บทที่ 4 การพบเจอที่น่าอับอาย
ฉันรออยู่ในโรงพยาบาลเต็มหนึ่งวัน ตั้งแต่ตอนเช้าถึงตอนเย็น แม้แต่ข้าวเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน
แต่ฉันดีใจมาก การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้ว และผ่านไปได้ด้วยดี
ตอนเย็น ฉันรับโทรศัพท์สายหนึ่ง เสียงจากปลายสายช่างคุ้นหูมาก แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักชื่อของเธอ แต่ว่าฉันมั่นใจว่าเป็นสาวสวยคนนั้น
“ อยู่ที่ไหน ? ”
“ ผมยังอยู่ที่โรงพยาบาล ”
“ รอฉัน ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย ”
หลังจากนั้น โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไป แม้แต่ฉันจะพูดขอบคุณก็ยังไม่ทันได้พูด
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอก็ถือกระเช้าผลไม้เข้ามาให้ห้องพักผู้ป่วยที่พ่อฉันนอนอยู่ พลางแนะนำตัวเองว่าเป็นเพื่อนกับฉัน ฉันยังไม่ทันจะแนะนำให้พ่อกับแม่รู้จักเธอ เธอก็แนะนำตัวเองขึ้นมาก่อน ว่าเธอชื่อหยู่ถิง
พูดคุยกันอยู่ได้สักพัก หยู่ถิงก็กลับ ส่วนฉันบอกคนที่บ้าน แล้วก็เดินตามเธอไป
หลังจากขึ้นรถ หยู่ถิงก็พาฉันไปที่ห้างสรรพสินค้า
ระหว่างทางไป ฉันก็ขอบคุณเธอ
หยู่ถิงพูดว่า “ นายน่าจะตำหนิฉันนะ ไม่ใช่มาขอบคุณ นายน่าตำหนิที่ทำไมฉันไม่ยอมให้เงินนายไปจ่ายค่าผ่าตัดให้พ่อของนาย ”
ฉันส่ายหัว “ คุณไม่ได้ติดหนี้ผมเสียหน่อย แถมยังช่วยให้จางหงหวู่ยอมให้ผมยืมเงิน แค่นี้ผมก็ขอบคุณมาก ๆ แล้ว ”
หยู่ถิงหันหันมามองฉันในขณะที่เธอกำลังขับรถอยู่ แต่ไม่พูดอะไรสักคำ แล้วก็หันกลับไปขับรถต่อ ดูไม่ออกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อมาถึงห้องสรรพสินค้า หยู่ถิงก็พาฉันไปแผนกเสื้อผ้าผู้ชาย ฉันยังไม่ทันมีโอกาสได้พูดอะไร เธอก็กวาดสายตามองเสื้อผ้า จากนั้นก็หันมองไปรอบ ๆ แล้วก็ชี้ไปที่เสื้อผ้าห้าชุด ก่อนจะให้ฉันไปเปลี่ยนชุด
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละชุด หยู่ถิงก็เลือกให้ฉันใส่หนึ่งชุด แล้วที่เหลือสี่ชุดก็สั่งให้ใส่ถุง
จากนั้นเธอก็เลือกรองเท้าให้ฉันสามคู่
เลือกเสื้อผ้า ลองเสื้อผ้า เช็ดบิล รูดบัตร แล้วก็กลับ ตั้งแต่เข้ามาในห้างสรรพสินค้าจนถึงออกจากห้างสรรพสินค้า สิบห้านาที ดูจากมุมนี้แล้วหยู่ถิงน่าจะเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรค่อนข้างจะรวดเร็ว
จากนั้น เธอก็พาฉันไปที่ร้านตัดผม ฉันโดนแปลงโฉมตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่นี่ก็พูดได้ว่าเป็นสไตล์ใหม่ มีเอกลักษณ์ มีความสง่า พลางดูตัวเองในกระจกก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือฉัน
“ ฉันจะพานายไปงานเลี้ยง พยายามอย่าพูดอะไรให้มากที่สุด เป็นไปได้ก็พยายามยิ้มเอาไว้ ”
หยู่ถิงบอกฉันในขณะที่กำลังขับรถอยู่ ฉันพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรกลับไป
หลังจากมาถึงบ้านขนาดใหญ่แถว ๆ ชานเมือง รถก็จอด
หยู่ถิงลงจากรถ พลางแสดงท่าทางให้ฉันไปอยู่ข้างหน้าของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ยื่นมืออันเรียวยาวของเธอ มาช่วยจัดทรงคอเสื้อให้ฉัน และตบรอยยับบนเสื้ออย่างใส่ใจ
จากนั้นก็มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็หยักหน้า “ ไม่เลว หล่อมาก หล่อกว่าพวกโอปป้าเกาหลีเยอะเลย ”
แล้วเธอก็ให้ฉันหันหลังไป จากนั้นเธอก็เข้าไปในรถของตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเธอจะทำอะไรกันแน่
แต่ทว่าเมื่อเธอออกมาจากรถ ฉันก็ต้องตกตะลึงในความสวยของเธอ
ชุดเดรสเกาะอกสีเงินสั้นรัดรูป ด้านนอกเป็นกระโปรงซีทรูสีชมพูอ่อน เปลือยแขนทั้งสองข้าง ทั้งขาวและเรียบเนียน
ความอวบอิ่มของหน้าอกถูกรัดด้วยชุดเดรสเกาะอก สวยมาก และน่าหลงใหลมาก ราวกับเจ้าหญิงแสนสวยที่มีคนนับพันหลงรัก งามที่สุดในปฐพี
โดยเฉพาะเท้าขาวใสกับรองเท้าส้นสูงฝังเพรชนั้น ทำให้เธอโดดเด่นอย่างไร้ที่ติ
“ สวยไหม ? ”
“ สวยมาก ดาราเดินพรมแดงยังสวยไม่เท่าคุณเลย ถ้าคุณไปอยู่ตรงนั้นล่ะก็ พวกเขาจะต้องดูด้อยกว่าคุณแน่ ๆ ”
หยู่ถิงยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ทำให้เธอยิ่งอยู่สวยขึ้นไปอีก “ ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้ซื่อตรงอย่างที่ฉันคิด แต่อย่างน้อยก็ยังปากหวานอยู่ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+