บทที่ 78 สวรรค์ล่ม
ณ ท่าเรื่อหลงหู่ ริมแม่น้ำชิงหยูน เขตตะวันออกของเมือง
ซึ่งแตกต่างจากท่าเรือเฟยวูที่ถูกทิ้งร้าง แต่เป็นท่าเรือที่อาศัยการวิ่งเรือเป็นธุรกิจ ยังมีโรงงานและโกดังเก็บคลังสินค้าอีกจำนวนมาก
นี่คือกิจการทั้งหมดของตระกูลโจวแห่งเมืองชิงหยูน
คนงานที่ทำงานในโรงงานและท่าเรือไม่อยู่แล้ว และได้เคลียร์สนามดีแล้ว
บนพื้นคอนกรีตว่างเปล่าข้างท่าเรือ มีรถออฟโรดหลายสิบคันจอดอยู่ บนรถมีชายร่างใหญ่กำยำนั่งอยู่ รถของทั้งสองฝ่ายจอดหันหน้าเข้าหากัน
และมีโต๊ะน้ำชาวางอยู่ตรงกลาง คนสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน
เสิ่นซานสวมเสื้อลายดอก ถือสร้อยลูกประคำ ฝั่งตรงข้ามคือชายหนุ่มท่าทางเย็นชา สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาล ดวงตาที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
บนสังเวียน มีชายร่างใหญ่ถือมีดแมเชเทต่อสู้กับชายวัยกลางคนอายุเกือบๆสามสิบปี ทั้งสองต่อสู้ใช้หมัดเตะต่อย ใช้มีดฟันกันไปมา การเคลื่อนไหวต่อสู้โจมตีจุดสำคัญของฝ่ายตรงข้าม มันดูน่าตื่นเต้น
“กริ๊ง!”
ในเวลานี้ มีดแมเชเทในมือของชายร่างใหญ่ถูกหักออกเป็นสองท่อนด้วยมือเปล่าของฝ่ายตรงข้าม และตกลงที่พื้น หลังจากนั้นชายร่างใหญ่ก็ถูกเตะจนกระเด็นออกจากสังเวียน และล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง อาเจียนออกมาเป็นเลือดเต็มปาก จากนั้นก็หมดสติไป
แปะ แปะ!
ชายหนุ่มในแจ็คเก็ตสีน้ำตาลปรบมือและหัวเราะเสียงดัง
“ฝีมือต่อสู้ดีมาก!”
“นายท่านสาม ลูกน้องคุณไม่มีใครสู้ได้เลยเหรอ” โจปินพูดยิ้มเยาะ ใบหน้าเต็มไปด้วยชัยชนะ “ท่านหลิวแค่คนเดียวก็ล้มพวกคุณกี่สิบคนลงได้ แม้แต่พี่น้องของท่านหลิวยังไม่มีโอกาสลงมือเลย!”
สีหน้าของเสิ่นซานดูแย่มาก เขามองไปที่นักมวยใต้ดินและพวกนักสู้ฝีมือดีหลายสิบคนที่นอนอยู่ที่พื้นด้านหลังเขา ที่ยังดิ้นไปมาและส่งเสียงร้องครวญคราง ถูกหักมือหักขาจนพิการไปแล้ว
เสิ่นซานทำตามคำสั่งของหลินอิ่ง นัดโจปินออกมาทำการต่อสู้ ตามกฎเดิมของนักเลงแล้ว ทั้งสองฝ่ายต้องส่งคนไปต่อสู้ที่ท่าเรือ เพื่อตัดสินเขตอิทธิพลของเขตตะวันออกของเมือง แต่ผลที่ได้อย่างไม่คาดคิดว่า นักมวยใต้ดินฝีมือดี หรือพวกนักเลงที่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่อยู่ในมือหลายคน จะไม่มีใครสามารถต่อสู้ชนะได้
นักสู้ทั้งสามคนของโจปิน ได้ยินมาว่าพวกเขาเป็นศิษย์พี่ศิษย์จากสำนักเดียวกัน เขาแค่ส่งศิษย์น้องหลิวที่ฝีมืออ่อนที่สุดออกมาสู้ ก็ชนะคนหลายสิบคนได้สบายๆ แต่คนของเขาเองใช้มีดมาสู้ก็ไม่สามารถเอาชนะคนที่สู้ด้วยมือเปล่าได้
“นายท่านสาม ฉันว่าคนของคุณคงไม่มีใครกล้าออกมาสู้แล้วละ” โจปินเป่าชาร้อนในแก้ว และพูดอย่างภูมิใจว่า “ฉันเคารพคุณในฐานะเจ้าพ่อพวกอั้งยี่รุ่นเก่าของเมืองชิงหยูน เอาอย่างนี้ละกัน เงินนี่ให้เป็นค่าน้ำชาแก่พวกพี่น้องทุกคนละกัน จากนี้ไป ก็อย่ามาที่เขตตะวันออกของเมืองอีก! ”
ขณะพูด โจปินดีดนิ้วเป็นเสียงสัญญาณ ด้านหลังมีผู้คุ้มกันชาวต่างชาติ นำกระเป๋าถือสีดำมาวางลงบนโต๊ะน้ำชา และเปิดกระเป๋าถือออกมา ข้างในเต็มไปด้วยเงินดอลลาร์
“นี่คือเงินหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ เอาเงินแล้วออกไป” โจปินพูดอย่างมีชัย ราวกับว่าจัดการเสิ่นซานได้สำเร็จ
“ฮึ! คุณต้องการที่จะยึดครองเขตตะวันออกของเมืองด้วยเงินเพียงเล็กน้อยนี้หรือ ฝันไปเถอะ!” เสิ่นซานตะคอกอย่างเย็นชา และไม่แม้แต่จะมองไปที่กระเป๋าเงินดอลลาร์บนโต๊ะด้วยซ้ำ “โจปิน ถ้าคุณไม่อยากตาย ก็รีบพาคนออกไปจากเขตตะวันออกของเมืองโดยเร็ว ถ้าช้ากว่านี้อาจไม่มีโอกาสนะ!”
โจปินยิ้มเยาะ และพูดด้วยเสียงเข้ม: “เสิ่นซาน จะในที่ลับที่แจ้งคุณก็ไม่มีทางชนะฉันหรอก แม้แต่บนสังเวียนคนของคุณก็ไม่มีใครสู้ทนได้เลย แค่หอกเหล็กไม่กี่อันของคุณ จะเอามาต่อกรกับฉันงั้นเหรอ”
“อย่าท้าทายกับความอดทนของฉัน! คุณยังไม่พาคนแล้วไสหัวไปจากเขตตะวันออกของเมืองอีกเหรอ รออะไรอยู่”
สีหน้าเสิ่นซานแย่มาก และพูดเสียงต่ำ “คุณต้องการยึดครองเขตตะวันออกของเมือง ต้องถามพี่ใหญ่ของฉันว่าจะยอมหรือไม่ยอม!”
“คุณขู่ฉันเหรอ” โจปินพูดและกระแทกถ้วยน้ำชาจนแตก
ปัง!
ชายวัยกลางคนสองคนในชุดกังฟูสีขาวข้างๆโจปิน ก็รีบวิ่งออกมา ท่าทางรุนแรง ทันใดนั้นก็จับที่ไหล่ทั้งสองข้างของเสิ่นซานกดลงบนโต๊ะน้ำชา จนไม่สามารถขยับได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ