บทที่17 คุกเข่า
ภายในห้องก็เงียบขึ้นมาชั่วขณะ
ผู้ชายตัวผอมที่ถูกต่อยจนจมูกบวมหน้าบวมเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่มาร่วมปาร์ตี้ด้วยกัน
ก่อนหน้านี้เขายังช่วยหลี่ฮุยเยาะเย้ยหลินอิ่งอยู่เลย
หลี่ฮุยไออย่างแห้ง ๆ และพูดว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ”
“นายบอกให้ปล่อยก็ปล่อยเหรอ นายเป็นตัวอะไร” ชายหน้าดุที่มีแขนสักดอกไม้ถามหลี่ฮุย
“ฉันเป็นตัวอะไรเหรอ? ฉันเป็นพ่อของนาย!” หลี่ฮุยรีบวิ่งขึ้นไป ตบหน้าชายแขนลายคนนั้น
"ฉันชื่อ หลี่ฮุย และฉันเปิด บริษัทก่อสร้างซู่หยาง ที่อยู่ใกล้ ๆ บริษัท ของเรา จื่อจินKTV ได้รับการตกแต่งโดยบริษัทของเราเจ้านายและฉันเป็นเพื่อนเก่าคุณลูกครึ่งส่งชุดให้ฉันที่นี่" หลี่ฮุยเต็มไปด้วยใบหน้า กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง.
“หลี่ฮุย? บริษัทก่อสร้างซู่หยางชายแขนลายกำลังจะต่อสู้กลับ เขาลังเลอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็อดทนต่อความโกรธไว้ แล้วเดินออกจากห้องไป “นายรอตรงนี้นะ”
“ พี่ฮุยขอบคุณมากๆครับ”
“ พี่ฮุยสุดยอดมากนะครับเนี่ย ได้หน้าจริงๆเลย! ทันทีที่แจ้งชื่อไปไอ้ตัวเล็กก็ตกตะลึง”
“ใช่สิ พวกผู้ชายอย่างเราก็ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มเหมือนพี่ฮุยสิ”
คนกลุ่มหนึ่งในห้องเริ่มประจบขึ้นมา
หลี่ฮุยนั่งเอนหลังบนโซฟาอย่างคนได้ชัยชนะมาและเขาก็สูบซิการ์ของเขาไป1คำ
เขาใช้เวลาและดื่มในสถานที่ต่างๆทุกวัน ก็รู้จักคนในแวดวงไม่กี่คน นักเลงแบบนี้เขาไม่รู้ว่าจัดการไปกี่ครั้งแล้ว ไม่เคยมีเรื่องตามหลังมา ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร
คนเมื่อกี้นี่หาเรื่องจริงๆเลยนะ เป็นกระสอบทรายที่ดีสำหรับเขาที่จะแสดงความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าจางฉีโม่
“ พวกนักเลงแบบนี้ แสร้งทำได้แค่ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าฉันเขาต้องเชื่อฟังกันหมด”หลี่ฮุยพูดด้วยสีหน้าได้ใจ แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋งมากๆ
“อย่างพี่ฮุยของเราก็เป็นที่รู้จักกันดีในถนนสายนี้ ไม่เหมือนคนบางคน นอกจากจะอิจฉาและใส่ร้ายคนอื่นแล้ว เขาไม่มีอะไรทำเลย พูดในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อกี้มีคนพุ่งเข้ามา แต่ตดยังไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาด สายตาของเขาจ้องมองไปที่หลินอิ่ง
หลี่ฮุยหัวเราะและพูดว่า “อย่าพูดเลยว่าใครบางคน นั่นหลินอิ่งรึเปล่า ฉีโม่ เธอเห็นรึยังคนไม่เอาไหนอย่าง หลินอิ่ง ถ้าคุณเจอเรื่องแบบนี้เข้า เขาจะช่วยเธอได้ไหม? คุณไม่รู้สึกปลอดภัยเลยด้วยซ้ำ”
“ ใครคือหลี่ฮุย?”
ทันใดนั้น เสียงตะโกนที่โกรธเกรี้ยวดังมาจากนอกห้อง
ชายที่มีรอยแผลเป็นรูปยาวบนใบหน้า พุ่งเข้ามาพร้อมกับชายร่างท้วมเจ็ดแปดคนที่ถือแท่งเหล็กมาด้วย ข้างๆชายที่มีแผลเป็นตามมาด้วยชายที่มีแขนลายดอกไม้ที่ถูกตบเมื่อกี้
“ ช่างกล้าดีจริงๆ มาตีลูกพี่ลูกน้องของผม ในถิ่นของงูดำ?” ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นพูดด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกับคีบบุหรี่ไว้ในปาก
เมื่อมองไปที่ท่าทีนี้ ทุกคนในกล่องก็กลัวจนหดตัวลงหมด และสีหน้าของทุกคนดูตื่นเต้นมาก
“นี่! งูดำ?” หลี่ฮุยเองยังแสดงความกลัวบนใบหน้าเช่นกัน
งูดำเป็นรุ่นใหญ่ในย่านถนนของกินนี้ เขาถือหุ้นของจื่อจินKTVไว้ด้วย
“ไม่ใช่ครับ พี่งู นี่เป็นแต่การเข้าใจผิดครับ ผมไม่ทราบจริงๆครับว่านั่นเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่าน ” หลี่ฮุยพูดด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล “ผมชื่อหลี่ฮุย พ่อของผมคือหลี่ชิงซาน บริษัทก่อสร้างซู่หยางเป็นของตระกูลผมเองครับ”
หลี่ฮุยกล้าลงมือสั่งสอนนักเลงกระจอกๆ แต่ไม่กล้าหาเรื่องหัวโจ๊กที่มีทั้งเงินและอำนาจอย่างงูดำหรอกนะ เขาเอาชื่อของพ่อเขามาพูด
“หลี่ชิงซาน?” งูดำขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามลูกน้องที่อยู่ข้างว่า “เหมือนจะเคยได้ยินชื่อนี้นะ ไอ้แปด ใช่เฒ่าแก่คนที่กินข้าวเย็นกับเราเมื่อวานรึเปล่า?”
“ใช่ครับ พี่งู หลี่ชิงซานคนนั้นแหละครับ”
“พี่งู ท่านเห็นแก่หน้าของพ่อผมด้วยเถอะเรื่องนี้ก็ให้มันจบแบบนี้ได้ไหมครับ แล้วเดี๋ยวผมจะเลี้ยงเหล้าในวันหลัง” หลี่ฮุยรู้เขาว่ารู้จักกับพ่อของตัวเอง ก็เลยถือโอกาสพูดไปเลย
“หึ ไว้หน้านายงั้นเหรอ?” งูดำทำสีหน้าไม่แยแส
“นายรู้ไหมว่าขนาดพ่อนายยังทำตัวเหมือนหมาเลียเท้าตอนอยู่หน้ากูเลย ”
“ฉันก็นึกว่าเป็นคุณชายที่ไหนซะอีก ที่แท้ก็ไอ้คนไม่เอาไหนอย่างนายนี่เอง ยังมาทำตัวเป็นคนใหญ่คนโตต่อหน้าฉันเหรอ?” งูดำหัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา
เพี๊ยะ!เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!
งูดำเดินมาตบหน้าหลี่ฮุยอย่าแรงไปสามที ตบจนใบหน้าเขาเป็นรอยฝ่ามือสีแดงชัด
“กดมันไว้ น้อง นายจัดการต่อเลย จัดการมันเสร็จก็เอาตัวมันไปที่แม่น้ำ โยนลงไปให้เขาตื่นสักหน่อย ” งูดำสูบบุหรี่ แล้วพูดอย่างใจเย็น
ชายร่างแกร่งกดหลี่ฮุยไว้บนโต๊ะอย่างแรง สีหน้าของชายที่แขนเต็มไปด้วยรอยสักลายดอกโกรธมาก เข้ามาก็ตบหน้าเขาอย่างแรงเลย ตบไปที่หน้าเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
“พี่งู ผมขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปเถอะ! ในห้องนี้มีลูกสาวของตระกูลจางอยู่ด้วย เห็นแก่หน้าของตระกูลจาง ปล่อยผมไปเถอะนะครับ” ใบหน้าของหลี่ฮุยบวมมาก พูดพร้อมขอร้อง แต่เขากลับเอาจางฉีโม่เข้ามาเกี่ยวด้วย
“คุณหนูตระกูลจางเหรอ? ” งูดำขมวดคิ้ว หรี่ตากวาดมองคนอื่นๆในห้อง
ฉีโม่ตอนนี้เธอเป็นผู้อำนวยการของจางซื่อกรุ๊ป แน่นอนว่าต้องมีอำนาจในตระกูลจางอยู่บ้าง ช่วยพี่ฮุยพูดอะไรคำสองคำสิ” เพื่อนหลายๆคนพูดกล่อมเธอ
“คุณจางฉีโม่คนนี้เหรอที่เป็นคนของตระกูลจาง ผู้อำนวยการแผนกของจางซื่อกรุ๊ป พี่งู คนคุณก็จัดการไปแล้ว ก็ไว้หน้าตระกูลจางหน่อย เรื่องนี้ก็จบแค่นี้เถอะนะ” หลี่เสวี่ยนเอ๋อออกมาพูด
“ตระกูลจาง? หึ ”งูดำหัวเราะออกมา “ตระกูลจางเป็นใครที่ไหนกัน? ระแวกเมืองหนานเฉิงนี้มีที่ให้ตระกูลจางมาพูดออกเสียงด้วยหรือ?”
พูดจบ งูดำ ก็เหลือบไปเห็นจางฉีโม่ เขาตาสว่างขึ้นมาทันทีทันใด ในสายตามีความเจ้าเล่ห์เผยออกมาเล็กน้อย
อย่าบอกนะว่าเป็นคนสวยที่ดังมากๆในเมืองชิงหยูนเมื่อสองปีก่อนเหรอ?” งูดำพูดพร้อมมองด้วยสายตาที่หื่นกระหาย “ได้ยินมาว่าตระกูลจางหาสามีให้เธอเหรอ? ชิชะ น่าเสียดายความสวยนี้จังเลย ”
วันนี้จางฉีโม่ใส่เสื้อสูททางการ บุคลิกดูดีมาก บวมกับเธอสวยอยู่แล้ว หุ่นก็ดีไม่มีที่ติ
ไม่ว่าผู้ชายคนไหนถ้ามาเห็นเข้า ก็ต้องหวั่นไหวแน่ๆ
“เอาหน่า จางฉีโม่ วันนี้เธอดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย มาพูดคุยกันเรื่องชีวิตของเรา เรื่องนี้ก็จะให้มันผ่านไป ฉันก็จะปล่อยตัวหลี่ฮุย” งูดำพูดด้วยสีหน้าที่ร้ายลึก
สีหน้าของจางฉีโม่แย่มาก คนอย่างงูดำไม่กลัวแม้กระทั่งตระกูลจาง เธอจะรับมือไหวได้ยังไง
“นายอยากจะหาเรื่องหลี่ฮุย นายก็ทำตามสบายได้เลย มันเกี่ยวกับอะไรภรรยาของผมไม่ทราบ?”หลินอิ่งยืนออดมาทันที แล้วมาขวางหน้าของจางฉีโม่ไว้
“หื้อ? ”งูดำเหลือบมองหลินอิ่ง ด้วยสีหน้าที่ติดเล่น “ที่แท้นายก็คือหลินอิ่ง ลูกเขยชื่อดังย่านเมืองชิงหยูนที่ไม่เอาไหนนี่เอง ขอโทษด้วยนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาเถียงฉันอีก แต่ก็กล้าหาญกว่าไอคนกระจอกคนนี้”
“แต่นายอย่าลืมนะ ว่าที่นี่กูเป็นใหญ่ ” งูดำดีดนิ้วไป1ที “พาคุณหนูจางขึ้นไปที่ห้องชั้นบน ฉันจะดื่มกับเธอสักหน่อย”
งูดำเลียๆตรงริมฝีปาก คนสวยระดับจางฉีโม่ หุ่นก็ดี หน้าตาก็สวย นี่มันของอร่อยที่ส่งมาถึงที่เลยนี่นา
พูดจบ ลูกน้องของงูดำก็เริ่มจะลงมือแล้ว
“นายอยากตายรึไง!”
ปั้ง
ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตัวของหลินอิ่งพุ่งเข้าไปหาเขาแล้ว เข่าของเขากระแทกเข้าท้องของงูดำอย่างแรง เขายกมือล็อคคอของงูดำไว้ บีบจนหน้าของเขาเขียนไปหมด แทบจะหายใจไม่ออกเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ