“ไม่มีความเป็นไปได้ที่หนานหยางอ๋องจะเป็นบิดาในทางชีววิทยาของฟู่ชิง?
หว่านเยว่ นี่มันหมายความว่ายังไง?”
“ความหมายก็คือระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมต่อกัน”
“ฟู่ชิงไม่ใช่คุณหนูรองตัวจริง”
กู้หว่านเยว่อธิบาย
การคาดเดาของนางถูกต้อง “คุณหนูรอง” คนนั้นเป็นตัวปลอมดังคาด
แต่กู้หว่านเยว่ก็ยังมีข้อสงสัย “ถึงจะมีหลักฐานที่แน่ชัดแล้ว แต่หนานหยางอ๋องก็กำลังดื่มด่ำอยู่กับความยินดีที่หาตัวธิดาพบ
ถ้าตอนนี้พวกเราไปเปิดโปง ไม่ใช่แค่จะถูกเกลียดชังเท่านั้น
แต่การพาเมี่ยชิงหว่านไปพบครอบครัวด้วย อาจถูกมองว่ามีเจตนาแอบแฝงก็ได้”
ซูจิ่งสิงก็คิดเช่นเดียวกัน “ควรเลื่อนเรื่องการพบครอบครัวออกไปก่อนดีกว่า”
อันที่จริงเขาก็อยู่ที่นั่นไม่ไปไหนอยู่แล้ว
แม้ว่าหนานหยางอ๋องจะได้ยาถอนพิษแล้ว แต่ก็จะไปไหนสักพัก ต้องให้กู้หว่านเยว่ตรวจวินิจฉัยอีกสองครั้งว่ามีพิษตกค้างหรือไม่
กล่าวคือก่อนหน้านั้น พวกเขายังมีโอกาสเปิดโปง “คุณหนูรอง” อยู่
หลังจากหารือกันแล้ว กู้หว่านเยว่ก็โยนผลรายงานเข้าไปในมิติ แล้วเร่งการเดินทางต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากเดินไปได้สักพัก ซูจิ่นเอ๋อร์ก็ชี้ไปที่ป่าโกร๋นริมถนนด้วยความประหลาดใจ
“พวกท่านดูสิ นั่นไม่ใช่เสี่ยวอันกับเสี่ยวหรงหรอกหรือ?”
กู้หว่านเยว่หันหน้าไป เห็นหลี่เฉินอันและเสี่ยวหรงที่กำลังสั่นสะท้านท่ามกลางลมหนาวรีบวิ่งเข้ามา ในมือยังถือไก่ฟ้าสองตัวไว้ด้วย
“เอ๊ะ? ดูท่าทางเด็กคนนี้จะคิดได้แล้ว
ซูจิ่นเอ๋อร์เข้าไปต้อนรับ “ข้ายังคิดว่าพวกเจ้าสองคนหนีไปแล้ว ที่แท้ก็ไปจับไก่ฟ้ามาหรอกหรือ!”
หลี่เฉินอันยื่นไก่ฟ้าให้ซูจิ่นเอ๋อร์ก่อน จากนั้นจึงเดินไปหากู้หว่านเยว่ด้วยสีหน้าประหม่า
ก้มหน้างุด ไม่พูดอะไร
กู้หว่านเยว่ไม่สนใจเขา รอจนกระทั่งคณะหยุดพักรับประทานอาหารกลางวัน แล้วค่อยพูดอย่างเฉยชา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...