สรุปตอน บทที่95 ไปเอาความกล้าขนาดนี้มาจากใคร? – จากเรื่อง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดย อาเหา
ตอน บทที่95 ไปเอาความกล้าขนาดนี้มาจากใคร? ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ซุปเปอร์เจ้าสำราญ โดยนักเขียน อาเหา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่95 ไปเอาความกล้าขนาดนี้มาจากใคร?
เขตเหนือของเมือง ณ อาคารโอเชี่ยน บริษัทโอเชี่ยนอสังหาริมทรัพย์
ภายใต้แสงจันทร์ ภายในห้องทำงานชั้นสามสิบสามที่มืดสลัวไม่มีแม้แต่แสงสว่างเล็ดลอด
พนักงานในอาคารโอเชี่ยนต่างก็เลิกงานหรือได้รับแจ้งเตือนให้ออกจากสถานที่แห่งนี้ไปตั้งแต่เย็น
ที่ลานจอดรถด้านล่าง มีออฟโรดสิบกว่าคันจอดอยู่ ชายชุดดำนับสิบคนยืนเฝ้าประตูทางออกเดียวของอาคาร
ภายในห้องทำงานของผู้บริหารชั้นสามสิบสาม เจียงฉีนั่งอยู่ตำแหน่งของผู้บริหาร จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหงื่อผุดทั่วใบหน้า เขารินน้ำชาไม่หยุด กระดกคำแล้วคำเล่า
ปึงปึงปึง!
ที่ด้านนอก มีคนจำนวนไม่น้อยพยายามพังประตู
“เจียงฉี!โผล่หัวออกมาสิวะ! มึงคิดว่าแค่ล็อกประตูมุดหัวอยู่ในห้องจะช่วยอะไรมึงได้หรอ?”
“ความตายมาเยือนแล้วมึงรู้ตัวหรือเปล่า? มึงมันไอ้้งูเห่าที่ตระกูลซูนเก็บมาเลี้ยง ริอาจแว้งกัดผู้มีพระคุณ มึงว่าคนแบบนี้หาเรื่องฆ่าตัวตายไหมวะ?”
เจียงฉีจุดบุหรี่มวนนึง แล้วสูดเต็มปอด แบกรับความกดดันมหาศาลนี้
บ่ายวันนี้เขาดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้เป็นเวลานาน เขาใช้เงินลงทุนจำนวนมากของหลินอิ่ง จากนั้นเข้าเก็บหุ้นทั้งหมดผ่านผู้ถือหุ้นรายหนึ่งอย่างลับๆ แล้วฮุบอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดไว้
เจียงฉีเตะคนของตระกูลซูนที่ส่งมาเพื่อคอยจับตาดูเขาออกในการประชุมบอร์ด แล้วเข้านั่งตำแหน่งท่านประธานของบริษัทโอเชี่ยนอสังหาริมทรัพย์ กำจัดคนทุกคนของตระกูลซูนออกไป
เขาลอบสูบถุงเงินจากอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลซูน แต่ไม่คิดเลยว่า ตระกูลซูนจะลงมือเร็วเป็นสายฟ้าฟาดเหนือชั้นกว่าตัวเขาเอง การประชุมเพิ่งดำเนินไปได้ครึ่งทาง คนที่ตระกูลซูนส่งมาก็อยู่ระหว่างทางแล้ว ทันทีที่การประชุมจบคนทั้งหมดก็ปิดล้อมตึดนี้ไว้
วิธีการแบบนี้ เจียงฉีเคยเจอมาก่อน ตระกูลซูนคิจะบีบให้เขาตายทั้งเป็น!
และนี่ก็เป็นสิ่งที่เขากลัวมาตลอด ไม่อย่างงั้นระดับหัวธุรกิจอย่างเขา กะอีแค่ฮุบกิจการมือสมัครเล่นของตระกูลซูน เรียกว่าง่ายแค่ปอกกล้วยเข้าปาก แค่ใช้หัวนิดหน่อยก็ทำให้พวกนั้นแพ้ออกจากสนามได้สบาย
ถ้าไม่ใช่เพราะมีตระกูลซูนคอยหนุนหลัง ป่านนี้เชี่ยนอสังหาริมทรัพย์คงตกอยู่ในกำมือเขานานแล้ว
บริษัทอสังหาริมทรัพย์นี่เดิมทีก็เป็นเขาที่สร้างมากับมือ จะเรียกว่าในทุกส่วนของกิจการนี้ล้วนแลกมาด้วยเลือดทุกหยดของเขา!
ปึ้ง!
ตอนนี้เอง บานประตูไม้สักของห้องทำงานก็ปลิวออกไป มันถูกคนจำนวนมากด้านนอกทุบจนพัง
ชายร่างใหญ่สิบกว่าคนแผ่รังศีความดุดัน หนึ่งในนั้นเป็นชายหัวโล้น มีรอยสักที่แขนที่ดูจะเป็นหัวโจก
ชายร่างกำยำกรูกันเข้ามาล้อมรอบ ยืนเรียงกันอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ชายหัวโล้นคนนั้นฉีกยิ้ม แล้วนั่งลงตรงข้ามกับเจียงฉีอย่างอาจหาญ
แววตาของเจียงฉีในเริ่มแรกเผยความตระหนก แต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง
สิ่งที่กังวลมาตลอดในที่สุดก็เกิดขึ้นตรงหน้าจนได้ เขาเองก็ไม่ได้กลัวมากขนาดนั้นแล้ว
“เจียงฉี แกมันก็แค่ไอ้หมาหัวเน่าที่โดนเมียสวมเขา ยังกล้าสูบเงินขากโอเชี่ยนอสังหาริมทรัพย์เข้าไปไม่กลัวตายเลยนะมึง ท้องมึงใหญ่แค่ไหนล่ะ? มีปัญญาสักเท่าไหร่?” ชายหัวโล้นเสยะยิ้มดูแคลน
เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลซูนจะจับตัวแม่ของเขาที่อยู่อำเภอบ้านเกิดเพื่อเล่นงานเขา!
ถึงแม้ที่ผ่านมาตระกูลซูนจะอบใช้วิธีต่ำช้าแบบนี้ แต่แม่เขาก็อายุจะหกสิบแล้ว คนแก่คนนึง แถมยังเป็นญาติคนนึงของตระกูลซูน มันก็ยังลงมือได้?
ชั่วช้าสารเลวเกินคน!
“มึงไม่กลัวตาย แล้วไม่กลัวแม่มึงจะตกใจตายงั้นสิ?” ลู่กวงพูดได้ใจ “เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เซ็นสัญญาโอนหุ้นนี้แล้วบอกกูมา มึงไปเอาความกล้านี้มาจากใคร!”
“อย่างมึงจะมีปัญญาไปเอาเงินทุนมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”
พูดจบ ลู่กวงก็โยนสัญญาหนาๆใส่หน้าเจียงฉี จากนั้นกดโทรออก เสียงปลายสายเป็นเสียงของแม่เจียงฉี
ในใจของเขาเกิดความขัดแข้งขึ้นในทันที หากไม่ทำตามที่ลู่กวงบอก แม่เขาอาจจะไม่รอด แต่ถ้าหากเซ็นสัญญาฉบับนี้ ยกโอเชี่ยนอสังหาริมทรัพย์ให้ซูนเหิง ก็นับว่าเขาได้ทำลายความเชื่อมั่นของหลินอิ่งไปจนหมดสิ้น
ทรัพย์สินจำนวนสิบกว่าล้าน ทั้งหมดนี้เป็นของประธานหลิน! ตอนนั้นประธานหลินไม่ได้ทำแม้แต่สัญญาหรือหลักฐานทางกฎหมาย นั่นก็บ่งบอกถึงความเชื่อใจที่มีต่อเขามันมากขนาดไหน?
หากเซ็นสัญญาฉบับนี้ ต่อไปในอนาคตประธานหลินจะใช้วิธีเอาเงินก้อนนี้คืน มันก็ไม่เหลือหลักฐานอะไรอีก เพราะเขาเป็นคนเซ็นชื่อเอง คงต้องมาเอากับเขาคนเดียวเท่านั้น!
เจียงฉีจ้องลู่กวงอย่างโกรธเกรี้ยว จ้องจนลูกกะตาแทบจะทะลุ
“อย่ามาใช้สายตาโกรธแค้นแบบนี้มองฉันสิ ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งเขาอีกที แกคิดว่าวิธีนี้มันต่ำช้ามากหรอ งั้นแกก็ไปพูดกับคุณชายซูนเหิงสิ ฉันก็แค่ทำตามที่เขาสั่ง” ลู่กวงพูดสบายๆ “แกก็รู้ ฉันเป็นคนทางเขตเหนือนู่น นี่ก็แค่ทำหน้าที่มาเอาเงินคืนแทนตระกูลซูนก็เท่านั้น”
“รีบเซ็นสัญญาซะ แล้วบอกกูมาว่าใครอยู่เบื้องหลังคอยชักใยมึง แค่นี้มึงกับแม่ก็จะได้กลับไปเจอหน้ากันที่อำเภอเจียวได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซุปเปอร์เจ้าสำราญ