บทที่ 15 งานเลี้ยง – ตอนที่ต้องอ่านของ ซุปเปอร์เจ้าสำราญ
ตอนนี้ของ ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดย อาเหา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 15 งานเลี้ยง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 15 งานเลี้ยง
ในช่วงบ่าย จางฉีโม่ยังคงอยู่ในห้องทำงานของผู้อำนวยการ กำลังตั้งใจจัดการเอกสารของโครงการ World King อย่างจริงจัง
หลินอิ่งได้รับข้อความ เขาก็ทักทาย ฉีโม่ และลงจากลิฟต์
เมื่อมาถึงทางเข้าอาคารเป่าติ่ง มีรถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งได้จอดรอเขาที่ฝั่งตรงข้ามของถนน
.........................
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
โรงแรมชิงหยูน ชั้นที่26
ภายใต้การนำทางของพ่อบ้านคนเก่า หลินอิ่ง เดินเข้าไปในห้องทำงานขนาดใหญ่
ฉีเหอถูนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ตัวใหญ่อยู่คนเดียว โดยไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย บนใบหน้าของเขามีศักดิ์ศรีและสง่างามของผู้ที่เหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา
หลินอิ่งดึงเก้าอี้ออก แล้วนั่งลงและพูดเบา ๆ ว่า “มั่นใจมากไม่ใช่เหรอว่าฉันจะมาขอร้องนาย? ทำไมเริ่มตามหาฉันก่อนล่ะ รอไม่ไหวแล้วเหรอ?”
ฉีเหอถูดูสงบและพูดว่า “ดูเหมือนว่า ไม่ว่ายังไงนายก็จะไม่เต็มใจที่จะกลับมาตระกูลฉีแล้ว”
“ ฉันพูดไปตั้งแต่ฉันอายุ8ขวบแล้ว ว่าต่อไปนี้ตระกูลฉีจะไม่เกี่ยวข้องกับฉันอีก” หลินอิ่งกล่าวเบา ๆ
“นายไม่อยากกลับมาที่ตระกูลฉี ฉันจะไม่บังคับนาย ก็เหมือนกับตอน8ขวบที่นายจะออกจากบ้าน ฉันไม่ได้บังคับให้นายอยู่” ฉีเหอถูพูดอย่างใจเย็น “การหย่ากับแม่ของนาย เป็นหนึ่งในความผิดไม่กี่อย่างในชีวิตที่ฉันทำ และเป็น1เรื่องในไม่กี่สิ่งที่ฉันเจ็บปวดและหมดหนทางที่สุด แต่ฉันจะไม่มีวันยอมรับความผิดพลาดของด้วยปากของตัวเอง”
“หึ” หลินอิ่งหัวเราะเยาะเย้ย “แล้ววันนี้คุณเรียกฉันมา อยากพูดอะไร?”
“ที่ฉันให้นายมาในวันนี้ เพราะฉันอยากจะบอกนายว่า ฉันจะกลับไปที่ ตี้จิง” ฉีเหอถูกล่าว
“ฉันซื้อคฤหาสน์ในพื้นที่มีระดับดีที่สุดของคฤหาสน์ในวิลล่าหิมะมังกร ที่เมืองชิงหยูนมา1ชุด และเก็บรถสปอร์ตสิบคันไว้ในโรงรถใต้ดิน นอกจากนี้ ในบัญชีธนาคารของสวิสนี้มีเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” ฉีเหอถูกล่าวช้าๆ “ นายเอาไปหมดเถอะ แม้ว่านายจะไม่ยอมรับพ่อคนนี้ แต่ลูกของฉีเหอถูถูกรังแกและมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ไม่ได้!”
“ ผมไม่ต้องการ” หลินอิ่งพูดเบา ๆ
“นายจะคิดว่าฉันสงสารนายหรือคิดว่ามันเป็นความรู้สึกผิดของฉันก็แล้วแต่เธอ สิ่งที่ฉันฉีเหอถูเคยให้ไป ฉันไม่เคยเอากลับมา” ฉีเหอถูกล่าวอย่างองอาจ
“และฉันจะไม่ยุ่งกับชีวิตนายอีกต่อไป ฉันซื้อโรงแรมชิงหยูนนี้แล้วทั้งตึก ของทั้งหมดที่ให้นายจะถูกเก็บไว้ในตู้เซฟของห้องประชุมชั้นนี้ รหัสผ่านคือวันเกิดของนาย” ฉีเหอถูพูดช้าๆ
“นายจำเป็นต้องใช้ของเหล่านี้เมื่อไหร่ นายก็มาเอาไปเองได้ ถ้านายรู้สึกโกรธนายก็ทุบมันทิ้งทั้งหมดก็ได้ หรือนายเลือกที่จะเพิกเฉยต่อของพวกนี้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนาย”
หลินอิ่งส่ายหน้าและหัวเราะเยาะเย้ย
สไตล์การทำตัวของฉีเหอถู ยังคงเป็นเหมือนในทรงจำ ความหยิ่งผยอง และคิดว่าตัวเองสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างของคนอื่นได้
“แต่ว่า ในใจของนาย มันจะดูถูกฉันฉีเหอถูมากเกินไป” ใบหน้าของฉีเหอถูแสดงความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก “นายคิดว่าฉันต้องพึ่งพาลูกชาย เพื่อตั้งหลักในตระกูลฉีใน ตี้จิงงั้นเหรอ?”
“หึ”
ฉีเหอถูตะคอกอย่างเย็นชา แล้วเปลี่ยนการสนทนาทันทีและพูดว่า: “ฉันจะบอกให้ คราวนี้นายจะไม่กลับไปตระกูลฉี กับฉัน ถ้าอย่างงั้น ก็รอสามเดือนผ่านไป ฉันจะแจ้งข่าวให้นายทราบ ถึงตอนนั้นนายค่อยกลับไปหาคุณปู่ของนาย อย่าไปที่ตี้จิงโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“ ถ้าสามเดือนผ่านไป ฉันไม่ได้แจ้งข่าวอะไรให้นายฟัง ... จำให้ดีนะว่า ตลอดชีวิตของนายต่อไปนี้ อย่าบอกภูมิหลังของนายให้กับใคร และห้ามก้าวเข้าไปที่ตี้จิงเด็ดขาด และลืมทุกอย่างในอดีตให้หมด เข้าใจไหม ?”
หลินอิ่งกล่าวว่า “แค่นี้เหรอ?”
ฉีเหอถูกล่าวว่า: “นายจำไว้อย่าลืม”
หลินอิ่งลุกขึ้นและจากไป พอเดินไปถึงครึ่งทาง เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวันนี้ฉีเหอถู ผิดปกติไปเล็กน้อย
ดูเหมือนว่า เรื่องของตระกูลฉีที่ตี้จิงจะซับซ้อนกว่าที่คิด ...
หลินอิ่งลังเลเล็กน้อย และมองย้อนกลับไป
บังเอิญไปสบตากับฉีเหอถู
“นายมีเรื่องอะไรอีกหรือ?” ฉีเหอถูถามด้วยสีหน้าปกติ
ดวงตาของหลินอิ่งขยับเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็หันกลับไปและออกจากโรงแรมชิงหยูนไป
ไม่มีเสียงใด ๆ ในห้องประชุม ฉีเหอถูมองไปที่ประตูที่ หลินอิ่งเดินออกไป เขาเงียบเป็นเวลานานและถอนหายใจออกมายาวๆ
“ นายท่าน ท่าน....... ” พ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆก็เงียบลง
“ตอนแรกฉันคิดว่าสายอื่น ๆ ของตระกูลฉีของเรา ต้องการเดินไปในทางที่ถูกต้อง ก็เลยเอากฎของตระกูลและยึดอำนาจของสายของเราไป และชิงนั่งตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวอย่างมีสมเหตุสมผลนั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการจะพาอิ่งเอ๋อกลับไป กลับไปอุดปากพวกมัน” ฉีเหอถูพูดช้าๆ
“ไม่คาดคิดว่า พวกเขาไม่มีกฎแล้ว และยังยืมอำนาจจากภายนอกมา โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนในตระกูล นี่พวกเขากำลังเตรียมที่จะต่อสู้เอาให้เลือดออกเลยหรือ ... พาคนธรรมดาอย่างอิ่งเอ๋อกลับไป ก็เหมือนเอาแพะไปเข้าปากเสือ...”
“ นายท่าน ท่านไม่ต้องมองตี้จิงในแง่ร้ายเกินไป เราไม่ใช่ไม่มีโอกาสชนะเลย แม้ว่าอำนาจของนายท่านสามจะพังทลายอย่างสิ้นสุดเมื่อสองวันก่อน แต่ก็ยังมีตระกูลที่ซ่อนอยู่ใต้ท่าน สามหรือสี่ตระกูลที่ท่านสามารถระดมพลได้ กองกำลังลับๆยังคงรักษาได้สมบูรณ์เช่นกัน และยังมีความแข็งแกร่งในการสู้รบอยู่ ” พ่อบ้านกล่าว
“หึ ตอนนี้น้องชายคนที่สามตายไปแล้ว พวกเขาต้องการรวบตระกูลฉีไปทั้งหมด เว้นแต่จะข้ามศพของฉันไป ..... เหล่าลี่นายรออยู่ที่ เมืองตุงไห่และรอข่าวจากฉัน”
................
หลินอิ่งออกจากโรงแรมชิงหยูนไป มุ่งตรงไปที่ อาคารเป่าติ่ง และหยุดนึกถึงเรื่องของตระกูลฉี
พอตกเย็น
“โอ้? ผู้ช่วยหลินสวัสดีครับ” ชายในชุดสูทยิ้ม และยื่นนามบัตรไป “ผมเป็นผู้จัดการใหญ่ของ บริษัทก่อสร้างซู่หยาง ชื่อหลี่ฮุยครับ”
หลินอิ่งพยักหน้าเล็กน้อย “สวัสดีค่ะ”
“ฉีโม่ เก่งจริงๆนะเนี่ย บริษัทหาผู้ช่วยให้ด้วย!” หญิงสาวที่มีเสน่ห์และสวมชุดสีดำ กล่าวด้วยความอิจฉา
“ ผู้ช่วยแค่นี้เอง เธอไม่รู้หรอว่า ฉีโม่ของเราถอยรถ BMW ซีรีส์ 5 ด้วยนะ บริษัท ยังให้คนขับรถประจำตำแหน่งมาด้วย” สีหน้าของหลี่เสวี่ยนเอ๋อ ภูมิใจอย่างมาก พูดเหมือนกำลังอวดตัวเอง
“สุดยอดจริงๆ! ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังสาวเลยนะเนี่ย!”
“ฉีโม่ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งไปแล้ว”
สาว ๆ ทุกคนต่างแสดงสีหน้าที่อิจฉาออกมา
“พอแล้ว เสวี่ยนเอ๋อถ่อมตัวหน่อย ทุกคนก็เก่งไม่แพ้ฉันหรอก” จางฉีโม่ กล่าวด้วยรอยยิ้มและให้ความพึงพอใจกับตัวเองหน่อย ถึงยังไงหลายปีที่ผ่านนี้ เธอไม่เคยได้รู้สึกถึงความรู้สึกที่ถูกทุกคนให้ความสำคัญมาก่อน
ทุกคนพูดคุยกัน หลินอิ่งและจางฉีโม่นั่งลงบนโซฟา
ขณะนั้น หลี่เสวี่ยนเอ๋อก็โน้มตัวไปหาหลินอิ่ง สีหน้าของเธอไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“หลินอิ่งวันนี้ ฉีโม่อุตส่าห์ได้ออกหน้าออกตาสักครั้ง นายอย่าไปทำให้เธอเสียหน้านะหลี่เสวี่ยนเอ๋อเตือนเขา “นายอย่าบอกพวกเขานะว่านายเป็นสามีของฉีโม่ เข้าใจไหม?”
หลินอิ่งยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร
“ฉีโม่ เธอก็เหมือนกัน พาหลินอิ่งมาทำอะไร เธอก็รู้ว่าฉันอวยเธอไว้เยอะ เธอแทบจะกลายเป็นไอดอลของเพื่อนร่วมชั้นไปแล้ว” หลี่เสวี่ยนเอ๋อนั่งอยู่ข้างๆ จางฉีโม่ พูดเกลี้ยกล่อมอย่างพยายาม “ อย่าให้หลินอิ่งมาทำลายภาพลักษณ์ไอดอลของเธอนะ”
หลี่เสวี่ยนเอ๋อพยายามยุยงจางฉีโม่และไม่สนใจ หลินอิ่ง ที่นั่งข้างๆเลย
“พอแล้ว เสวี่ยนเอ๋อ วันนี้เป็นงานคืนสู่เหย้าของพวกเรา เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว” จางฉีโม่ กล่าวอย่างเคร่งเครียด
ในเวลาเดียวกัน มีผู้หญิงคนหนึ่งแนะนำว่า: “งานคืนสู่เหย้าของเราในวันนี้ ก็ถือเป็นการเฉลิมฉลอง ให้กับฉีโม่เหมือนกัน มา ทุกคนมาดื่มด้วยกันเถอะ”
“ชนแก้ว!”
“มีความสุข!”
คนทั้งกลุ่มต่างก็ลุกขึ้นดื่มเบียร์ไป1แก้ว
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง จู่ๆ หลี่ฮุย ก็หยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กที่สวยงามออกมาจากกระเป๋า เปิดกล่องของขวัญออกมา ข้างในนั้นเป็นสร้อยคอหยกแวววาวและมีคุณภาพระดับเฟิร์สคลาส
“ฉีโม่ ขอแสดงความยินดีกับการเลื่อนตำแหน่งของเธอนะ นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม ผมหวังว่าคุณจะรับมันไว้” หลี่ฮุย เดินไปหน้า จางฉีโม่ และยื่นกล่องของขวัญไปให้เธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ