เมื่อเห็นฉากนี้ การแสดงออกของหวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม
“เสแสร้งทำเป็นได้เหมือนจริงๆ นี่คุณกำลังส่งข้อความให้ผู้รับผิดชอบสมาคมของเรา หรือส่งข้อความให้คุณซางชือ? ฮ่าฮ่าฮ่า……”
ถังเฉามองไปที่หวังเต๋อหลงด้วยความประหลาดใจในทันที: “คุณรู้ได้ย้งไง?”
ไม่คิดเลยว่าเขาจะเดาถูก
เขาไม่รู้จักผู้รับผิดชอบของสมาคมการค้าเจียงผิง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงส่งข้อความถึงซางชือโดยตรง
เดิมทีหวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนชะงัก แต่จากนั้นก็หัวเราะอย่างมีความสุขมากกว่าเดิม
“จึงกล้าพูดว่าเขาส่งข้อความให้ซางชือ ขี้โม้ ไม่เคยเห็นคนโม้ขนาดนี้มากก่อน!”
“ผมขอถอนคำพูดที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ คุณนี่มันสู้หูอีซานก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยจริงๆ อย่างน้อยหูอีซานไม่ขี้โม้!”
แววตาของหูจิ้งจู๋และหูจิ้งซูที่มองไปยังถังเฉาก็เปลี่ยนไปแล้ว
ดูเหมือนว่า เขานอกจากจะมีทักษะฝีมือเล็กน้อย อย่างอื่นไม่มีอะไรเลย
“คุณมันเป็นผู้ชายสะเพร่า”
หูจิ้งซูนิยามถังเฉาไว้ในใจทันที และในขณะเดียวกันแววตาเธอเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ปราณี
พี่ชิงเสว่ของเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าจะแต่งงานกับผู้ชายเช่นนี้
ช่างเศร้าใจจริงๆ
ถังเฉายื่นโทรศัพท์ให้พวกเขาดู: “มันเป็นซางชือจริงๆ”
หวังเต๋อหลงกับสวีโยว่เหนียนเหลือบตาไปมอง เห็นเพียงแค่ผู้ติดต่อบนหน้าจอโทรศัพท์ ที่เขียนคำว่า ‘ซางชือ’ ตัวใหญ่ๆไว้สองคำ
ทันใดนั้น ใบหน้าของพวกเขายิ่งดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น
“คุณคิดว่าคุณเมมชื่อของคุณซางชือไว้ในเบอร์ของคนอื่น ก็ถือว่ากำลังแชทกับซางชือแล้วเหรอ?”
“ไม่ต้องให้มันมาก มีสองทางเลือกให้คุณเลือก ทางเลือกที่หนึ่งคือเข้าร่วมสมาคมการค้าเจียงผิงของผม และหูอีซานออก อีกหนึ่งทางเลือกก็คือจวี้เฟิงกรุ๊ปของคุณอย่าคิดที่จะได้เปิดทำกิจการต่อในเมืองเจียงเฉิง!”
หวังเต๋อหลงชี้ไปที่จมูกของถังเฉาแล้วพูดอย่างโกรธเคือง
หูจิ้งซูก็เดินขึ้นไปหนึ่งก้าว มองไปที่ถังเฉาและพูดว่า: “คุณถัง อย่างไรก็ตามคุณควรเชิญพวกเราเหล่าคณะกรรมการกลับไป เพื่อที่สมาคมการค้าจะได้ไม่โกรธเคืองมากเกินไป”
“อีกอย่าง เห็นแก่พี่หลินชิงเสว่กับพี่ซ่งหรูอี้ ฉันจะช่วยคุณตรวจสอบให้ชัดเจนว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือใคร”
เธอมองไปยังถังเฉาที่ใบหน้านิ่งเฉย ราวกับว่าเธอแน่ใจแล้วว่าถังเฉาคงจะทำเช่นนี้
ถังเฉาส่ายหัว: “คำพูดที่พูดออกไป ก็เหมือนกับน้ำที่ถูกสาดออกไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาคืนกลับมา”
“ไว้หน้าคุณแล้วนะแต่คุณไม่สนใจ……”
บนใบหน้าของหวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม พวกเขากำลังจะโทรไป แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ประตู
พวกเขามองไปทางที่มีเสียงดังขึ้น และเพียงแค่เห็นหลัวปู้นำพาคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา
แน่นอนว่า หูอีซานก็อยู่ในนั้น
สีหน้าของหวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนเปลี่ยนไปอย่างมาก
“สมาคมการค้าหงยิง?”
บนใบหน้าของหูจิ้งซูและหูจิ้งจู๋เต็มไปด้วยความประหลาดใจ คนของสมาคมการค้าหงยิงมาได้อย่างไร?
ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อมองไปพวกหลัวปู้ ในใจหูจิ้งซูมักรู้สึกมีลางสังหรณ์เป็นลางไม่ดีบางอย่าง
“คุณถัง”
พวกเขาทักทายถังเฉาด้วยความเคารพ
“หัวหน้าหลัว พวกคุณสมาคมการค้าหงยิงมาทำอะไร?”
หลังจากคืนสติกลับมาจากความประหลาดใจ หวังเต๋อหลงมองไปที่หลัวปู้ด้วยท่าทางมืดมนเล็กน้อย และถาม
เขารู้สึกกดดันอย่างมาก
เขาเป็นเพียงแค่วีไอพีชั้นกลางของสมาคมการค้าเจียงผิง แต่หลัวปู้เป็นผู้รับผิดชอบของสมาคมการค้าหงยิงที่สมน้ำสมเนื้อ
ตำแหน่งของทั้งสองคนแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
หลัวปู้ไม่ได้ตอบคำถามพวกเขา แต่มองไปที่พวกเขาและถามว่า: “พวกคุณคือหวังเต๋อหลงกับสวีโยว่เหนียนใช่หรือเปล่า?”
“ใช่ พวกเราเอง”
หวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนรู้สึกกดดันในทันที
หลัวปู้ยิ้มอย่างเย็นชา: “ดูเหมือนว่าหาคนถูกคนแล้ว”
วินาทีต่อมา เสียงของเขาจู่ๆก็ดังขึ้นในระดับแปด: “คุณซางชือมีคำสั่ง โดยมีคำสั่งว่าพวกคุณสองคนถูกไล่ออกจากสมาคมการค้าแล้ว”
บูม!
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้พูดออกมา ดวงตาของหวังเต๋อหลงและสวีโยว่เหนียนก็เบิกกว้าง อึ้งทึ่งอยู่คาที่
ใบหน้าของหูจิ้งจู๋และจูจิ้งซูเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ และมองไปที่ถังเฉาโดยไม่รู้ตัว
หรือว่า ข้อความที่เขาส่งไปในเมื่อกี้ จะส่งให้ซางชือหนึ่งในบรรดาผู้บ้าเจ็ดจริงๆเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม