สรุปตอน บทที่ 79 ธงเปื้อนเลือด – จากเรื่อง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดย อาเหา
ตอน บทที่ 79 ธงเปื้อนเลือด ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดยนักเขียน อาเหา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 79 ธงเปื้อนเลือด
“ศิษย์น้อง ตาฉันไม่ได้เบลอใช่ไหม”
ลูกน้องทั้งสามคนที่อยู่ข้างโจปินขยี้ตา และมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อ
พวกเขาไม่เห็นร่มชูชีพหรือเชือกนิรภัยเลย! นี่กำลังเล่นสเปเชียลเอฟเฟกต์ภาพยนตร์เรื่องไหนอยู่ จะลงจอดอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
ทุกคนตื่นเต้น และตกตะลึงมาก!
“ท่านหลิน คุณมาแล้ว!” เสิ่นซานพูดด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหลินอิ่งมาถึง เขาก็รู้สึกมีกำลังฮึกเหิม โดยไม่สนใจลูกน้องที่โจปินพามา
แม้ว่าเคยเห็นฉากซ่อนตัวจากกระสุนอันน่าตกใจของท่านหลิน แต่ในตอนนี้การได้เห็นฉากที่ตกลงมาจากท้องฟ้าของท่านหลิน ก็น่าตกใจเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลินอิ่งในวันนี้ ในแง่ของอารมณ์ ทำให้เสิ่นซานมีความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
ถ้าพูดว่าหลินอิ่งในอดีตสงบนิ่งเหมือนทะเลลึก ตอนนี้ ก็คงเป็นเหมือนกระบี่ที่ไร้เทียมทาน เผยให้เห็นถึงความคม ที่ต้องการทำให้เปื้อนเลือด
“ท่านหลิน เขาคือหลินอิ่ง ลูกพี่คุณรู้จักเขาหรือไม่” โจปินถามอย่างประหลาดใจ ค่อนข้างไม่น่าเชื่อ
โจปินมองไปที่หลินหยิน และเห็นสายตาที่เย็นชาของหลินอิ่ง เขารีบก้มหัวลงทันที สัมผัสได้ถึงความหนาวไปทั่วร่างกาย รู้สึกตื่นตระหนก
แม่งเอ๊ย นี่เหรอลูกเขยไร้ประโยชน์ที่พูดถึงกัน ท่าทางอย่างนี้ ไม่รู้ว่าดูโหดร้ายกว่าเจ้าพ่อค้ายาข้ามชาติที่เขาเคยเจอมาก่อนแค่ไหน!
“คุณคือโจปินเหรอ” หลินอิ่งถามอย่างเย็นชา
“ใช่แล้วจะทำไม อย่ามาทำเสแสร้งกับฉัน หรือคุณกำลังเล่นถ่ายฉากเอฟเฟคภาพยนตร์อยู่ คุณคิดจะทำอะไร” โจปินพูดด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
ถ้าเขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของหลินอิ่งในฐานะลูกเขยไร้ประโยชน์มาก่อน ตอนนี้เขาก็ไม่กล้าที่จะต่อกรกับหลินอิ่งหรอก
ถึงแม้จะได้เห็นกับตาตัวเอง เขาก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกเขยไร้ประโยชน์จะใช้วิธีจัดการที่ดุร้ายเช่นนี้ ตั้งแต่บนเฮลิคอปเตอร์จนลงมา ยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เขาต้องใช้วิธีการบดบังสายตาอยู่แน่ๆ!
หลินอิ่งเหลือบมองชายวัยกลางคนสามคนที่อยู่ข้างๆโจปิน และพูดว่า "พวกคุณสามคนเข้ามาพร้อมกันสิ”
โจปินมองไปที่ลูกน้องทั้งสามที่อยู่ข้างตัวเขา และพูดอย่างเย็นชา: “อาจารย์หลิว ขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกคุณทั้งสามแล้วล่ะ ไปกำจัดมัน!”
ไม่ว่าเจ้าลูกเขยคนนี้จะใช้กลอุบายอะไร นักเลงที่มีฝีมือศิลปะการต่อสู้ประจำชาติทั้งสามที่เขาเชิญมา ก็สามารถจัดการได้ด้วยมือเปล่า มีพลังสามารถระเบิดหิน! ซึ่งเป็นทักษะกังฟูขั้นเทพ! ดูสิว่านักเลงทั้งสามคนจะจัดการฆ่าเด็กหนุ่มอย่างเขาไม่ได้เชียวหรือ
เมื่อคิดเช่นนี้ โจปินก็มีความมั่นใจขึ้นมาหน่อย
อาจารย์หลิวสีหน้าลังเลเล็กน้อย และสบตากับอีกสองคน ทั้งสามคนพยักหน้าให้กันเบา ๆ
“ท่านก้าวร้าวเกินไปจริงๆ พวกเราตระกูลหลิวสามพี่น้องไม่เคยหลอกลวงคน ฉันหลิวจุนจะเจอกับคุณก่อน!” หลิวจุนพูดด้วยความโกรธ และเดินออกมา
ปัง!
ทันทีที่เสียงของหลิวจุนหยุดลง เสียงของลมก็ดังขึ้น และมีเสียงอู้อี้ๆ เหมือนโดนค้อนหนักๆหล่นทับทั้งตัว คนก็กระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตร และล้มลงกับพื้น
หลิวจุนกำหน้าอกแน่นพ่นเลือดออกมา และมองไปที่หลินอิ่งด้วยความตกใจ
หลินอิ่งยิ้มมุมปาก ความสามารถแค่นี้ แม้ไม่ได้ฝึกหนัก ก็ทำให้พลังถูกใช้จนหมดได้
“นี่ นี่ นี่!”
สองพี่น้องหลิวจุนพูดติดอ่าง ยังคิดว่าหลินอิ่งใช้อาวุธลับเพื่อทำร้ายคน แต่หลังจากดูใกล้ๆ พวกเขาก็พบว่าหลินอิ่งใช้แผ่นเหล็กบนโต๊ะน้ำชา เขวี้ยงใส่ศิษย์น้องกระเด็นออกไป จนอาเจียนเป็นเลือด
แค่แผ่นเหล็กก็สามารถใช้แรงได้แบบนี้เลยเหรอ
ฟิ้ว!
สองพี่น้องหลิวจุนไม่ลังเล และเริ่มลงมือ ท่าทางว่องไวและดุร้ายราวกับเสือ โจมตีเข้าทางซ้ายและขวา กำลังมือที่ฝึกมาเป็นสิบปี ก็พอที่จะผ่าให้ก้อนหินแตกได้ ดังนั้นจึงเล็งและฟาดไปที่หัวของหลินอิ่งตรงๆ
หลินอิ่งยื่นอยู่ที่เดิมไม่ขยับ พลิกมือกลับมา แล้วจับข้อมือของทั้งสองคนไว้อย่างแม่นยำ และใช้ข้างขาเตะออกไป
ท่าทางเรียบง่ายสบายๆ
ทั้งสองคนสภาพเหมือนว่าวที่หัก ถูกเตะลอยกระเด็นไปไกลกว่ายี่สิบเมตร และล้มลงกระแทกกับพื้น พวกเขาจับหน้าอกและอาเจียนเป็นเลือดออกมา แทบจะหายใจไม่ออก
“เป็นไปได้ยังไง” โจปินตกใจ และรีบถอยหลังออกไปสองก้าว
“จะเป็นปืนเปล่าๆไปได้ยังไง หรือจะยิงพลาดไป” โจปินตกใจจนหน้าซีด
มือปืนคนนี้เป็นชาวต่างชาติที่กลับมาจากต่างประเทศพร้อมกับเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกเสิ่นซานซื้อตัวไป! ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะผิดพลาดขั้นต่ำอย่างนี้ได้!
ปืน!
หรือว่าจะเป็นหลินอิ่งที่ตอบโต้และหลบหลีก
หัวของโจปินกำลังจะระเบิด เขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
สายตาเยือกเย็นของหลินอิ่งมองไปที่อาคารโรงงานสูงที่อยู่ทางด้านขวาบน กระเป๋าถือถูกเปิดออก มือที่สวมถุงมือสีดำของเขาถือปืนกระบอกสีเงินอยู่
ปัง!ปัง!ปัง!
เสียงปืนยิงติดต่อกันสามนัด หน้าต่างกระจกบนชั้นหกของอาคารโรงงานแตกกระจายในทันที และมีร่างหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากชั้นบนสู่พื้นในแนวดิ่ง ไม่รู้ว่ายังเป็นหรือตาย
โจปินมองไปที่หลินอิ่งที่เดินมาด้วยสายตาเยาะเย้ย เขาตกใจจนหน้าซีด ความหวาดกลัวเข้าครอบงำสมอง และตะโกนออกมาด้วยความกลัวสยอง
“ฮย่าฆ่าฉัน! ฉันเป็นคนของตระกูลโจ ฉันมีเงิน คุณต้องการเท่าไหร่ฉันให้คุณได้หมดเลย! เขตควบคุมของตุงไห่ฉันก็จะให้คุณ!”
โครม!(คำเลียนเสียงของการชน)
ร่างของหลินอิ่งพุ่งไปบีบคอโจปินรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ในโรงงานก็เข้าสู่ความเงียบ จนรู้สึกได้ว่าหัวใจของทุกคนเต้นเร็วขึ้น
เสิ่นซานก็ได้สติกลับมา และพูดด้วยความกลัว “ท่านหลิน ท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นของตระกูลโจ ไม่มีทางที่จะปิดข่าวได้ โจปินตายไป คนตระกูลโจวต้องมาแก้แค้นให้ตายแน่นอน!”
“ฉันแค่ต้องการใช้เลือดของเขา มาย้อมเป็นธงสีแดงให้คุณ” หลินอิ่งพูดอย่างเย็นชา “โจปินยังไม่ตาย แล้วคุณจะอยู่ที่เมืองชิงหยูนต่อได้อย่างไร”
“ช่วยให้คุณขึ้นตำแหน่งที่สูงในตุงไห่ คุณคิดว่าฉันพูดล้อเล่นอยู่ใช่ไหม ในเมื่อตระกูลโจไม่ยอม ฉันก็จะพาตระกูลโจทั้งหมดไปทำพิธีกรรมบวงสรวง”
หลินอิ่งพูดเบาๆ แต่ในน้ำเสียงเรียบๆ กลับซ่อนลมพายุที่โหดร้ายไว้.....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ