ในอีกด้านหนึ่ง ถังเฉาก็ได้รับข่าวว่าหลินฉ่ายเวยหนีออกจากบ้าน
“เฟิ่งหวง เดี๋ยวสักพักคุณไปคราวน์บาร์หน่อย อย่าให้หลินฉ่ายเวยเกิดเรื่อง” เขาพูดด้วยเสียงนิ่ง
“ค่ะ”
เฟิ่งหวงตอบรับ หลังจากคลุกคลีมาสองครั้ง เธอก็รู้ได้ว่าหลินฉ่ายเวยเปลี่ยนไปมากจริงๆ
คราวน์บาร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างห่างไกลจากเมืองหมิงจู เพราะว่าสถานที่ตั้งห่างไกล เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครมาควบคุม แห่ง ดังนั้นจึงเป็นสถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย หลินฉ่ายเวยไปคนเดียว กลัวว่าจะตกอยู่ในอันตราย
หลังจากส่งถังเฉาไปที่คฤหาสน์จื่อหยวน เฟิ่งหวงก็รีบไปที่คราวน์บาร์
“ผมกลับมาแล้ว"
ถังเฉาผลักประตูเข้าไป แต่ต้องประหลาดใจ เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาของหลินชิงเสว่ มีเพียงหลินจ้าวหยูนที่เล่นเป็นเพื่อนถังเสี่ยวลี้
“คุณพ่อ!"
เมื่อเห็นถังเฉากลับมาแล้ว ถังเสี่ยวลี้รีบ "สลัด" หลินจ้าวหยูนทันที วิ่งเข้าหาอ้อมกอดของถังเฉา
ถังเฉายื่นมืออุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา บีบใบหน้าอวบๆเล็กๆของถังเสี่ยวลี้ ยิ้มแล้วพูดว่า "คุณแม่หล่ะ?"
ถังเสี่ยวลี้พูดเสียงเล็กๆ "ดูท่าทางแม่อารมณ์ไม่ดีเลย ไม่ยอมเล่นเป็นเพื่อนกับเสี่ยวลี้"
เมื่อได้ยินคำพูดของถังเสี่ยวลี้ ถังเฉาตกตะลึงทันทีแล้วหันไปมองหลินจ้าวหยูน
หลินจ้าวหยูนกลอกตาทันที “พี่เขย คุณทำให้พี่สาวของฉันโกรธอีกแล้วเหรอ?”
"เปล่านะ"
ถังเฉารีบส่ายศีรษะ ขยี้ศีรษะอย่างมึนงง
“ แล้วทำไมพี่สาวของฉัน พอเข้ามาก็ขึ้นไปข้างบนและขังตัวเองอยู่ในห้อง แม้แต่มื้อเย็นก็ไม่ลงมากิน”
“ ไม่ได้กินข้าวเย็น?”
เมื่อถังเฉาได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาก็เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว
หลินจ้าวหยูนขยิบตาให้เขา "ไม่ต้องสนใจว่าใครถูกใครผิด รีบไปขอโทษพี่สาวฉันซะ!"
ถังเฉาลูบที่จมูก ท่าทางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอคงไม่ได้คิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันว่าเป็นใครมั้ง?
เขาลงครัวด้วยตัวเอง ทำราเม็งชามหนึ่งยกขึ้นไปชั้นบนแล้วเคาะประตูเบาๆ
ไม่มีใครตอบรับ
เคาะประตูอีกครั้ง
ก็ยังคงไม่มีใครตอบรับ
ถังเฉาจึงผลักประตูเข้าไป เห็นแค่หลินชิงเสว่กำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยใช้นิ้วมือเคาะแป้นพิมพ์
“ดึกมากแล้วยังทำงานอยู่เหรอ?” ถังเฉาวางราเม็งไว้ข้างๆและพูดด้วยรอยยิ้ม
แต่ว่า ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลินชิงเสว่
เธอค่อยๆหันหน้ามาเล็กน้อยและมองถังเฉาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก แม้แต่อารมณ์ที่จะตอบก็ไม่มี แล้วหันกลับไปทำงานต่อ
ทันใดนั้นดวงตาของถังเฉาก็กระตุกอย่างแรง จากสายตาที่หลินชิงเสว่มองเขาเมื่อครู่ เขารู้สึกได้ถึงเหมือนเธอกำลังมองแมลงสาบตัวหนึ่ง หนูตัวหนึ่ง และแมลงตัวเหม็น ----
ถังเฉารู้ว่า หลินชิงเสว่100%ยังคงคิดถึงเรื่องเมื่อกลางวันอยู่ หลังจากกลับบ้านเธอคิดฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว เดาไปเดามา ในใจก็ยิ่งคิดยิ่งโกรธยิ่งโมโหหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ
โดนปฏิเสธแล้วทำตัวไม่ถูก ถังเฉาจึงบากหน้าพูดว่า "ผมไปซักเสื้อผ้า"
ยังคงไม่ตอบสนอง สายตาของหลินชิงเสว่จดจ่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ ราวกับว่าถังเฉาไม่มีตัวตน
ถังเฉาได้แต่เดินออกไปใหม่ และชนกับหลินจ้าวหยูนและถังเสี่ยวลี้ที่แอบฟังอยู่บนบันได
“พวกเธอทำอะไรที่นี่?”
ถังเฉามองไปที่ทั้งคนโตและคนเล็กด้วยความประหลาดใจ ถาม
หลินจ้าวหยูนรีบอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้น หัวเราะยิ้มเย้าะ "นี่ก็เป็นเพราะว่าเป็นห่วงชีวิตการแต่งงานของพี่กับพี่สาวฉันนะ ----"
“อย่าเหมารวม!”
ถังเฉาหน้าบึ้งและตะโกน
หลินจ้าวหยูนก็แลบลิ้นที่น่ารักๆออกมา อุ้มถังเสี่ยวลี้ แล้วไปเล่นต่อ
ถังเฉาเดินเข้าไปในห้องน้ำโยนเสื้อผ้าของเขาลงในเครื่องซักผ้า แล้วนั่งบนฝาชักโครกเพื่อสูบบุหรี่
เขาไม่ติดบุหรี่ เมื่อเจอเรื่องยากๆเขาถึงจะสูบ
ทำยังไงถึงจะทำให้หลินชิงเสว่หายโกรธ นี่คือปัญหา
คิดไปคิดมา ได้แต่พูดความจริงv]h;
ถังเฉาถอนหายใจ เดินขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง และตัดสินใจที่จะคุยกับหลินชิงเสว่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ดังนั้น วินาทีที่เปิดประตู หลินชิงเสว่ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และเคาะแป้นพิมพ์อย่างจริงจัง กระทั่งท่าทางการนั่งของเธอก็ยังไม่เปลี่ยนไป นับประสาอะไรกับชามราเม็งที่เย็นลงแล้ว
ทันใดนั้น ใบหน้าของถังเฉาก็แข็งกระด้างอย่างมาก และเขารู้สึกถึงความรุนแรงที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทตอบโต้
เขากลับมาถึงบ้านเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว ในช่วงเวลานี้หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำ
นี่เป็นครั้งแรก!
ทันใดนั้นถังเฉาก็ตื่นตระหนกทันทีและพูดกับหลินชิงเสว่ “สี่ทุ่มได้เวลาพักผ่อนแล้ว"
“คุณแม่ฉันง่วงแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม