บทที่ 8 พี่ซื้ออิสรภาพให้นาย
ห้อง A66 ของร้านคาราโอเกะดี้เล่สิงซิง เคยแต่ได้ยิน แต่ไม่เคยเห็น ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็น
ถ้าหากเอาร้านคาราโอเกะดี้เล่สิงซิง เปรียบเทียบกับโรงแรมห้าดาวล่ะก็ห้อง A66 ก็สามารถพูดได้ว่าเป็นห้องชุดของประธานาธิบดีเลยเชียว
ฉันสูดหายใจก่อนจะเปิดประตูเข้าไป พลางปัดด้านหลังอย่างสะอาดสะอ้าน จากนั้นก็เคาะประตูด้วยใจที่กระวนกระวาย ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
ยังไม่ทันจะมีเวลาได้สำรวจด้านในห้องที่หรูหรานี่ เพราะข้างมาฉันก็เห็นดี๋ชิงโถงนั่งอยู่บนโซฟาที่ใหญ่ ๆ พอกับเตียง
แต่จะพูดไปแล้ว ดี๋ชิงโถงก็สวยจริง ๆ อายุก็ราว ๆ ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด มันคืออายุที่สิ้นสุดความเป็นเยาวชนและมีวุฒิภาวะ ใบหน้าที่สวยงาม และรูปร่างที่สง่างาม เมื่อเทียบกับหยู่ถิงมันก็ดูพอจะสูสีกัน เพียงแค่ขาดรสชาติความบริสุทธิ์และดูเป็นผู้ใหญ่ไปหน่อย
ฉันมองเธอ จากนั้นก็ก้มหัวให้เธอ ราวกับนักเรียนที่กำลังทำผิด
“ ทำไม โดนจางหงหวู่อบรมมาแล้วใช่ไหม ว่าไม่ควรขัดใจฉัน !? ”
น้ำเสียงของดี๋ชิงโถงฟังดูไม่ดีนัก และเห็นได้ชัดว่าเธอยังโกรธเคืองเรื่องที่ฉันไปหักหน้าเธอไว้เมื่อคืน
ฉันไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เงียบอย่างกระสับกระส่าย
ดี๋ชิงโถงหัวเราะเย้ย “ เมื่อคืนปฏิเสธฉันไปถึงกับพูดไม่เป็นเลยเหรอ เมื่อคืนโดนข้างล่างของยัยกีบหมูหยู่ถิงทำให้เป็นใบ้เลยเหรอ ? ”
ฉันก็ยังคงไม่พูดอะไร และเงียบต่อไป แต่ดูเหมือนนี่จะทำให้ดี๋ชิงโถงรู้สึกโกรธ
“ นายเป็นใบ้เหรอ ? พูดซิ!!! ”
ในขณะที่เธอออกคำสั่งด้วยความโมโห ฉันก็พูดออกไปเบา ๆ ว่า “ จางหงหวู่ไม่ได้อบรมผม เพียงแค่บอกผมเกี่ยวกับฐานะของคุณชิงโถง ให้ผมปรนนิบัติคุณดี ๆ และอย่าได้ขัดใจลูกค้ารายใหญ่ของเธอ ”
“ เมื่อคืนนี้ผมโดนตบไปสองครั้ง ครั้งแรกคือคุณชิงโถงตบผม และอีกครั้งคือหยู่ถิงตบผม เพราะว่าผมก็ปฏิเสธเธอเหมือนกัน ก่อนจะไปงานเลี้ยงนั้น ผมไม่รู้เลยว่ามันเป็นงานเลี้ยงแบบไหน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นงานเลี้ยง ”
ดี๋ชิงโถงที่ใส่รองเท้าส้นสูงเดินมาข้างหน้าฉัน กางเกงยีนส์เก้าส่วนที่รัดรูปทำให้เห็นเรียวขาของเธออย่างชัดเจน
“ ทำไม ฟังความหมายที่นายพูดแล้ว เหมือนฉันต้องขอบคุณนายที่หลังจากปฏิเสธฉัน ก็ยังปฏิเสธยัยกีบหมูนั้นด้วย ? ”
ฉันรีบอธิบาย “ คุณชิงโถง ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น เมื่อคืนพอคุณกลับไป หยู่ถิงก็ขอบคุณผม ที่ผมยังไว้หน้าเธอ แต่ตอนนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้เจตนาจะทำร้ายคุณ ”
“ ผมเป็นแค่คนชนบท ถ้าหากไม่ใช่ว่าพ่อผมประสบอุบัติเหตุต้องใช้เงินรักษาตัวล่ะก็ ฉันก็คงไม่ได้ไปยืมเงินจากจางหงหวู่แล้วเดินสายนี้หรอก คุณชิงโถง ผมไม่กลัวเรื่องตลกของคุณหรอก เมื่อคืนที่ผมปฏิเสธคุณ ในใจก็คิดว่ามันน่าตลกจริง ๆ ผมคิดว่า ผมเป็นผู้ชาย ผมมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ผมไม่ได้สิ่งของ ผมไม่ยอมรับการโดนเสนอราคา ถึงแม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงก็ตาม ! ”
“ แต่ว่าหลังจากที่ปฏิเสธไปแล้วก็พบว่า ไม่ว่าจะยอมหรือไม่ยอม สุดท้ายผมก็คือแมงดาอยู่ดี เมื่อเป็นแมงดา ก็ไม่ควรจะพูดถึงเรื่องศักดิ์ศรี เพียงแค่ต้องปรนนิบัติพวกคุณให้ถึงใจก็พอแล้ว แต่ว่า ฉันก็ลังเลมากจริง ๆ ฉันไม่อยากคิดอย่างนั้น แต่มันก็ไม่สมัครใจ คุณชิงโถง คุณบอกผมที ผมควรจะทำยังไง ผมลังเลมากจริง ๆ รู้สึกทรมานใจ! ”
พูดไปพูดมา น้ำตาแห่งความเสแสร้งของฉันก็ไหลลงมา
เมื่อเห็นดี๋ชิงโถงตกตะลึงเล็กน้อย ฉันจึงตีเหล็กในขณะที่ร้อน ทันใดนั้นเธอก็ถึงฉันเข้าไปกอดไว้ในอ้อมกอด ฉันก็ยิ่งร้องไห้ออกมาอย่างโศกเศร้า
ดี๋ชิงโถงยิ่งตกตะลึงเข้าไปอีก ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ยืนโง่อยู่อย่างนั้นให้ฉันร้องไห้ในอ้อมกอดของเธอ
ผ่านไปสักพักใหญ่ เธอก็เรียกสติกลับมาและผลักฉันออก “ ก็แค่กลอุบาย จะมาหลอกฉันเหรอ ? แล้วยังมาเล่นละครตบตาอีก ? ”
ฉันไม่ได้พูดอะไร พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาพ่อต่อหน้าเธอ และบอกเขาไปว่าคืนนี้คงไม่ได้ไปเฝ้า ให้เขาพักผ่อนเยอะ ๆ และที่บังเอิญไปกว่านั้นคือ พ่อของฉันบอกว่าพรุ่งนี้ต้องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ฉันจึงถามไปว่าทำไม เขาก็บอกว่าหมอบอกว่าได้เวลาต้องจ่ายเงินแล้ว
“ ไม่เป็นไร ผ่าตัดเสร็จแล้วก็คงไม่มีอะไร มีคนให้ยืมเงินมาผ่าตัดก็ดีแล้ว ส่วนพวกเราก็ตั้งใจทำงานหาเงินมาคืนหนี้ต่อไป…… ”
พ่อพูดเสียเยอะ จนทำให้ฉันร้องไห้ออกมาจากความรู้สึกที่แท้จริง ไม่ใช่เรื่องโกหก ทำเอาฉันที่ร้องไห้ออกมาพูดอะไรแทบไม่ออก พ่อพูดให้กำลังใจเยอะมาก จากนั้นก็วางสายไป
แล้ว ฉันก็เห็นมีทิชชู่ยื่นมาตรงหน้าฉัน
“ พอแล้ว เป็นผู้ชายเสียเปล่า จะมาร้องไห้อะไร ไม่เหมาะเอาเสียเลย ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตที่อยู่ร่วมห้องกับสาวๆ 18+