หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนามจาก ‘คุณ’ มาเป็น ‘นาย’ เพราะให้ความรู้สึกเป็นกันเองมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ... ”
ไทเกอร์ยิ้ม หัวใจพองโตเมื่อเห็นว่าหล่อนแสดงอาการสนใจในตัวเขาอย่างเห็นได้ชัด
“นายเป็นคนที่ไหน บ้านอยู่ในกรุงเทพฯ หรือเปล่า”
หญิงสาวชวนคุยขณะเช็ดแผลไปพลาง
“ผมมาจากต่างจังหวัดครับ... เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ได้สองวันแล้วครับ”
ไทเกอร์โกหก จู่ๆ แผนการบางอย่างก็ผุดวาบขึ้นมาในหัว
“นายเป็นลูกครึ่งใช่ไหม... หน้าตาเหมือนฝรั่ง”
ปั้นหยาสงสัย ได้โอกาสไทเกอร์รีบปั้นเรื่อง เล่าถึงความเป็นมาของตัวเอง บางเรื่องจริง และบางเรื่องก็แต่งขึ้นเท่าที่จะนึกได้
“ใช่ครับ... ผมเป็นลูกครึ่ง”
“ลูกครึ่งอะไร”
ปั้นหยาอยากรู้
“ไม่รู้ครับ... เพราะว่าผมเองก็เคยสงสัยในความเป็นมาของตัวเองเช่นกัน เดาเอาว่าพ่อหรือไม่ก็แม่ของผมคนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นชาวต่างชาติอย่างแน่นอน”
ไทเกอร์ปั้นน้ำเป็นตัว แต่ก็เพื่อเรียกคะแนนสงสาร
“ผมเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกนำมาทิ้งครับ ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูผมมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยเดาว่าคงเป็นฝ่ายพ่อของผมที่เป็นชาวต่างชาติ แม่ผมน่าจะเป็นคนเอเชีย ผมเลยกลายเป็นลูกครึ่งอย่างที่เห็นนี่แหละครับ”
ปั้นหยานิ่งฟังด้วยความรู้สึกสงสารลูกกำพร้า เรื่องโกหกของไทเกอร์ได้ผล
“นายเรียนจบอะไร”
หญิงสาวอยากรู้
“ผมเรียนจบแค่ชั้นมอหกครับ”
ชายหนุ่มตอบ ก่อนฉุกคิดได้ว่าวุฒิแค่มัธยมปลายนั้นน้อยไป แต่ก็พลั้งปากตอบเร็วไปหน่อย ช่างเถอะ... บอกไปแล้วนี่นา คงต้องปล่อยเลยตามเลย
สิ่งที่ได้ยินทำให้คิ้วของหญิงสาวชิดเข้าหากัน ไม่อยากเชื่อว่าชายหนุ่มที่แลดูสุดสมาร์ทหล่อเหลาเหมือนนักเรียนนอกคนนี้ จะเรียนจบแค่ชั้นมัธยมปลาย
“ตอนนี้ยังไม่มีงานทำใช่ไหม”
ปั้นหยามองหน้าชายหนุ่มอย่างนึกเห็นใจ สมัยนี้ปริญญาตรียังตกงานกันเกลื่อน แต่ไทเกอร์เรียนจบเพียงแค่ชั้นมอหก ยากนักที่จะได้งานดีๆ แต่อันที่จริงหน้าตาแบบนี้ก็ไม่น่าหางานยาก แม้การศึกษาน้อยก็จริง แต่ไทเกอร์มีรูปสมบัติเป็นสิ่งชดเชย
“ครับ... ผมยังไม่มีงานทำครับ”
“ว่าไงยัยหนู... ทำแผลเสร็จหรือยัง”
เสี่ยโชคคิดว่าถ้าทำแผลเสร็จแล้วจะขับรถออกไปส่งไทเกอร์ ถือเป็นการขอบคุณที่เขาเสี่ยงชีวิตแย่งกระเป๋าสตางค์ลูกสาวมาจากมือโจร
“เสร็จแล้วค่ะ เอ่อ... คุณพ่อคะ... ตอนนี้เสือยังไม่มีที่พัก เค้ากำลังหางานทำค่ะ”
ปั้นหยาบอกไปตามที่รู้ หารู้ไม่ว่าไทเกอร์โกหก ปั้นเรื่องเป็นตุเป็นตะเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้หล่อน
“อ้าว... ”
เสี่ยโชคนึกแปลกใจกับสิ่งที่ลูกสาวบอก
“เสือขับรถได้ค่ะ คุณพ่อจ้างเสือไว้เป็นคนขับรถนะคะ”
หญิงสาวรบเร้า เสี่ยโชคมองหน้าลูกสาวก็พอจะรู้ว่าปั้นหยาอยากให้ตนรับพลเมืองดีคนนี้ไว้ทำงาน
“จะดีหรือลูก... ”
เสี่ยโชคมองลูกสาวด้วยสีหน้าครุ่นคิดลังเลใจ ปั้นหยารู้ว่าบิดากำลังคิดอะไร
“อย่าคิดมากเลยค่ะคุณพ่อ... ถ้าไม่ใช่คนดีผู้ชายคนนี้คงไม่เสี่ยงชีวิตแย่งกระเป๋าสตางค์กับโจรหรอกนะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Driver คนขับรถกับคุณหนูใจแตก