ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า นิยาย บท 81

หมายถึงเรื่องของคุณยาย

เพราะหลังจากที่กลับไปตระกูลเจียง ท่านทวดเฉินชิงก็ดีต่อเธอเป็นอย่างมาก

อีกอย่างคือตอนที่เธอสำลักน้ำ กลับไปที่ตระกูลเจียงแล้วเธอก็พักฟื้นอยู่ตลอด ตอนที่คลอดเสี่ยวเสว่อานก็ยิ่งเจออะไรมามากมาย หลังจากที่คลอดลูกออกมาก็ดูแลอย่างละเอียด

แต่ในช่วงนั้น ท่านทวดเฉินชิงเป็นห่วงเรื่องของเธอมาก ไม่ใช่แค่เธอ ยังมีเสว่อาน เพราะเด็กนั้นคลอดก่อนเวลา

ท่านทวดเฉินชิงไม่ไว้ใจพี่เลี้ยงเด็กมืออาชีพอะไรนั้นเลย แทบจะลงทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งนั้น จะบอกว่าเสว่อานท่านทวดเฉินชิงเป็นคนเลี้ยงโตเลยก็ว่าได้

เสว่อานร่างกายอ่อนแอไม่สบายบ่อย เห็นว่าท่านทวดเฉินชิงดูแก่ลงเป็นสิบปีเมื่อเทียบกับตอนที่เธอกลับไปตระกูลเจียง นั้นก็เพราะว่าเสว่อาน

นี่ก็เพราะว่าทำไมส่วนใหญ่ เย่ชิงหลีถึงแม้จะรู้ว่าแม่และคุณยายต้องทรมานเพราะเธอ ก็ไม่สามารถชักสีหน้าที่ไม่ดีต่อเธอ

คนต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา

“คุณยายเป็นคนละเอียดอ่อน และชอบไปยืนในมุมมองของคนอื่นแล้วคิด ท่านไม่โทษเธอหรอก”

“อื้ม”

ได้ยินลี่เลี่ยพูดแบบนี้ เย่ชิงหลีถึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

เพราะเป็นคนที่ดีต่อตัวเองมากคนหนึ่ง เย่ชิงหลีไม่อยากให้เธอต้องเสียใจ

“ชิงหลี”

“ห๊ะ?”

“ที่จริงเรื่องตอนนั้น เธอก็ไม่ต้องฟังความฝ่ายเดียว คุณตาหย่ากับคุณยาย บางทีอาจจะไม่ใช่เพราะเหตุผลของคุณตาอย่างเดียว”

“ที่จริงอะไรก็ไม่ได้พูด”

เย่ชิงหลีพูด

แม่และคุณยายแทบจะไม่เคยพูดถึงคุณตาเลย ไม่อย่างนั้นทำไมเธอจะไม่รู้ว่ายังมีคุณตาหลังจากที่คุณยายเสียแล้ว?

แต่หลังจากที่กลับไปตระกูลเจียง คุณตาก็ไม่พูดเรื่องของตอนนั้นเหมือนกัน

แต่ก็เพราะการไม่พูดอะไรพวกนี้ ทำให้เธอดูออกแล้วว่าทำไมคุณยายถึงเกลียดคุณตามากขนาดนี้ แต่ได้เห็นจากตระกูลเจียง....เรื่องที่ต่างไปจากนั้น

“เป็นเรื่องของคนรุ่นก่อน เธอไม่ต้องมีความกดดันอะไรมาก”

“อื้ม”

เย่ชิงหลีพยักหน้า

พูดแบบนี้ แต่เธอ...กดดันจริงๆ ทุกครั้งที่เห็นท่านทวดเฉินชิงดีต่อตัวเอง เธอก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

และเธอก็ดีต่อเสว่อานมากด้วย นี่ก็....

ถ้าหากว่าเพิกเฉยหรือว่าไม่ยอมรับในตัวของเธอเลย เธอยังมีข้ออ้างที่จะปลดปล่อยเหมือนกับแม่และคุณยาย

แต่เธออะไรก็ยังไม่ได้ทำ ก็มีคนดีต่อเธอแล้ว เธอจะทำอะไรอีก?

ยิ่งกว่านั้น เธอคนเดียวก็ว่าไป แต่ลี่เลี่ยที่เป็นหลานของเธอ และก่อนที่เธอจะอยู่กับคุณตา ลูกสาวที่มีกับสามีคนก่อน หรือก็คือแม่ของลี่เลี่ยหลี่ซาก็ดีต่อตัวเองเป็นอย่างมาก

ในครอบครัวที่ความสัมพันธ์วุ่นวายนี้ กลับมีความสัมพันธ์ที่กลมกลืนกัน นี่เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ

“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดแล้ว” ลี่เลี่ยขยีหัวของเธอเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“รู้แล้วหน่า”

เย่ชิงหลีเดิมทีก็ประหม่าต่อความรู้สึกอยู่แล้ว

ในครอบครัวที่ความสัมพันธ์สับสนนี้ ยิ่งต้องประหม่าเข้าไปใหญ่

ไม่อย่างนั้น ก็จะรู้สึกหายใจไม่ออกจริงๆ

“ครั้งนี้กลับไปเมืองลี่เฉิงต้องรีบจัดการเรื่องให้หมด คุณตาแกอายุก็มากแล้ว”

“อื้ม รู้แล้ว” เย่ชิงหลีพยักหน้า

เมื่อกี้ที่โต๊ะกินข้าวเช้า เธอรู้สึกได้ว่าคุณตาไม่อยากให้เธอไป อายุขนาดนี้แล้ว อยู่ได้วันหนึ่งเป็นวันหนึ่ง

ดังนั้นเธอก็คิดว่าใช่ ต้องรีบกลับมา

ทางเผยจิ้นโม่

เครื่องบินลงจอดก็ได้รับข้อความว่า เย่ชิงหลีได้บินกลับไปที่เมืองลี่เฉิงเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว ตอนนั้นเอง เผยจิ้นโม่ที่ยืนอยู่ในสนามบิน แทบจะระเบิดอยู่กับที่แล้ว

“เย่ชิงหลี กูไม่ปล่อยมึงไปแน่” กัดฟันพูด อยากจะฉีกเนื้อบนตัวของเย่ชิงหลีลงมาให้หมด

นี่คือคิดว่าไม่มีไรทำก็เลยต้องวิ่งไล่ตามเธอไปทั่วใช่ไหม?

ผู้หญิงบ้านี้

‘ปุ้ม’ ทีหนึ่ง ลี่เลี่ยรู้สึกหัวจะระเบิดแล้ว รู้สึกแค่ว่าสมองมีเสียงดังไม่หยุด

ลุกขึ้นยืนขึ้นทันที แล้วมองเผยจิ้นโม่ด้วยตาคู่ที่น่ากลัวนั้น

เผยจิ้นโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

“นายคิดว่าที่ท่านทำเป็นเรื่องที่น่ายกย่องเหรอ?”

“เผยจิ้นโม่ไอสารเลว” ลี่เลี่ยระเบิดทันที เมื่อกี้ยังคิดว่าเผยจิ้นโม่มาเพื่อจะหาต่อยกับเขาแท้ๆ

แต่ตอนนี้.....

เขา จะต่อย

ฉากนั้นก็รุนแรงขึ้นมาทันที

ไม่ว่าบนตัวของตัวเองจะเกิดเรื่องอะไรมากแค่ไหน ก็จะผ่านไปได้อยู่แล้ว แต่เรื่องของผู้ชายถูกเอาออกมาพูด

โดยเฉพาะคุณยายที่อายุใกล้จะ70แล้ว ลี่เลี่ยจะไปทนได้ซะที่ไหน?

ฝีมือของทั้งคู่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ต่างลงมือแรงมาก เพราะเป็นบริษัทของลี่เลี่ย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริษัทก็ได้มาช่วย แต่ก็ถูกลี่เลี่ยไล่ออกไปหมด

สถานการณ์รุนแรงมาก ตั้งแต่ที่ลี่เลี่ยเป็นประธานบริษัทนานาชาตินี้ ให้ภาพลักษณ์ที่มั่นคงและจริงจังอยู่ตลอด

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นลงไม้ลงมือกับคนอื่นอย่างโหดร้ายขนาดนี้ พนักงานแผนกเลขาที่อยู่ข้างกายที่สุด ต่างกลัวไปหมด

แต่พนักงานผู้หญิงพวกนั้น ต่างรู้แค่ประธานของตัวเองนั้นเหมือนจะยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่

บนความสามารถการเป็นผู้นำมีอยู่แล้ว ความสามารถของการเป็นแฟนก็เหมือนกัน จะไม่หวั่นไหวได้ยังไง?

“เผยจิ้นโม่ ตอนนั้นที่นายทำเรื่องแบบนั้นออกมาก็รู้สึกว่านิสัยของนายนั้นทุเรศมาก ตอนนี้....ยิ่งรู้สึกว่านายน่าขยะแขยงกว่าเดิม”

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนก็ได้หยุดลง

ลี่เลี่ยมองเผยจิ้นโม่อย่างประชดประชันแล้วพูดว่า

เผยจิ้นโม่ “เรื่องของฉันและเธอในตอนนั้น นายไม่มีสิทธิ์มาพูด”

“นายมันน่าขยะแขยง”

เผยจิ้นโม่ “...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉันน่ะ...เศรษฐีนีตัวแม่จ้า