ ยากจะเชื่อได้
เก้าจักรพรรดิมาเยือน เดิมทีทำลายโลกนี้ได้สบาย
แต่เสิ่นเทียนปรากฏตัวขึ้นกลับพลิกสถานการณ์ ทั้งยังสังหารมหาจักรพรรดิ
กำลังรบเช่นนี้น่ากลัวยิ่งนัก!
…….
ห้าจักรพรรดิหน้าเขียวปัด ไม่นึกเลยว่ากายราชันมนุษย์จะแกร่งขนาดนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจคุกคามความตาย
ขืนสู้ต่อไป พวกเขาจะไม่มีหวังใดๆ เลย จะค่อยๆ แพ้ไปทีละคน
ห้าจักรพรรดิเผยแววตาเด็ดขาด บ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารกายราชันมนุษย์ให้ได้! สายเลือดนี้ จะต้องสิ้นสุดลง!”
ห้ามหาจักรพรรดิคำรามด้วยความโกรธ ระเบิดพลังมหาศาลทั่วร่าง พุ่งขึ้นท้องนภา
ท้องนภาเปลี่ยนสี แสงดำลึกล้ำ
ห้าจักรพรรดิเผาโลหิตแท้ กลิ่นอายชีวิตลดลง
แต่พวกเขาไม่สนใจ ใบหน้ากลับคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม
ห้าจักรพรรดิสำแดงวิชาลับวิญญาณร้าย สังเวยตัวเองเพื่อเชิญผู้แข็งแกร่งวิญญาณร้าย
ถึงอย่างไรกายราชันมนุษย์ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเผ่าวิญญาณร้าย จึงทำทุกอย่างเพื่อลบล้าง
ห้าจักรพรรดิตะโกนเสียงดัง “ขอเชิญท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมือ สังหารกายราชันมนุษย์!”
บึ้ม!
ห้ามหาจักรพรรดิร่างระเบิด โลหิตแท้รวมเป็นหอกนักรบดำสนิท พุ่งไปหาเสิ่นเทียน
เสิ่นเทียนมีสีหน้าจริงจัง เกิดความไม่สบายใจขึ้นลับๆ
พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก รวมต้นกำเนิดชีวิตของห้าจักรพรรดิ มีพลานุภาพล้นฟ้า
บึ้ม!
หอกนักรบสีดำพุ่งทะลวงนภา พลิกกลับตะวันจันทราและดารา หมุนทวนฟ้าดินและจักรวาล
ก่อนจะเห็นปราการห้าดินแดนสั่นไหวอย่างรุนแรงภายใต้พลังนี้ เหมือนจะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ
เสิ่นเทียนเผยแววตาจริงจัง เขารู้สึกว่าพลังของปราการกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว เสียพลังไปมากกว่าครึ่ง
…..
ทันใดนั้น ท้องฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง
โลกภายนอกมีคนฝืนโจมตีปราการฟ้าดิน จะบุกมาที่นี่
บึ้ม!
เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ มาพร้อมอำนาจคุกคามมหาศาล สะท้านฟ้าดิน
เสียงพวกนี้เหมือนจะดังในทรวงอกทุกคน ทำให้หัวใจแทบจะระเบิด
ปัง!
เกิดเสียงดังกึกก้อง!
ปราการที่โยกเยกจะพังทลายพลันระเบิดกระจาย
กฎเกณฑ์ฟ้าดินพังทลาย ลำดับปั่นป่วน เกิดเป็นภาพทำลายล้างโลก
ห้วงอากาศปรากฏถ้ำแสงหนาทึบ เหมือนประตูสวรรค์จะพังทลาย
ภาพนี้ทำให้ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไป
จักรพรรดิฮวงสือมีสีหน้าจริงจัง “แย่แล้ว ปราการฟ้าดินจะถูกทำลาย ห้าดินแดนจะเข้าสู่หายนะ!”
ปราการฟ้าดิน วางโดยราชาเซียนที่สุดแห่งยุคในช่วงดึกดำบรรพ์ มันปกป้องห้าดินแดนมาล้านปี ต้านการรุกรานของวิญญาณร้าย ให้เวลาทุกคนได้เติบใหญ่
แม้ผ่านไปล้านปี พลังของปราการจะลดลงอย่างยิ่ง แต่ก็ยังยื้อเวลาได้นานมาก
ตอนนี้ปราการห้าดินแดนพังทลาย ก็หมายความว่าโลกนี้ไม่มีจำกัดใดๆ อีก
ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งโลกเซียนหรือวิญญาณร้ายต่างแดน ก็จะเข้ามาที่นี่ได้อย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ
นี่คือหายนะล้างโลกสำหรับห้าดินแดน
ถึงอย่างไรด้วยพลังของห้าดินแดนตอนนี้ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังยากจะต่อต้านได้
จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการคงอยู่ที่น่ากลัวยิ่งกว่า
หากกองทัพวิญญาณร้ายต่างแดนรุกราน ห้าดินแดนจะเข้าสู่หายนะไม่มีสิ้นสุด
เสิ่นเทียนใจหนักอึ้ง เขาไม่นึกเลยว่ามหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายจะเด็ดขาดเช่นนี้ สละชีวิตห้าจักรพรรดิเพื่อเปิดโลกนี้
อีกทั้งต่างแดนยังมีกำลังเสริมวิญญาณร้ายอีก ต้านไม่ได้แล้ว
“ต้องรีบหาทางฟื้นฟูค่ายกล!”
เสิ่นเทียนพูดอย่างจริงจัง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปได้เป็นปัญหาแน่
เขารู้ดีถึงความหนักของเรื่องนี้ จะเอ้อระเหยไม่ได้เลย
…..
ทว่าทันใดนั้นเอง ห้วงอากาศแตกกระจาย
ทั้งผืนฟ้าดาราถูกมือใหญ่ฉีกเป็นสองส่วน ธารดาราตัดขาด ภาพน่าตื่นตกใจ
สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งก้าวออกมาจากมิติ พลังอำนาจท่วมท้นฟ้า
เขาปกคลุมด้วยหนามกระดูกแหลมทั้งตัว กายเนื้อดั่งมังกร พลังเลือดลมพุ่งขึ้นฟ้า
ขณะย่างก้าวยังเหยียบอากาศล้านลี้แตกกระจาย พลิกกลับตะวันจันทราฟ้าดิน
คนนี้เหมือนมารร้ายที่สุดแห่งยุค จะสังหารทุกชีวิต
…..
ภาพนี้ทำให้ทุกคนตื่นกลัวกันอย่างยิ่ง
มีคนหลุดเสียงร้องด้วยความกลัว ตื่นกลัวไม่มั่นคง “นี่มันการคงอยู่ระดับใดกัน ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้”
คนนี้ยิ่งใหญ่ พลังเหนือกว่ามหาจักรพรรดิ!
คนที่พลังบำเพ็ญค่อนข้างต่ำหมดสติไป ศีรษะดิ่งลง ตกลงมาจากอากาศ
เตรียมจักรพรรดิยังตัวสั่น ขนลุกไปทั้งตัว ต้านพลังอำนาจนี้ไม่ไหว
สามจักรพรรดิที่เหลือเห็นดังนั้นก็มีสีหน้าดีใจใหญ่
พวกเขารีบตรงเข้ามา พูดด้วยความเคารพ “ยินดีต้อนรับท่านเทพโบราณเหยียนกุ่ย”
คนที่มหาจักรพรรดิก้มศีรษะเคารพได้ไม่ใช่คนธรรมดา
เหยียนกุ่ยมีสีหน้าเฉยชา ทำเสียงขึ้นจมูก “ขยะ แค่โลกธรรมดาเล็กๆ ยังจัดการไม่ได้รึ”
สามจักรพรรดิตัวสั่นอย่างรุนแรง รีบก้มหน้าลง
มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ต่อหน้าเหยียนกุ่ยยังนอบน้อม ไม่กล้าเถียง
เพราะเขาคือเทพโบราณ!
ผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมาร หลังทะยานขึ้นแล้วจะเป็นเทพแท้ เหนือกว่าเทพแท้คือเทพฟ้า เหนือกว่าเทพฟ้าเรียกว่าเทพโบราณ
ศาสตร์บำเพ็ญของเผ่าวิญญาณร้าย แม้จะต่างกับศาสตร์บำเพ็ญของเผ่ามนุษย์ แต่คำเรียกขานเทพโบราณก็ยังมีความหมายเหมือนกัน
นี่คือการคงอยู่ที่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิ มีศักยภาพแข็งแกร่งสุดขีด
มหาจักรพรรดิธรรมดาอยู่ต่อหน้าเขา แค่ดีดนิ้วก็ตาย
เมื่อพบเหยียนกุ่ย เสิ่นเทียนกับจักรพรรดิฮวงสือมีสีหน้าจริงจัง
เทพโบราณแข็งแกร่งมากจริงๆ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังต่อต้านไม่ได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาสองคนที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ
หลังเห็นเหยียนกุ่ยปรากฏกาย สองคนก็แอบกังวลในใจ
…..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน