จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 140

บทที่ 140 ประชุมแลกเปลี่ยน ณ ภูเขาเขียว

เฉินจิ้นและหวางเม่ยอวู เดินทางไปยังภูเขาเขียว

หวางเม่ยอวูประชุมแลกเปลี่ยนบูโดเป็นครั้งแรก และเป็นการประชุมของครอบครัวที่ซ่อนอยู่ แม้ว่าเป็นเรื่องระหว่างคนรุ่นหลัง หวางเม่ยอวูก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

และเฉินจิ้นแม้ว่าใบหน้าจะดูนิ่งสงบมาก แต่ภายในใจ ก็ค่อนข้างตื่นเต้นเหมือนกัน

การเดินทางไปเมืองหรุงครั้งนี้เพื่อประชุมแลกเปลี่ยนของในครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ยังไม่ทันได้เริ่ม เขาก็ได้รับเตาหลอมยาขั้นเทพมาหนึ่งใบ ที่เขาได้รับนั้นเหนือจินตนาการของเขามาก

ดังนั้น เฉินจิ้นจึงเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้เข้าประชุมแลกเปลี่ยนกับทายาทของครอบครัวที่ซ่อนอยู่

แน่นอน เฉินจิ้นไม่ได้คาดหวังกับคนรุ่นหลังเหล่านี้ ว่าจะเอาของที่เขาสนใจมากน้อยแค่ไหนออกมา

เฉินจิ้นมีแผนอื่น

เขาคิดไว้แล้ว เมื่อมาถึงครอบครัวที่ซ่อนอยู่

การประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมเลย

ขณะเดินทาง เฉินจิ้นได้ติดต่อตู้เทียนโย่วไว้ก่อนแล้ว ในเวลานี้ตู้เทียนโย่ว ได้มาถึงที่ประชุมการแลกเปลี่ยน ณ ภูเขาเขียวแล้ว

หลังจากที่เฉินจิ้นมาถึงที่หมาย แน่นอนเขาเห็นตู้เทียนโย่วมาแต่ไกล

หลังจากที่ตู้เทียนโย่วเห็นเฉินจิ้น ยิ้มและเดินเข้ามาทันที: “เฉินจิ้น ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว”

เฉินจิ้นยิ้มกล่าว: “ได้รับคำเชิญจากตู้เทียนโย่ว ฉันยังได้รับเหรียญของตู้เทียนโย่วด้วย ทำไมจะไม่มาล่ะ”

“ฮ่า ๆ แต่ฉันได้ข่าวว่า การประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ จะมีบางอย่างดีๆอีกด้วยนะ เฉินจิ้นอาจจะสนใจ” ตู้เทียนโย่วกล่าว

จากนั้น สังเกตเห็นว่าหวางเม่ยอวูซึ่งอยู่ห่างจากเฉินจิ้นแค่ครึ่งก้าว ดวงตาก็เป็นประกายทันที “คนนี้ ภรรยาของคุณเหรอ?”

ตู้เทียนโย่วซักถามทันที ในเวลาเดียวกันเขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับรูปร่างหน้าตาของเธอ

เมื่อจบการเดินทางของเขตสามเหลี่ยม ตอนที่เขากลับมาพร้อมกับเฉินจิ้น ตู้เทียนโย่วก็รู้ว่าเฉินจิ้นมีภรรยาอยู่แล้ว

เมื่อได้ยิน หวางเม่ยอวูหน้าแดง แม้ว่าเธออยากจะยอมรับ แต่เธอก็เอ่ยปากอธิบายว่า: “ฉันคือหวางเม่ยอวูจาก ตระกูลหวาง”

ใบหน้าของตู้เทียนโย่วดูอึดอัดเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่า ภรรยาของเฉินจิ้นชื่อซ่งชีงเหย็น

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเฉินจิ้น เขากล่าวว่า: “หวางเม่ยอวู เป็นหัวหน้าตระกูลหวาง ครอบครัวที่ซ่อนอยู่ !”

“อะไรนะ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของตู้เทียนโย่วก็เต็มไปด้วยความตกใจ

หัวหน้าครอบครัวตระกูลหวาง ไม่ใช่มังกรสายฟ้าหวางเทียนเฟิงงั้นเหรอ?

เข้าประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ควรจะเป็นลูกชายของหวางเทียนเฟิง หวางลี่เซวียน

แต่ทว่า ถึงตอนนี้ หวางลี่เซวียนก็ยังไม่ออกมา

ยิ่งคิด เฉินจิ้นก็ไม่น่าจะเป็นคนที่พูดล้อเล่น ตู้เทียนโย่วหยิกตัวเองอย่างรุนแรง พูดจาก็ไม่ค่อยจะคล่องแคล่วสักเท่าไหร่: “จะ....จริงเหรอ?”

“เป็นเรื่องจริง!” เฉินจิ้นพูด หวางเม่ยอวูก็ยอมรับไปโดยปริยาย และหยิบเหรียญของตระกูลหวังเพื่อเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนด้วย

ในที่สุดตู้เทียนโย่วถึงแน่ใจ ดูเหมือนว่า เป็นเรื่องจริง

ครอบครัวที่ซ่อนอยู่ หัวหน้าครอบครัวตระกูลหวาง ที่แท้ก็เป็นลูกสาวของปรมาจารย์แดนเสินนี่เอง

หัวหน้าครอบครัวที่ซ่อนอยู่ของแดนปรมาจารย์ แทบจะไม่เคยได้ยินและเคยเห็นมาก่อน

แม้ว่าในใจของตู้เทียนโย่วมีคำถามและข้อสงสัยนับร้อยนับพัน แต่ในขณะนี้ ก็ถูกเก็บกดลงไป ความลับแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะถาม

แต่ว่า ถ้าหวางเม่ยอวูคือหัวหน้าตระกูลหวาง งั้นตระกูลหวาง ก็ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

และการเปลี่ยนแปลงนี้ เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเฉินจิ้นอย่างแน่นอน

ตู้เทียนโย่วคิดอยู่ในใจ

“ตู้เทียนโย่ว นี่คือยาครอบจักรวาลที่ฉันยืมคุณจากครั้งที่แล้ว คุณดูสิ!”

เมื่อพูด เฉินจิ้นก็หยิบออกมา เขาได้เตรียมยาเม็ดและวัตถุดิบสมุนไพรนิดหน่อยเพื่อที่จะคืนให้ตู้เทียนโย่ว

เป็นจำนวนสองเท่าจากที่ตู้เทียนโย่วเคยให้เฉินจิ้นยืมในเวลานั้น

เจ้าแห่งโลกปีศาจ คำไหนคำนั้น ได้ทำตามที่พูด

ตู้เทียนโย่วก็ไม่เกรงใจ ก็รับมาทันที

“ไป พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ มากันหลายคนนะ”

หลังจากที่เก็บของเสร็จ ตู้เทียนโย่วก็พูด

เฉินจิ้นพยักหน้า และหวางเม่ยอวูพร้อมทั้ง 3 คน ก็ไปที่ประชุมแลกเปลี่ยน

ประชุมแลกเปลี่ยนของครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ณ ภูเขาเขียวในครั้งนี้ ก็เป็นครอบครัวที่ซ่อนอยู่เริ่มเปิดก่อน

เลือกภูเขาเขียว ซึ่งเป็นบนยอดด้านหลังเขา

เป็นพื้นที่ที่ไม่เปิดสู่โลกภายนอก

ยอดเขา ตั้งอยู่เป็นชั้นลอยสองชั้นแบบโบราณ

ข้างบนชั้นลอย มีแกะสลักมังกรและวาดภาพนกฟีนิกซ์

ไม่รู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นในยุคไหน

หลังจากที่เฉินจิ้นมาถึง ด้านนอกชั้นลอย ก็มีหญิงสาวสองคนใส่ชุดกี่เพ้าต้อนรับแขกอยู่

แม้แต่หญิงสาวสองคนที่กำลังต้อนรับแขก ต่างก็เป็นกำลังของปรมาจารย์จ่วย

กองกำลังแบบนี้ หากเอาไปไว้ในสังคมภายนอกอย่างตามสบาย ต่างก็สามารถวางอำนาจบาตรใหญ่ได้

“คุณผู้ชายคะ สวัสดีค่ะ โปรดแสดงเหรียญของผู้เข้าร่วมด้วยค่ะ!”

ผู้หญิงรูปร่างสูงอวบหน้าตาน่ารักคนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพหลังจากเห็นเฉินจิ้นและคนอื่น ๆ

เฉินจิ้นหยิบเหรียญออกจากตัวของเขาและส่งให้เธอ

แต่ ที่เฉินจิ้นหยิบออกมา ไม่ใช่เหรียญที่ตู้เทียนโย่วมอบให้เขาก่อนหน้านี้

แต่เป็นเหรียญของตระกูลหวาง

พนักงานสาวต้อนรับ เมื่อเห็นเฉินจิ้นและหวางเม่ยอวู ต่างก็หยิบเหรียญของตระกูลหวางออกมา ในแววตาก็เกิดความประหลาดใจ แต่ก็ยับยั้งไว้อยู่ จากนั้น ก็ผายมือเชิญพวกเขาไป

ทันใดนั้น เฉินจิ้นและหวางเม่ยอวู เดินไปในห้องชั้นลอย

ตู้เทียนโย่วก็ตามเข้าไป

แนะนำให้เฉินจิ้นได้รู้จักภายในชั้นลอยนิดหน่อย

เพราะการประชุมแลกเปลี่ยนระหว่างครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ดังนั้น ที่นั่งในชั้นลอย ก็จะเป็นการแบ่งไปตามครอบครัว

ตระกูลตู้และตระกูลหวางอยู่ติดกันพอดี

ในความประทับใจของเธอ ลู่หยุนไห่แห่งตระกูลลู่ ก็นับว่าใช่

หลังจากที่คนของสำนักเทียนจิและเย่าเก๋อมาถึง ตำแหน่งในชั้นลอย ก็ใกล้จะได้เวลาแล้ว

แต่ตระกูลเดียวที่เฉินจิ้นรอคอย กลับยังไม่มา

นั่นก็คือครอบครัวที่ซ่อนอยู่ ตระกูลลู่

ตระกูลลู่ ยังคงเป็นหนี้สมบัติล้ำค่านับไม่ถ้วนกับเฉินจิ้นอยู่ นั่นก็คือยาครอบจักรวาล

ครั้งสุดท้ายที่ลู่เฟยหยางเซ็นสัญญาวิญญาณ จนกระทั่งตอนนี้ เฉินจิ้นก็ยังไม่ได้เก็บบัญชี

หลังจากวันนี้ไปจะเริ่มเปิดฉากกับตระกูลลู่ก่อน

หลังจากที่ผ่านไป 1 ชั่วโมง

มีอีกคนหนึ่งเดินเข้ามา

“ตระกูลลู่ ลู่หยุนไห่!”

ตู้เทียนโย่วที่อยู่ข้างๆเฉินจิ้นกล่าว

แม้ตู้เทียนโย่วจะพูดถึงชื่อนี้ขึ้นมา ก็ค่อนข้างจะหนักหน่วงทีเดียว

ลู่หยุนไห่ แม้แต่ตู้เทียนโย่วก็ยังต้องชื่นชมเขาว่าเป็นอัจฉริยะ

ยังหนุ่มยังแน่น ก็สามารถได้มาถึงจุดสิ้นสุดของครึ่งแดนเสิน และได้เริ่มโจมตีแดนเสินแล้ว

ไม่แปลกใจเลย อายุไม่ถึง 30 ปี ก็สามารถโจมตีแดนเสินได้แล้ว

พรสวรค์แบบนี้ ก็เป็นครอบครัวที่ซ่อนอยู่ และมีไม่กี่คนที่สามารถทัดเทียมกับเขาได้

ยิ่งกว่านั้น ลู่หยุนไห่ ไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์ที่เลิศล้ำเท่านั้น พรสวรรค์ที่น่าทึ่งคือ ใช้การฝึกฝนบูโดไปในทางที่ผิดเพี้ยนไป

นอกจากการฝึกฝนแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และก็ไม่คิดที่จะสนใจด้วย แม้แต่ทายาทของหัวหน้าครอบครัวตระกูลลู่ ก็ไม่ต้องการอะไรมากนัก คิดว่าสิ่งนี้จะทำให้การฝึกฝนบูโดของเขาล่าช้า

คนแบบนี้ แม้แต่ตู้เทียนโย่วยังต้องชื่นชม

หลังจากที่ลู่หยุนไห่เข้ามาในชั้นลอย มองไปรอบๆ จากนั้น สายตาจับจ้องไปที่ตัวเฉินจิ้น

หลังจากนั้น ก็มองเข้าไปในดวงตาของเฉินจิ้น ที่สาดส่องความอาฆาตออกมา

ตู้เทียนโย่วเพิ่งจะเห็นพอดี รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย: “เฉินจิ้น คุณกับเขาเคยมีเรื่องกันเหรอ?”

เฉินจิ้นพยักหน้า : “ฉันกับเขาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่ลู่เฟยหยางน้องชายของเขา เซ็นสัญญาข้อหนึ่งกับฉัน ตระกูลลู่ ติดค้างฉันอยู่เยอะ”

“นี่.....งั้นเฉินจิ้นก็ต้องระวังหน่อย ลู่หยุนไห่ กำลังฝึกแดนเสินแล้ว ไม่ใช่ครึ่งแดนเสินธรรมดาๆที่จะเปรียบเทียบได้” เขารู้ว่าเฉินจิ้นสุดยอด แม้เขาจะสงสัยว่าน่าเป็นแดนเสินอันดับแข็งแกร่ง แต่ก็ยังคอยเตือนอยู่

พร้อมเจตนาการสังหารของลู่หยุนไห่ เฉินจิ้นไม่สนใจเลยสักนิด

ในแดนเสิน เขายังสามารถตัดหัวได้ตามใจชอบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกที่ไม่ใช่แดนเสิน ยังกล้าคิดที่จะสังหารเขาอีก

พอดีเลย แม้ว่าลู่หยุนไห่ ไม่ได้มาหาเรื่องเขา แต่เขาก็ต้องการหาเรื่องลู่หยุนไห่

จนถึงตอนนี้ ภายในชั้นลอย ทุกคนมากันพร้อมแล้ว

ขณะนี้ ชายหนุ่มวัย 20 คนหนึ่ง เดินออกมาจากในกลุ่ม

เดินขึ้นมาบนเวที

คารวะต่อทุกคนและเฉินจิ้น: “วันนี้ ฉันมีความยินดีที่ได้เชิญทุกท่าน มาที่ภูเขาเขียว เพื่อประชุมแลกเปลี่ยน ณ ภูเขา เขียว ก่อนหน้านี้เราเคยจัดการประชุมแลกเปลี่ยนมาหลายครั้งแล้ว และทุกๆครั้ง ต่างก็มีผู้คนเข้าร่วมไม่น้อยเลย เป็นที่น่าพึงพอใจ หวังว่าวันนี้ ทุกท่านได้แลกเปลี่ยนของที่ตัวเองพอใจ ณ ที่แห่งนี้”