ซุปเปอร์เจ้าสำราญ นิยาย บท 66

บทที่ 66 วิลล่าหิมะมังกร

"ไม่ต้องต้อนรับหรอก" หลินอิ่งพูดขึ้น

"ครับ ทำตามที่ประธานหลินต้องการเลยครับ" เจียงฉีพูดขึ้น

วิลล่าหิมะมังกรเป็นวิลล่าที่หรูที่สุดในเมืองชิงหยูน และถูกขนานนามว่าเป็นพื้นที่ใจกลางรวมคนร่ำรวย คนที่อาศัยอยู่ในวิลล่าไม่ใช่ข้าราชการระดับสูวของเมืองชิงหยูน แต่เป็นคนที่ร่ำรวยมาก เพราะคฤหาสน์ทุกหลังมีราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งพันล้านขึ้นไป

ถึงแม้ไม่ทราบประวัติความเป็นมาของหลินอิ่ง แต่เขาเชื่อมั่นว่าหลินอิ่งมีกำลังทรัพย์มหาศาลแน่นอน

สำนักงานใหญ่บริษัทโอเซี่ยนอสังหาริมทรัพย์ที่เขาดูแลทั้งหมด มีหุ้นส่วนหนึ่งอยู่ที่วิลล่าหิมะมังกรพอดี ดังนั้นเขาสามารถช่วยหลินอิ่งจัดการคฤหาสน์ระดับหรูให้กับหลินอิ่งได้

แน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาต้องทุ่มเงินจำนวนไม่น้อยกับนายหน้า

แต่เขาอยากเชื่อมต่อความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินอิ่ง เพราะมีเรื่องใหญ่ที่ต้องการขอความช่วยเหลือ ดังนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรล้วนไม่มีปัญหา!

"ประธานหลินครับ ดึกมากขนาดนี้ ทำไมจู่ๆนึกคิดอยากซื้อคฤหาสน์ล่ะครับ?" เจียงฉีซักถามขึ้น

อันที่จริงเขามีความสงสัยต่อหลินอิ่งมากไม่น้อย ทั้งที่เป็นบุคคลร่ำรวย แต่ปกติกลับไม่ขับรถ สวมเสื้อผ้าตามอำเภอใจ อีกอย่างก็พักอาศัยอยู่พื้นที่ธรรมดาอย่างชุมชนสุ่ยหยวนด้วย

แต่กลับสามารถโยนทิ้งบัตรธนาคารใบหนึ่งที่ข้างในมีเงินยี่สิบกว่าพันล้านได้ แบบนี้หมายความยังไงกัน?

"ไม่มีบ้านพักนะสิ ถูกคนไล่ออกจากบ้าน" หลินอิ่งพูดอย่างเรียบง่ายขึ้น

"เป็นไปไม่ได้ครับ มีใครบ้างกล้ายึดครองบ้านของคุณ สงสัยคงไม่อยากมีชีวิตแล้วแน่เลย?" เจียงฉีเผยสายตาแปลกใจแฝงไม่อยากจะเชื่อขึ้น

เมื่อลองครุ่นคิดสักพัก เจียงฉีก็รู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะประจบสอพลอหลินอิ่ง เลยพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า : "ประธานหลินครับ ชุมชนสุ่ยหยวนอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทพวกเรา ดังนั้นผมสามารถแทรกแซงได้ และสามารถช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคุณได้ด้วยครับ"

สถานที่อื่นไม่กล้าแทรกแซง แต่ชุมชนสุ่ยหยวน เจียงฉียังพอมีความสามารถแทรกแซงอยู่

"ผมถูกพ่อตาแม่ยายไล่ออกมาครับ" หลินอิ่งหัวเราะประชดตัวเองเล็กน้อย

เจียงฉีนิ่งอึ้งทันที และไม่รู้จะพูดยังไงต่อ

เขาครุ่นคิดในใจเงียบๆสักพัก ก่อนหน้านี้เคยไปสอบถามเรื่องของหลินอิ่งมาก่อนแล้ว และทราบมาว่าหลินอิ่งเป็นลูกเขยของตระกูลจาง คนนอกต่างเรียกขานเขาว่าเป็นไอ้ขยะ ซึ่งคนตระกูลหลินต่างพากันรังเกียจเขา

ส่วนพ่อตาและแม่ยายของประธานหลินก็คือคนของตระกูลจางไม่ใช่หรอ?

เจียงฉีแค่นเสียงประชดออกมา หืม คนของตระกูลจางมีพระอยู่เบื้องหน้ากลับไม่บูชา แถมกลับบอกว่าเป็นลูกเขยขยะ และไล่ออกจากบ้านด้วยหรอ?

"อืม ประธานหลิน คุณนี่มีความอดทนมากเลยนะครับ" เจียงฉียิ้มอย่างเก้อเขินขึ้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกโมโหแทนหลินอิ่งด้วย

หลินอิ่งสูบบุหรี่ม้วนหนึ่ง แล้วเหลือบมองเจียงฉีแวบหนึ่ง

"เจียงฉี เบื้องหลังเจ้าของของสำนักงานใหญ่บริษัทโอเซี่ยนอสังหาริมทรัพย์ของพวกคุณคือใครหรอ?" หลินอิ่งซักถามขึ้น

การที่เจียงฉีสามารถช่วยตัวเองเข้าอาศัยที่วิลล่าหิมะมังกรอย่างมั่นใจคืนนี้ได้ บ่งบอกว่า สำนักงานใหญ่บริษัทโอเซี่ยนต้องเป็นคนลงทุนวิลล่าหิมะมังกรแน่

แต่สิ่งที่ควรรู้คือ คฤหาสน์ที่หรูที่สุดในเมืองชิงหยูนแห่งนี้ไม่ใช่ใครสามารถครอบครองได้ แม้แต่คนมีเงินมหาศาลก็ตาม

เจียงฉีเผยสีหน้าสับสนเล็กน้อยขึ้น และพูดขึ้นว่า : "หุ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของสำนักงานใหญ่บริษัทโอเซี่ยนอสังหาริมทรัพย์คือตระกูลซูน แต่คณะกรรมการบริหารไม่เคยปรากฏเลย สนใจแต่กำไร"

"ห่ะ? ตระกูลซูนหรอ?" หลินอิ่งพูดต่อว่า "งั้นคุณรู้จักซูนเหิงไหม?"

"ซูนเหิง...." เจียงฉีเผยสายตาขุ่นเคืองอย่างชัดเจนขึ้น จากนั้นก็รีบกลบเกลื่อน

"รู้จัก เขาเป็นพี่ใหญ่ของผมเอง" เจียงฉีเผยสีหน้าหม่นหมองขึ้น "ประธานหลิน ผมพูดแบบนี้ต่อหน้าคุณเท่านั้น"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ