"มันกำลังบอกให้แกจัดการกับพวกเราอยู่นะ ว่าไง? จะไม่เข้ามางั้นหรอ?" เป็นหนึ่งในสี่คนที่กล่าวออกมาด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มอันเต็มไปด้วยความดูแคลนต่อชาน
แม้พวกมันทั้งสี่คนจะเป็นสายนักรบที่ไม่ได้มีความต่างในการสร้างดาเมจนัก แต่ข้อดีของพวกมันคือการที่พวกมันต่างก็เชื่อใจกันและกัน สกิลที่ได้รับมาจากหลังถึงเลเวลสิบจึงเป็นแบบที่ต่างกันไปทั้งหมดแปดแบบ
ด้วยการโจมตีผสานกันอย่างหลากหลายทำให้พวกมันไม่สามารถดูแคลนได้เลย
พวกมันยังมีสถานะบัฟกันอยู่ด้วย ทั้งๆที่ปาร์ตี้พวกมันไม่น่าจะมีคนที่ใช้สกิลแบบนั้นอยู่... เลือกสกิลต่างอาชีพมางั้นสินะ? แล้วถ้าอย่างนั้นจะใช้ดาบทำไมกัน?
"เฮ้ยๆ มันถึงกับเงียบไปเลยวะ"
"จัดการมันงั้นหรอคราวน์ แล้วฉันจะได้อะไรละ?" ผมถามออกไปเพราะต้องการรู้ถึงความคุ้มค่าของเวลาที่เสียไป เป้าหมายของผมคือเงิน การเล่นเพื่อการกุศลจึงไม่ใช่สิ่งที่ผมวาดฝันไว้เลย
"บัฟ! ฉันมียาบัฟคลาสFที่ช่วยให้นายสามารถเปลี่ยนค่าสถานะได้สิบวิอยู่ นั่นคือของที่ดีที่สุดของฉันแล้ว" คราวน์รีบตอบกลับทันที อาจเพราะเขากลัวที่ผมจะเปลี่ยนใจหลังจากที่ได้ยินคำร้องของแบบนั้นมา
เขาจึงรีบส่งคำร้องขอการเทรดมาหาผม จากนั้นก็รีบใส่ยาบัฟที่ว่านั่นมาทันที ก่อนจะรีบล็อคการเทรดและรอแค่ให้ผมยืนยันเท่านั้น
คุณลองคิดดูสิ ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แล้วขอร้องให้คนที่มาช่วยจัดการกับกลุ่มคนตรงหน้า แล้วหากเขาปฏิเสธละ? ผมรับรองว่าศพคุณต้องไม่สวยแน่ที่กล้าพูดไปแบบนั้นต่อหน้าพวกที่กำลังจะกระทืบคุณในอีกไม่กี่วิ
"ฉันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว งั้นฉันไปก่อนละ" ชานกล่าวออกมาพร้อมทั้งโบกมือจนคราวน์ได้แต่เบิกตากว้างทันที
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! เมื่อกี้แกเพิ่งเทรดของให้คนที่ไม่รู้จักไปงั้นหรอวะ? แกมันโคตรปัญญาอ่อนเลย"
"ไอ้นี่แม่งคิดว่าใครที่ไหนจะมาช่วยมันวะ?"
"จัดการมันแม่งเลย!"
ไอ้ห่านั่น! ทำเหมือนจะมาช่วยแต่ก็หนีงั้นหรอวะ!!!... คราวน์กลายเป็นเลือดขึ้นหน้าทันที ความโกรธที่พุ่งขึ้นแทบทำให้เขาควบคุมสติตัวเองไม่อยู่เลยด้วยซ้ำ เขาพยายามหลับตาและปลอบใจอยู่ต่อความโง่เขลานี้อยู่เงียบๆ ทว่าเสียงของกลุ่มคนรอบๆก็ทำให้เขาต้องรีบเปิดเปลือกตาขึ้นดูทันที
"เฮ้ยๆ ทำไมขยับไม่ได้ว่า นี่มันอะไรเนี่ย? สถานะหวาดกลัว? โดนมาตอนไหนวะ?"
"ไม่ใช่แค่นั้น... สถานะคนเขลา นี่มันห่าไรเนี่ย"
"ปัก! ปัก! ปัก!"
คริติคอล!
"การโจมตีแบบคริติคอลหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์กับสี่เป้าหมายงั้นหรอ! ทั้งแม่นยำแล้วก็รวดเร็ว เป็นความเร็วที่มันผิดปกติเกินไปแล้ว!" คราวน์โพล่งกล่าวออกมาทันทีเมื่อเห็นภาพของไฟร์บอลที่ตรงเข้าปะทะกับกลุ่มนักเลงตรงหน้าอย่างแม่นยำ
เพราะติดสถานะหวาดกลัวกันทั้งปาร์ตี้ ทำให้พวกมันกลายเป็นเป้านิ่งถึงสามวินาที และด้วยดาเมจมหาศาลที่ทำให้พวกมันแทบตายกันทันที ความหวาดกลัวอย่างแท้จริงจึงโถมเข้าหาพวกมันจนพวกมันได้แต่ถอยกันออกไป
ไอเท็มสวมใส่ระดับE [คฑาหยกบริสุทธิ์]
เพิ่มความเสียหายของสกิล20%
ลดเวลาการร่าย10%
เพิ่มโอกาสดีบัฟต่อเป้าหมาย20%
"เข้าใจความต่างรึยัง? เพราะงั้นก็ไสหัวไปได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะให้แคลนของฉันไล่บี้พวกแกจนเลิกเล่นไปเลย" ชานกล่าวออกมาด้วยแววตาอันเย็นชา จนทั้งสี่คนตรงหน้าได้แต่ร้องเสียงหลงและวิ่งหนีไป
โอ๊ะ! พอถูกทำดาเมจเยอะๆในไม่กี่วิก็วิ่งหนีกันเลย พวกนี้มันจะโดนบลัฟกันง่ายเกินไปแล้วนะ
"เฮ้ยๆ มะกี้พวกนายเห็นรึเปล่า? ไฟร์บอลของเจ้านั่นมันโคตรเร็วเลยนะเว้ย!"
"เออดิ! แถมยังโจมตีได้แบบไม่ต้องร่ายด้วย ของฉันยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็สามวิเลยนะ!"
"พวกเราควรเพิ่มเขาเป็นเพื่อนนะ หรือไม่ก็เชิญเข้าปาร์ตี้สักหน่อยก็ดี"
"จะบ้ารึเปล่า? เจ้านั่นมันต้องเอ็นพีซีอยู่แล้วละ โจมตีแบบไม่ต้องร่าย โธ่! แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้วนะโว้ย!"
เสียงผู้คนที่อยู่รอบๆต่างดังออกมาทันทีเมื่อเห็นการโจมตีด้วยไฟร์บอลกว่าสิบสองครั้งภายในสามวินาที แม้ดาเมจต่อครั้งจะไม่สูง แต่ดาเมจต่อวินาทีของชานนั้นก็ทำให้นักธนูหลายคนต้องมองค่าสถานะของตัวเองใหม่ทันที
"ข- ขอบคุณ" คราวน์กล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดีทันทีเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้เดินทิ้งเขาไป
แน่นอนละพวกนั้นมีบัฟเพิ่มพลังชีวิตสูงสุดกันอยู่ ถ้าอย่างนั้นใครจะรับประกันได้ละว่าพวกมันไม่ได้มีบัฟแบบอื่นอยู่อีก การโจมตีทีเผลอถึงจะไม่ได้ดูเป็นลูกผู้ชาย แต่สถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ต้องการอัศมินขี่ม้าขาวสักหน่อย? พวกเขาก็แค่ต้องการใครสักคนมาจัดการกับพวกนักเลงแบบนี้ทิ้งไปซะก็แค่นั้น
"อืม มันเป็นการว่าจ้างกันละนะ ไม่ต้องมาขอบคุณหรอก" ผมตอบกลับพร้อมทั้งโบกมือลา การเสียเวลาไปราวๆสิบวินาทีเพื่อแลกมากับยาบัฟนี้ก็ถือว่าไม่เลวเหมือนกัน
เพิ่มเพื่อนงั้นหรอ? คราวห์กำลังเพิ่มเพื่อนผมมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดอะไร คราวน์เป็นสายปรุงยา ถึงเลเวลของเขาจะไม่มาก แต่มันก็ดีกว่าผมต้องไปหานักปรุงยาคนอื่นที่ไม่เคยมีบุญคุณต่อกันนั่นละนะ
หลังจากมาถึงจุดเริ่มเควส ผมก็เจอกับตาลุงเคชคนเดิม แค่คราวนี้แกมีลูกน้องที่คุมบังเหียนมาด้วยอีกสองเกวียนแค่นั้นเอง
"โอว คนเดียวเลยงั้นหรอ? แบบนี้จะอันตรายไปนะพ่อหนุ่ม"
[คุณต้องการเริ่มภารกิจคุ้มกันระดับE ของที่โจรหมายปองหรือไม่?]
[ยืนยัน]
"ก็ได้ๆ ยังไงทางหมู่บ้านนั้นเองก็ต้องการมาแบบนี้ซะด้วย งั้นก็ขึ้นมาเลย!" ลุงเคชกล่าวจบผมก็กระโดดขึ้นไปบนเกวียนทันที แน่นอนว่าตอนนี้คนมีอยู่ไม่น้อยในเมือง พวกเขาจึงเห็นเควสนี้ของผมได้อย่างชัดเจน
คราวน์ส่งข้อความถึงคุณ
: นายกำลังทำเควสอะไรอยู่หรอ? พอดีมันขึ้นหน้าต่างว่าสามารถปล้นได้อยู่ด้วยน่ะ
: ก็แค่เควสเอ็นพีซีนั่นละ ขอบใจที่เตือนนะ
ปล้นได้? ที่ว่าให้ระวังไว้คือแบบนี้สินะ นี่ถ้าคราวน์ไม่ทักมาบอกในข้อความ ผมคงไม่รู้แน่ๆว่าในสายตาเพลเยอร์คนอื่นในตอนนี้มันเป็นแบบไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Carrus online : Black sheeP
1...
1...