“คนบ้าดนตรี?”
ได้ยินข่าวนี้ถังเฉาก็ตกตะลึงไปพักหนึ่ง
เขาไม่ได้สั่งให้คนบ้าดนตรีมาเสียหน่อย
ตั้งแต่เขาปลดประจำการมาห้าปีก็ล้มเลิกชีชือไปแล้ว
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะสมัครใจจะติดตามตน แต่ถ้าหากไม่ถึงสถานการณ์ที่จำใจจะต้องทำละก็ ถังเฉาไม่มีทางไปหาพวกเขาแน่
“ใช่ค่ะ”
เฟิ่งหวงพูดอยู่ในโทรศัพท์
“เดิมทีเธอมีคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิคอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง แต่ว่าเปลี่ยนการตัดสินใจชั่วคราว เปลี่ยนสถานที่เป็นเมืองหมิงจู ตอนนี้มาถึงเมืองหมิงจูแล้วค่ะ”
ถังเฉาเงียบอยู่พักหนึ่ง เอ่ยว่า “พรุ่งนี้จัดเวลาให้ผมได้ไปเจอเธอหน่อย”
วางสายไปแล้ว เขาใจลอยมองไปยังแสงรัตติกาลที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนแรก เหตุใดเขาถึงเดาความหมายของคนบ้าดนตรีไม่ออกกันนะ?
กลับมาถึงบ้านแล้ว ถังเฉากำลังจะส่งเสียง
ทันใดนั้นกลิ่นหอม ๆ ก็พุ่งเข้ามาจู่โจมทันที
จากนั้นร่างหอมนุ่มอบอุ่นก็โผเข้ามาในอ้อมอกของตน สองแขนโอบอยู่บนร่างของเขาแน่น
ถังเฉาประหลาดใจ ตกตะลึงอยู่หลายวินาที จากนั้นบนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มที่อ่อนโยน รุกเข้าไปกอดหลินชิงเสว่ด้วยตัวเอง
“ทำไมยังไม่นอนครับ?”
เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“กำลังรอคุณอยู่ค่ะ”
ดวงตาของหลินชิงเสว่แดงนิด ๆ “เสี่ยวลี้หลับไปแล้วค่ะ ฉันวางใจไม่ได้ ก็เลยรอคุณกลับมาโดยตลอด”
นิ่งอยู่พักหนึ่ง หลินชิงเสว่ก็เอ่ยถามขึ้นอีกว่า “ในบ้านเป็นอย่างไรบ้างคะ?”
แน่นอนว่าถังเฉารู้ว่าบ้านนั้นหมายถึงอะไร
“โจวเหม่ยหยูนจิตใจชั่วร้ายไม่เปลี่ยน เรื่องแดงออกมาแล้วยังคิดจะร่วมมือกับตระกูลโจวมาลงมือกับคุณอีก ตอนนี้ถูกจับกุมไปยุติคดีแล้วครับ”
ได้ยินอย่างนั้นหลินชิงเสว่ก็ตกอยู่ในความเงียบ
ครอบครัวดี ๆ ครอบครัวหนึ่งก็ยังต้องเดินมาถึงจุดสิ้นสุด
นี่สำหรับหลินชิงเสว่ที่แต่งงานสร้างครอบครัวมีลูกแล้ว ถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งเรื่องหนึ่ง
“ทำไมเธอต้องทำแบบนี้ด้วย?”
หลินชิงเสว่เอ่ยถามขึ้นทันทีว่า “ฉันเป็นแค่ลูกสาวคนโตของคุณพ่อ ทำไมเธอต้องมองฉันเป็นศัตรูด้วย?”
ถังเฉารู้ว่าในใจของหลินชิงเสว่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพียงแต่... การทะเลาะเบาะแว้งเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องในนั้นมีอยู่เยอะเกินไป ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรก็ยังถูกคนอื่นมองว่าเป็นตัวถ่วงความเจริญได้
“ไม่เป็นไรแล้วครับ ต่อไปจะไม่มีใครมาคุกคามคุณได้แล้วนะครับ”
ถังเฉาส่งสายตาอ่อนโยนไปให้หลินชิงเสว่ “โจวเหม่ยหยูนถูกจับไปแล้ว ทั้งตระกูลโจวล่มสลาย ถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งสำหรับพวกเรานะครับ”
หลินชิงเสว่ ‘อืม’ ขึ้นมาหนึ่งคำ “ขอเพียงแค่คนไม่เป็นไร ทั้งหมดก็ไม่เป็นไร”
“นั่นไม่ได้!”
ถังเฉาส่ายศีรษะ เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “วิกฤตการณ์ก็เท่ากับวิกฤตการณ์ ไม่แน่ว่าผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปแล้ว ลี่จิงกรุ๊ปจะเข้มแข็งเกรียงไกรขึ้น
ถังเฉาไม่ได้เอาเรื่องที่คนบ้าดนตรีมาที่นี่บอกกับหลินชิงเสว่
เดิมที เขาตั้งใจว่าจะใช้วิธีการของตัวเองมาแก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้คิดถึงคนบ้าดนตรีเลย เขาก็เลยเปลี่ยนแผน
วันต่อมา ชั้นบนสุดของอาคารกั๋วจี้
ถังเฉาพาหลินชิงเสว่มาที่ห้องทำงานของเขา
“คุณจะพาฉันมาพบใครคะ?”
หลินชิงเสว่มีสีหน้าไม่แน่ใจ
นอกจากหลินชิงเสว่แล้ว เขายังแจ้งกับถังชิงเหอจากบริษัทการบันเทิงเจาเหอ
หญิงสาวทั้งสองต่างมีสีหน้างุนงง
ถังเฉาดื่มชาไปอึกหนึ่ง “รอมาแล้วก็จะรู้เอง”
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ถังเฉากดรับ พยักหน้า “ให้เธอเข้ามาเถอะ”
หลังจากนั้นประตูห้องทำงานก็เปิดออก ผู้หญิงผมยาวคลุมไหล่สวมชุดคลุมยาวสีขาวมีเสน่ห์คนหนึ่งเดินเข้ามา
แวบแรกที่เห็นเธอ หลินชิงเสว่กับถังชิงเหอก็ล้วนตกตะลึงงัน
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากเท่าไหร่ แต่เป็นเสน่ห์บนตัวเธอ แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันอย่างพวกเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะตะลึง
ดวงตาดุจดวงดาว ใบหน้าดุจดวงจันทร์สุกสกาว
เพียงยิ้มเซียนยังตะลึง เลือนรางดั่งเทพ
คนยังไม่ทันเข้าใกล้ กลิ่นหอมเย็นก็พุ่งเข้ามาปะทะหน้า
ผ้าไหมโปร่งบางหนึ่งชิ้นปกคลุมใบหน้า โผล่ออกมาเพียงดวงตานิ่งสงบหนึ่งคู่
เด็กผู้หญิงที่สาวชุดคลุมสีขาวเช่นเดียวกันสองคนตามติดอยู่ด้านหลังของเธอ เหมือนดังภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมร่ายรำมาด้านหน้ากับบงกชกุมารที่ติดตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม