เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในช่วงนี้ ก็คือคนอาวุโสทั้งสองคนของตระกูลถังออกจากคุก คนทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ยล้วนแต่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้
“ไม่รู้ว่าจนถึงตอนนั้นแล้วเปิดการแข่งขันสมาคมบูโดแล้ว ผู้อาวุโสทั้งสองท่านของตระกูลถังจะออกหน้าหรือไม่ ถ้าหากว่าจะออกหน้าจริง ๆ แล้วราชวงศ์จะจัดการอย่างไร?”
“ไม่รู้สิ คาดว่าพวกเขาคงจะไม่ออกหน้าหรอกมั้ง ถึงอย่างไรเสียในปีนั้นก็เกิดเรื่องที่ขายหน้าคนขนาดนั้น ถ้าหากพวกเขาออกหน้าละก็ จะให้ตระกูลถังทำอย่างไรดี?”
“แต่ว่าได้ยินมาว่าเจ้าหมอนั่นที่กลับมาตระกูลถังในช่วงนี้ก็คือถังเฉาในตอนนั้น”
“คิดมากเกินไปหรือเปล่า ตอนนั้นพวกเขาทำเรื่องอย่างนั้นออกมา ลูกชายของพวกเขาก็ควรจะถูกคนพวกนั้นของตระกูลถังตามฆ่าจนตายไปตั้งนานแล้วสิถึงจะถูก”
“...”
ถึงแม้ว่าทุกคนไม่ได้พูดเรื่องพวกนี้ให้เห็นกันจะจะ แต่ว่าตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังคิดว่าคนของตระกูลถังฆ่าถังเฉาตายไปแล้วแน่ ๆ เพียงแต่ไม่ยินดีที่จะประกาศข่าวออกมาก็เท่านั้น
คนที่ได้ฟังข่าวนี้แล้ว และยังมีคนที่วิพากษ์วิจารณ์ข่าวนี้ไม่ได้มีเพียงประชาชนทั่วไปตามท้องถนน แต่ยังมีนายพลเฉิน เฉินเหมิ่งในราชวงศ์ด้วย
“ท่านนายพล คุณว่าคนตระกูลถังคนนั้น ตกลงแล้วใช่ถังเฉาไหม?”
เฉินเหมิ่งในตอนนี้กำลังกินผลไม้อยู่ ทันใดนั้นก็ได้ยินองครักษ์คนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าหาคำตอบไม่ได้
เฉินเหมิ่งเพียงแค่มององครักษ์นายนั้นกลับไปอย่างเย็นชา
“ผมถามคุณคำถามหนึ่ง ถ้าหากเสือตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาอยู่ในฝูงหมูฝูงหนึ่ง คุณคิดว่าคุณจะรู้ไหม?”
องครักษ์หยักหน้าอย่างอึดอัดขัดเขิน
ตัวเฉินเหมิ่งเองก็หัวเราะออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าผมมองไม่ออกหรือว่าเจ้าหมอนั่นแท้จริงแล้วเป็นหมูตัวหนึ่งหรือเป็นเสือตัวหนึ่งกันแน่อย่างนั้นหรือ? ศักยภาพของตระกูลถังในตอนนั้น คุณไม่ได้กระจ่างดีหรอกหรือ เจ้าหมอนั่นกลับมาด้วยท่าทีเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดามาก ๆ เรื่องหนึ่งหรอกหรือ?”
หลังจากพูดประโยคนี้แล้ว องครักษ์นายนั้นก็มองนายพลเฉินด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“เป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อนายพลพูดเช่นนี้ เช่นนั้นเพราะอะไรราชวงศ์ไม่ไปตามฆ่าถังเฉาคนนั้น จะต้องรู้ว่าถังเฉาเป็นนักโทษของราชวงศ์ต้าเซี่ยเชียวนะ”
เฉินเหมิ่งวางผลไม้แล้วลุกขึ้นยืน ตบเข้าไปที่ศีรษะขององครักษ์นายนั้น พูดเสียงดังว่า
“ถ้าหากว่าในสวนสัตว์มีเสือแค่ตัวเดียว คุณจะเลือกที่จะฆ่ามันไหม? เขาไม่ได้กินคน ทั้งยังมีความสามารถที่ไม่เลว ราชวงศ์ต้าเซี่ยของพวกเราก็ไม่ใช่มือสังหารพวกนั้นที่พอเจอคนก็จะต้องฆ่าเสียหน่อย”
“ถ้าหากว่าถังเฉาสามารถมีชีวิตอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยอย่างสงบได้ ทั้งยังสามารถช่วยเหลือราชวงศ์ต้าเซี่ยได้ แล้วทำไมราชวงศ์จะต้องฆ่าเขาด้วย?”
“ถ้าหากว่าไม่มีใครในราชวงศ์ต้าเซี่ยใส่ใจเรื่องนี้ละก็ พวกเราก็ไม่มีทางลงมือ พวกเราทำได้เพียงหลับตาข้างหนึ่ง แน่นอนว่าถ้าหากเขากำเริบเสิบสานละก็ สุดท้ายเขาก็จะต้องตายอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยของพวกเราแน่ ๆ”
ฟังพวกนี้จบแล้ว องครักษ์นายนั้นก็มีท่าทีถึงบางอ้อในทันที พยักหน้า
แต่ประโยคนี้ยังพูดไม่ทันจบ เฉินเหมิ่งก็ได้รับคำสั่งหนึ่งมาในทันที
“นายพลเฉิน นี่เป็นคำสั่งที่ส่งมาจากเบื้องบน บอกว่าจะต้องให้ท่านเปิดด้วยตัวเอง”
เป็นนายพลคนหนึ่ง ถึงแม้จะดูเหมือนว่าใจของเฉินเหมิ่งใหญ่มาก แต่ในความจริงกลับไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น
“เด็ก ๆ มาช่วยฉันเปิดมันซิ ดูซิว่าข้างในมีอะไร”
เป็นถึงนายพลนายหนึ่ง ไม่มีทางที่จะเสี่ยงอันตรายอย่างสะเพร่าเช่นนี้
ทำได้เพียงให้ลูกน้องของตนเองจัดการ
“ท่านนายพล คนจากเบื้องบนบอกให้ท่านเปิดด้วยตัวเองนะครับ!”
คนที่ส่งจดหมายคนนั้นเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม