ซุปเปอร์เจ้าสำราญ นิยาย บท 47

บทที่ 47หมิงเป่าซวน

หลินอิ่งท่าทางเย้ยหยัน พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“ผมควรจะพูดยังไง ก็หนีไม่พ้นให้คุณมาคอยชี้นิ้วสั่งการสินะ”

“ท่าทางนี้ของแกหมายความว่ายังไง? นี่มันคือท่าทางที่พูดกับผู้อาวุโสกว่าอย่างนั้นเหรอ?”จางหงอี้พูดขึ้นด้วยความโมโห คิดไม่ถึงว่าเศษสวะแบบหลินอิ่งจะกล้าเหิมเกริมกับเธอ

“ฉีโม่ หลานดูไอ้เศษสวะนี่สิ ยังกล้ามาพูดแบบนี้กับป้าอีก ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยสักนิด”จางหงอี้พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ“ครั้งนี้น้ารองก็อยากจะช่วยสนับสนุนหลานสักหน่อย แต่หลานกลับพาไอ้เศษสวะที่ไม่รู้จักดีชั่วมาด้วย จะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องทำให้หลานอับอายขายขี้หน้าไปทั่วแน่นอน!”

“ฉีโม่ต้องการให้คุณมาสนับสนุนเหรอ?”หลินอิ่งพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ “ที่พูดมาว่าอยากจะช่วยฉีโม่อย่างนู้นอย่างนี้ แล้วก่อนหน้านี้ตอนที่ตระกูลของฉีโม่จะถูกกำจัดออกไป คุณไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”

จางหงอี้โกรธเดือดดาล พูดขึ้นด้วยความโมโห“แกเป็นใคร ถึงกล้าบังอาจมาทำตามอำเภอใจต่อหน้าฉัน?”

เธอไม่เข้าใจจริงๆ ไอ้เศษสวะเกาะผู้หญิงกินแบบหลินอิ่ง กล้าดียังไงมาตั้งคำถามกับเธอ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ!

“ฉันจะบอกแกให้นะ แกหยุดมาเกาะฉีโม่กินได้แล้ว ครั้งนี้ฉันจะเชื่อมสัมพันธ์ให้ฉีโม่ได้เดินไปในทางที่ดี ทางฝั่งนั้นเขาเก่งกว่าแกหลายรอยเท่าอยู่แล้ว!”จางหงอี้พูดเหยียดขึ้นด้วยท่าทางหยิ่งยโส“แกต้องยอมรับฟังแต่โดยดี ทำงานในส่วนผู้ช่วยของแกให้ดีก็แล้วกัน ฉันถึงจะให้แกได้ใช้ชีวิตต่อ ไม่อย่างนั้น ในอนาคตแกอาจจะต้องถูกเฉดหัวออกไป และฉันก็รับประกันได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นงานไหนๆก็แล้วแต่ในเมืองชิงหยูนแห่งนี้ แกจะไม่มีทางหางานใหม่ได้แม้แต่งานเดียว!”

หลินอิ่งส่ายหัว ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไร

จางฉีโม่สีหน้าเริ่มดูไม่ค่อยได้ พูดขึ้น“หลินอิ่ง ช่างมันเถอะ คุณไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับน้ารองแล้วล่ะ”

“เห็นแก่หน้าตาของฉีโม่ ฉันจะไม่ถือสาเอาความแกก็แล้วกัน”จางหงอี้มองหลินอิ่งด้วยสายตาเย็นชาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหลินอิ่งอย่างมาก“แต่ว่าฉันจะเตือนแกไว้นะ ข้างในหมิงเป่าซวนมีแต่บุคคลที่มีหน้ามีตาที่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น พอเข้าไปข้างในถ้าแกยังกล้าทำอะไรตามอำเภอใจแบบนี้อีกล่ะก็ ไม่มีใครช่วยแกได้หรอกนะ”

“ถึงยังไง คนชั้นต่ำแบบแก ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่มีวันได้เหยียบเข้ามาในสถานที่ชั้นสูงแบบนี้หรอก”จางหงอี้พูดขึ้นอย่างยโสโอหัง

จางหงอี้ก็หันมามองฉีโม่ก่อนจะพูดขึ้น“ฉีโม่ หมิงเป่าซวนไม่ธรรมดา คนที่สามารถมาที่นี่ได้มีแต่เหล่าบรรดาคนของตระกูลสูงศักดิ์ทั้งนั้น น้ารองพาหลานเข้าไปในแวดวงนี้แล้ว นั่นเท่ากับว่าเป็นโอกาสดีที่จะสร้างเส้นสายและผูกมิตรไมตรี หลานต้องคว้ามันเอาไว้ให้ดีๆล่ะ”

“น้ารอง หนูทราบแล้วค่ะ”จางฉีโม่พูดขึ้น

จางหงอี้หันไปมองหลินอิ่งด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง สีหน้าดูถูกดูแคลน ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในหมิงเป่าซวน

หลินอิ่งกับจางฉีโม่ก็ค่อยๆเดินขึ้นไปข้างบนเช่นเดียวกัน

ชั้นสามของหมิงเป่าซวน มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเดินไปมา

ห้องโถงภายในชั้นสามเนื้อที่กว้างใหญ่ การตกแต่งสวยงามหรูหรา โคมระย้าสไตล์ตะวันตกสาดส่องแสงไฟสีเหลืองนวล ที่พื้นปูพรมแดงปกคลุมไปทั่ว ตรงทางเดินแขวนภาพวาดสีน้ำมันชื่อดังและราคาแพง

แม้แต่วัสดุบนกำแพงก็ทำมาจากหยกอันล้ำค่าคุณภาพสูง แถมออกแบบให้ลวดลายดูซับซ้อน เต็มไปด้วยกลิ่นอายศิลปะ

ส่วนอีกด้านหนึ่งตรงกันข้ามกับห้องโถง ก็ตกแต่งสไตล์จีนโบราณ โต๊ะน้ำชาไม้แดง แขวนด้วยภาพวาดแม่น้ำภูเขา ให้อามรณ์เหมือนกับบ้านในสมัยโบราณ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้แสดงให้เห็นว่าเจ้าของของหมิงเป่าซวนใช้ใจและทุ่มเทขนาดไหน

พอเข้ามาข้างใน หลินอิ่งกับจางฉีโม่ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความหรูหราปะทะเข้าตรงหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ