เชฟมั่นใจในกำลังของตัวเองเป็นอย่างมาก การทำอาหารก็เป็นงานใช้กำลังงานหนึ่ง ปีนั้นที่เชฟเรียนทำอาหารวิชาแรกที่เรียนก็คือการเขย่ากะทะ
กระทะเหล็กใบใหญ่ใบหนึ่งก็หนักพอแล้ว ยังต้องใส่ทรายครึ่งกระทะในกระทะเหล็ก แล้วใช้มือหนึ่งเขย่าสิเขย่าไปมา เมื่อสามารถเข่าทรายขึ้นสูงได้โดยไม่หกเลอะเทอะ ถึงจะนับได้ว่าผ่านด่านการเขย่ากระทะนี้
เพียงด่านนี้ก็เพียงพอที่จะฝึกฝนกำลังข้อมือกำลังแขนให้แข็งแกร่งได้ ดังนั้นตลอดมาเชฟก็เป็นผู้เล่นที่มีพละกำลัง
แต่ตอนนี้เชฟใช้กำลังทั้งตัว ก็ไม่สามารถขยับมีดได้เลย นี่ทำให้เชฟมีความสับสนในชีวิตอยู่บ้างแล้ว
หรือว่าพละกำลังของหลี่โม่จะแข็งแกร่งมาก?
แต่แม้ว่าพละกำลังของเขาจะมากยังไง เมื่อกี้ก็ได้กินอาหารที่ใส่ส่วนผสมเพิ่มไปแล้วนี่!
ควรที่จะใช้แรงไม่ได้สักนิดถึงจะถูก!
ไม่ถูก! หรือว่าหลี่โม่ไม่ได้รับผลกระทบจากฤทธิ์ยา?
“นาย หรือว่านายไม่ถูกผลกระทบจากฤทธิ์ยา? นี่มันเป็นไปไม่ได้ล่ะ!”
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ กลอุบายเล็กๆนั้นของพวกคุณเดิมทีก็ไม่เข้าตาผม วิธีการของกงซุนจุนก็ตกต่ำย่ำแย่เกินไปหน่อยแล้ว ทำให้ผมผิดหวังมากจริงๆเลยนะ”
หลี่โม่ส่ายหัวไปมา ในสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความหยิ่งจองหอง ราวกับว่าการพูดถึงกงซุนจุนนั้นน่าอายมาก
เชฟโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาได้กัดฟันถลึงตาใส่หลี่โม่ด้วยความโหดเหี้ยม: “อย่าได้ใจ! นายน้อยของพวกเราไม่ใช่ว่าจะให้นายมาวิจารณ์ได้ เด็กๆ! จัดการหลี่โม่ไอ้เศษสวะคนนี้!”
พวกเชฟรองและผู้ช่วยเชฟได้ทยอยพุ่งขึ้นมา พวกเขาแกว่งกระบวย กระทะก้นลึก เขียงและอื่นๆตีไปทางหลี่โม่
สายตาเหยียดหยามของหลี่โม่ได้พุ่งใส่กลุ่มคน บนมือก็ได้ใช้แรงกระทุ้งตะเกียบ นำมีดในมือของเชฟกระทุ้งบินออกไป
ตอนที่ใช้ตะเกียบกระทุ้งมีดนั้น หลี่โม่ก็ได้ใช้เทคนิคอันแยบยล เห็นเพียงมันบินวนไปรอบๆอยู่บนฟ้า และได้ข้ามผ่านหัวของเชฟพุ่งตัดไปยังยอดศีรษะของเชฟรอง
เชฟรองได้ถูกทำให้ตกใจจนโซเซไปด้านหลัง ผู้ช่วยเชฟคนอื่นๆที่บุกติดตามมาได้ขวางอยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็ได้เบียดกันจนกลายเป็นก้อนๆหนึ่ง มันยุ่งเหยิงมากจนจะเดินหน้าก็ไม่ได้จะถอยหลังก็ไม่ได้
มีดได้ตกสู่กลางกลุ่มคน และได้ตัดหูขวาของผู้ช่วยเชฟคนหนึ่งไปตรงๆแล้ว
“โอ๊ย หูของฉันถูกตัดแล้ว! หูของฉัน!”
ผู้ช่วยเชฟได้กุมบาดแผลที่มีเลือดทะลักไหลออกมาไว้ และได้ร้องตะโกนเสียงดังด้วยความหวาดกลัว
เชฟรองและคนอื่นๆมองอย่างกลัวสุดขีด ต่างก็ได้กลัวหัวหดจนถอยไปด้านหลัง และไม่มีใครกล้าพุ่งขึ้นมาอีก
เชฟรู้สึกเสียใจที่เมื่อกี้ได้อวดดีมากเกินไป เวลานี้ด้านหนึ่งเขาได้ยิ้มแห้งๆอีกด้านหนึ่งได้ถอยหลัง: “เหอๆ นายอย่าได้ลำพองใจไป นายน้อยของพวกเราก็ใกล้จะมาถึงแล้ว นายก็รอประสบเคราะห์ร้ายเถอะ!”
“กงซุนจุนจะมางั้นเหรอ งั้นผมก็ต้องถกเถียงถกเถียงกับเขาให้ดีๆหน่อย เขามาทำลายงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของบ้านผม ก็จะต้องมีคำชี้แจงสำหรับเรื่องนี้”
หลี่โม่ได้ยืนกอดอก และรอการมาถึงของกงซุนจุนด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่แยแส
ไม่ได้ให้หลี่โม่รอนานมากนัก รถของกงซุนจุนก็ได้จอดอยู่ด้านนอกของคฤหาสน์แล้ว
กงซุนจุนที่ได้ก้าวเท้ายาวและเดินเร็วๆเข้ามาในคฤหาสน์ เมื่อเข้ามาในลานบ้านก็ได้กวาดตามองรอบหนึ่ง จากนั้นหัวคิ้วจึงได้ขมวดแน่นขึ้นมา
สถานการณ์ไม่เหมือนกับที่กงซุนจุนคาดคิดเลยสักนิด ก่อนหน้านี้กงซุนจุนคิดว่าเมื่อตัวเองมาถึงสถานที่ เชฟก็พาคนควบคุมสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ให้ตัวเองมาทำให้หลี่โม่อับอายก็ได้แล้ว
แต่เวลานี้เชฟและคนอื่นๆต่างก็ตัวสั่นรวมกันเป็นก้อน และหลี่โม่ก็ได้นั่งอย่างสบายๆด้วยท่าทางที่ไม่แยแสทั้งหมดเป็นท่าทางที่หลี่โม่ครอบครองไว้ด้วยความได้เปรียบ
“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่? พวกนายกำลังทำอะไร!”
กงซุนจุนตวาดด้วยความโกรธ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...