ซุปเปอร์เจ้าสำราญ นิยาย บท 12

บทที่ 12 เสิ่นซานของเมืองหนานเฉิง

“พวกนายมาที่นี่เพื่อตามหาตัวฉันหรือ?” หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ นายเดาถูกละ”

ชายร่างโตยิ้มอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงกำปั้นไปที่ใบหน้าของหลินอิ่ง

หลินอิ่งสะบัดร่างกาย เขาก็หลบหมัดนั้นไปได้

สองคนนี้ต่อยหมัดได้อย่างรวดเร็ว แสดงว่าเป็นมือชกที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพ

“ ปฏิกิริยาตอบสนองเร็วดีนะ” ชายร่างใหญ่ชกไม่โดนเขา สีหน้าของเขาประหลาดใจเล็กน้อย

“ งั้นกูจะหักขามึงทิ้งเอง!”

สีหน้าของชายร่างแกร่งทั้งสองดูดุร้าย เขาสองคนลงมือพร้อมกัน พวกเขาก็เตะไปที่หัวเข่าของหลินอิ่งพร้อมกันสุดแรง

หลินอิ่งหันข้างไป เตะขาออกไปอย่างแรง และเสียงลมดังขึ้น เตะไปโดนเอวของชายทั้งสองเน้นๆ

ตุบ! ตุบ!

ชายร่างแกร่งทั้งสองถูกเตะออกไปไกลหลายเมตร และล้มลงกับพื้นอย่างแรง ทั้งคู่กระอักเลือด พวกเขามองไปที่หลินอิ่งด้วยสายตาตื่นตระหนก

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลินอิ่งแค่เตะไปสองทีก็เกือบจะทำให้เขาสองคนตายได้!

ฝีมือที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ จะเป็นไอคนไม่ได้เรื่องอย่างที่เขาลือได้อย่างไร?

พวกเขาสองคนคร่ำครวญในใจ ก่อนที่พวกเขาจะมา พวกเขายังคิดว่าสามารถจัดการเขาได้อย่างสบายๆ แต่พวกเขาดูถูกหลินอิ่งเกินไป

“ใครสั่งให้พวกนายมาหาถึงที่นี่กันแน่ พูดมาเดี๋ยวนี้!”

สีหน้าของหลินอิ่งเปลี่ยนไปอย่างเย็นชา ในดวงตาของเขามีแววตาที่เยือกเย็น

เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวนี้ พวกเขาก็ตัวสั่นขึ้นมา

หลินอิ่งเกิดอยากจะสังหารพวกเขาขึ้นมา

เขาเกิดเป็นทายาทของแก๊งมังกร เขาเองก็รู้ดีว่ามีคนตามหาเขาเยอะ แต่สำหรับการที่คนอื่นมาสืบที่พักอาศัยของเขานั้น เป็นสิ่งที่เขาถือมาก

โดยเฉพาะที่นี่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวฉีโม่ด้วย นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขา

“ผม...พวกผมแค่ทำตามที่เบื้องบนสั่งมาครับ” ชายแกร่งคนหนึ่งตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ

“เบื้องบนของเราคือท่านสาม นายอย่าทำอะไรมั่วๆนะ ไม่อย่างงั้นท่านสามไม่ปล่อยนายไว้แน่ ” ชายแกร่งอีกคนหนึ่งพูดออกมาด้วยความเกร็งกลัว

หลินอิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดไปสักพัก

“เสิ่นซานของเมืองหนานเฉิง?”

“ใช่! พวกเราเป็นลูกน้องของท่านเสิ่นซานของเมืองหนานเฉิง ถ้านายเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านสาม นายก็คิดเอาดีๆนะ ” ชายแกร่งเห็นว่าหลินอิ่งเหมือนจะเคยได้ยินชื่อเสียงของท่านเสิ่นซาน น้ำเสียงของเขาก็ดูแข็งขึ้นมา

หลินอิ่งหัวเราะเยาะเย้ย

เสิ่นซานเป็นหัวโจ้กของโซนเมืองหนานเฉิง ในมือมีธุรกิจสีเทาไม่น้อย มีเงินมีชื่อเสียง ในเมืองชิงหยูนก็ถือว่าเป็นคนใหญ่คนโต มีชื่อเสียง

“เสิ่นซานเรียกพวกนายมาทำอะไร?” หลินอิ่งถามด้วยน้ำเสียงโทนต่ำ

ทั้งคู่เหมือนจะไม่ค่อยอยากจะพูด เขาสองคนไม่ยอมพูดอะไรเลย

เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!

หลินอิ่งตบไปที่หน้าสองที ตบจนทั้งคู่หน้าเป็นรอยช้ำ กล้ามเนื้อที่หน้าเต้นไม่หยุด

“อย่ามาเล่นกับความอดทนของฉัน”

ทั้งคู่เห็นสายตาอันแหลมคมของหลินอิ่งแล้ว พวกเขาไม่กล้าสบตา

ชายแกร่งคนหนึ่งกลัวแล้ว พูดพร้อมก้มหน้าว่า “ท่านสามสั่งพวกผมมาว่า ให้พวกผมคอยจับตาดูอยู่ที่ชุมชนเจียงฉือ ถ้าเห็นมีคนของครอบครัวจางฉีโม่เดินออกมา ก็ให้จับตัวไปทันที แต่จะจับไปทำอะไร พวกผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้หัวใจของ หลินอิ่งก็โกรธขึ้นมา โชคดีที่ครั้งนี้คนที่ออกมาคือตัวเอง ถ้าคนที่ออกมาเปลี่ยนเป็น ฉีโม่หรือพ่อแม่ของเธอ ก็โดนพวกเขาเล่นงานน่ะสิ?

พลั่ก!

หลินอิ่งก้าวไปเหยียบบนใบหน้าของชายแกร่งที่กำลังพูด เขากัดฟันไว้ด้วยความเจ็บปวดหน้าผากของเขามีเลือดไหลและร่างกายของเขาสั่นสะท้านทั้งตัว

“พาฉันไปเจอเสิ่นซาน” หลินอิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ดูเหมือนว่าต่อไปนี้ คงต้องหาทางให้ครอบครัวฉีโม่ย้ายไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้แล้ว ขนาดหมู่บ้านเจียงฉือยังมีคนจ้องจะมาทำร้ายเลย

ศิลปะการต่อสู้ของผู้ชายทั้งสองนี้ไม่ได้เก่งมาก พวกเขาถือได้ว่าเป็นเพียงแค่ผู้ฝึกฝนที่สามารถต่อสู้ได้ดีกว่าคนธรรมดา แต่พวกเขาไม่นับว่าเป็นปรมาจารย์

ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนในวงการศิลปะการต่อสู้โบราณที่มาหาตัวเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ