เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ทุกคนก็รีบวิ่งเข้าไปหา
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาแล้ว ได้ยินว่าพวกท่านไปหาซื้อยาที่จวนหลงฉวนแล้ว?”
กู้หว่านเยว่เหลือบมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความเป็นห่วง นางเหนื่อยเกินไปจริง ๆ จึงหาวแล้วเดินเข้าไปในห้อง
“ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร รอให้ข้านอนตื่นก่อนแล้วค่อยพูด ตอนนี้ข้าต้องการนอน”
ขณะพูด กู้หว่านเยว่ก็เอื้อมไปปิดประตู ทิ้งให้คนอื่น ๆ มองหน้ากัน
ซูจิ่นเอ๋อร์มองแผ่นหลังที่เย็นชาของกู้หว่านเยว่ก็แทบจะร้องไห้แล้ว
“ทั้งหมดเป็นความผิดของปากเสีย ๆ ของข้า วันนั้นข้าต้องพูดจาเหลวไหลแน่ ๆ ทำให้พี่สะใภ้ต้องมาเดือดร้อน ข้ามันตัวปัญหาจริง ๆ !”
นางได้ยินมาว่าฮูหยินผู้เฒ่าโจวคนนั้นป่วยหนักใกล้ตายแล้ว ไม่มีใครรักษาได้ ตอนนี้พี่สะใภ้กำลังถูกบีบบังคับอย่างหนักเชียวนะ!
ซูจื่อชิงกลอกตามองนาง
“ตอนนี้จะมานั่งเสียใจก็ไม่มีประโยชน์ ปากไม่เคยมีหูรูด ถ้าสำนึกผิดจริงก็ไปที่ห้องครัวแล้วต้มน้ำแกงบำรุงให้พี่สะใภ้สิ”
พูดจบก็ก้มหน้าลง แล้วดึงซูจิ่นเอ๋อร์ไปที่ครัวเล็กด้วยกัน
กู้หว่านเยว่หลับไปนานถึงสามชั่วยามเต็ม ๆ เมื่อตื่นขึ้นมา เด็กสาวซูจิ่นเอ๋อร์ก็ยกน้ำแกงบำรุงมาให้นางด้วยท่าทางรู้สึกผิด
กู้หว่านเยว่มองนางแล้วยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร ดื่มน้ำแกงจนหมด แล้วออกไปที่หน้าเรือน
โจวเหล่า ซ่งเสวี่ย และคนอื่น ๆ ต่างกระวนกระวายใจ รอคอยอยู่แต่ในเรือน เมื่อเห็นเงาร่างของกู้หว่านเยว่ก็เหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต
“แม่นางน้อยกู้ เจ้าพักผ่อนเสร็จแล้วหรือ?”
กู้หว่านเยว่ยิ้มและพยักหน้า “ทุกท่านรอนานแล้ว”
“ไม่เป็นไร ๆ ตราบใดที่แม่นางน้อยกู้ช่วยฮูหยินให้ฟื้นขึ้นมาได้ ข้ารอนานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร”
โจวเหล่าที่หยิ่งผยองและดื้อรั้นแม้แต่ต่อหน้าฮ่องเต้ เวลานี้กลับดูต่ำต้อยมากเพียงใดเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่
เห็นได้ชัดว่าเขาฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่กู้หว่านเยว่
ความกดดันนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กู้หว่านเยว่กลับสงบนิ่ง แล้วเอ่ยเตือนว่า “ท่านโจวเหล่า ตอนที่ข้ากำลังถอนพิษ ห้ามใครเข้ามาทั้งสิ้น ต้องรออยู่ที่เรือนเท่านั้น”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...