เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 558

สรุปบท บทที่ 558 เด็กกำพร้าตระกูลเย่: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

บทที่ 558 เด็กกำพร้าตระกูลเย่ – ตอนที่ต้องอ่านของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอนนี้ของ เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 558 เด็กกำพร้าตระกูลเย่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เสียงของเย่หรูอี้สั่น ดวงตาถึงขั้นมีหยาดน้ำตา

ตั้งแต่ต้นจนจบ สายตาก็ตกอยู่บนสายรัดข้อมือเรียบง่ายของเย่เทียนหลงมาโดยตลอด

“หืม?”

ความผิดปกติของเย่หรูอี้ดึงดูดความสนใจของถังเฉากับจ้าวเย็นหรานไป

ทั้งสองคนมองกันครั้งหนึ่ง มองความไม่แน่ใจและความประหลาดใจมาจากในดวงตานั้นออก

ถังเฉารู้นิสัยของเย่หรูอี้ น้อยมากที่อารมณ์ของเธอจะขึ้น ๆ ลง ๆ

ไม่เปลี่ยนสีหน้าต่อหน้าของญาติสนิทมิตรสหาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงต่อหน้าคนแปลกหน้าเลย

ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิด เย่หรูอี้มองเห็นสิ่งที่ตนเองใส่ใจแล้ว

“สายรัดข้อมือ?”

เย่เทียนหลงเองก็ตะลึงไป ก้มศีรษะมองดูพักหนึ่ง ตัวเองก็ยิ้มขึ้น

“นี่น่ะ นี่เป็นสิ่งที่แม่ที่จากโลกนี้ไปแล้วของผมให้ผมมาน่ะ ถือว่าเป็นมรดกของผมเลย ผมสวมติดมือมาโดยตลอด ดูแลรักษาเป็นอย่างดี”

พอพูดถึงมารดาของตน บนใบหน้าของเย่เทียนหลงก็ปรากฎความอ่อนโยนและรอยยิ้มออกมา

ตอนที่เย่เทียนหลงพูดถึง ‘แม่ที่จากโลกนี้ไปแล้ว’ ร่างกายของเย่หรูอี้ก็สั่นไหวน้อย ๆ

หลังจากนั้น น้ำตาเม็ดโตก็ร่วงพราวลงมา ตัวเองก็นั่งลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง

“คุณซ่ง.... คุณเย่ คุณเป็นอะไรครับ?”

การตอบสนองของเย่หรูอี้ผิดปกติ และก็ดึงดูดความสนใจของเย่เทียนหลงไป บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความไม่แน่ใจ

ความทรงจำที่เกี่ยวกับเย่หรูอี้ เย่เทียนหลงยังคงหยุดอยู่ที่สาวงามของตระกูลซ่งแห่งเมืองหมิงจู จนกระทั่งตอนนี้ ทั้งสองคนเพิ่งจะได้พบกันอย่างเป็นทางการ

ถังเฉากับจ้าวเย็นหรานมองอย่างงง ๆ เนื้อหาเรื่องที่จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมแดนเหนือที่เดิมทีนัดมาคุยนั้น ก็ไม่ได้พูดออกมาสักคำ

เพียงเพราะว่าสายรัดข้อมือเส้นนี้บนข้อมือของเย่เทียนหลง

“เย่เทียนหลง ก็แซ่เย่...”

พอคิดถึงความสัมพันธ์ขั้นนี้ รูม่านตาของถังเฉากับจ้าวเย็นหรานก็หดลงในเวลาเดียวกันอย่างรวดเร็วทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

ถ้าหากการคาดคะเนนี้ถูกต้อง นั่นก็เป็นไปได้เป็นอย่างมากว่าจะสามารถเปิดเผยความจริงของเย่หรูอี้ได้

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มองดูเย่หรูอี้ที่ร้องไห้อย่างไร้เสียงแล้ว ในใจของเย่เทียนหลงก็เจ็บโดยไม่มีเหตุผล

ปฏิกิริยาโต้ตอบที่พูดได้ไม่ชัดเจน ส่งเข้ามาภายในใจของเขา

ตุบ ๆ...

ตุบ ๆ ๆ!

หัวใจของเขาเต้นรัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน

รอจนอารมณ์ของเย่หรูอี้มั่นคงขึ้นบ้างแล้ว เย่หรูอี้ก็ล้วงเอาสายรัดข้อมือเส้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋า

“นี่คือของฉันค่ะ”

เย่หรูอี้ส่งสายรัดข้อมือไปในมือของเย่เทียนหลง

มองดูสายรัดข้อมือที่สีซีดแล้ว ร่างกายของเย่เทียนหลงก็สั่นสะท้านทันที

“นี่ สายรัดข้อมือนี้คือ……”

รูม่านตาของเย่เทียนหลงขยายกว้าง มองดูสายรัดข้อมือสองสีนี้ ริมฝีปากก็ขมุบขมิบ แม้แต่ประโยคที่สมบูรณ์ประโยคหนึ่งกลับพูดได้ไม่จบ

สีของสายรัดข้อมือนั้นซีดจางไปแล้ว แต่ยังสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน

นึกไม่ถึงว่านี่จะเป็นชุดเดียวกันกับของที่เย่เทียนหลงสวมใส่ไว้ที่ข้อมือ

ชัดเจนว่ามาจากฝีมือของคนคนเดียวกัน!

“นี่เป็นสิ่งที่แม่ของฉันทิ้งไว้ให้ฉันในวันที่แยกจากฉันไป เธอสั่งให้ฉันรักษาไว้ให้ดี บอกกับฉันว่าถ้าหากภายภาคหน้ามีจริง ๆ ละก็ ให้ใช้สายรัดข้อมือนี้ตามหาน้องชายที่หายไป”

เย่หรูอี้เล่าเรื่องอย่างสงบ

ถึงแม้ว่าสภาพอารมณ์จะกลับคืนสู่ความสงบแล้ว แต่บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาอยู่

ถึงเฉามองดูอยู่ข้าง ๆ นี่เป็นเย่หรูอี้ที่มีอารมณ์หวั่นไหวที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา

คำพูดของเธอไม่หนักแน่น แต่พออยู่ในหูของเย่เทียนหลง กลับเทียบได้กับฟ้าร้อง

ตอนที่กำลังมองสายรัดข้อมือชนิดเดียวกันนั้น เขาก็รู้แล้วว่าเย่หรูอี้ก็คือพี่สาวแท้ ๆ ของเขา

แต่พอหลังจากที่เย่หรูอี้พูดออกมาเองกับปาก เย่เทียนหลงก็ยังคงหวั่นไหวอย่างถึงที่สุด

ลูกผู้ชายอกสามศอกน้ำตาไหลรินอย่างคาดไม่ถึง

“พี่ครับ!”

เย่เทียนหลงคุกเข่าลงตรงหน้าของเย่หรูอี้ดังตุบ

ถึงแม้ว่าเย่หรูอี้จะไม่ได้น้ำตาไหลเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว แต่ดวงตาทั้งคู่ของเธอก็ชุ่มชื้น

“ที่แท้คนที่ฉันจะตามหาก็คือนาย เย่เทียนหลง แซ่เย่ ที่จริงฉันควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว...”

เย่หรูอี้พูดพึมพำกับตัวเอง รีบร้อนพยุงเย่เทียนหลงขึ้นมาทันที

และจ้าวเย็นหรานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ช็อกตาตั้งไปแล้ว

เหมือนกับที่พวกเขาคิด เย่หรูอี้เป็นพี่สาวของเย่เทียนหลง

“คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าพวกเขาจะเป็นครอบครัวเดียวกัน...”

พอตั้งสติได้ ถังเฉาเองก็ทอดถอนใจเป็นอย่างมาก

จ้าวเย็นหรานเองก็ตื้นตันใจจนดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ดีใจแทนพี่ชายตัวเองจากใจ

“เดิมที่ฉันคิดว่าพี่เทียนหลงจะเป็นเพียงแค่ลูกนอกสมรสที่เสี่ยที่ไหนมาไข่ทิ้งไว้ นึกไม่ถึงเลยว่าพี่สาวของเขาจะเป็นซ่งหรูอี้...”

พอตั้งสติได้ จ้าวเย็นหรานก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาภายหลังในทันที

จ้าวเหล่าลิ่วพ่อของเธอ เมื่อตอนนั้นคนที่นอนอยู่หรือจะเป็นแม่ของซ่งหรูอี้!

ถ้าหากว่าเรื่องนี้ถูกซ่งอี้หรูรู้เข้าเร็วกว่านี้ละก็ ตระกูลจ้าวจะยังสามารถอยู่มาได้ถึงตอนนี้ไหม?

คงจะถูกซ่งหรูอี้ฆ่าล้างโคตรไปนานแล้ว!

แม้ว่าจะเป็นถังเฉา ก็ยังต้องใช้เวลานานมากถึงจะเคลียร์ความสัมพันธ์ภายในได้อย่างชัดเจน

เย่หรูอี้เป็นคนในตระกูลเย่ และเย่เทียนหลงเป็นน้องชายของเย่หรูอี้

ทั้งสองคนเป็นพี่น้องต่างพ่อกัน

ในนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะยึดโยงไปถึงอิทธิพลของตระกูลเย่ ตระกูลจ้าว ตระกูลซ่ง และตระกูลเย่สี่ตระกูลใหญ่ ซับซ้อนยิ่งกว่าเขาวงกตจริง ๆ

แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ถังเฉาไม่แน่ใจนั่นก็คือ ในเมื่อพวกเขาเป็นพี่สาวน้องชายกัน แล้วทำไมจะต้องแยกกันด้วย?

และอีกอย่างตอนนั้นเย่หรูอี้เปลี่ยนชื่อเป็นซ่งหรูอี้ ทำไมไม่เป็น ‘จ้าวอี้หรู’ ล่ะ?

เย่หรูอี้รำลึกอดีตแล้วเอ่ยขึ้น “แต่เรื่องแบบเดียวกันก็เกิดขึ้นอีก”

“แม่ทำงานข้างนอกเยอะมาก หนึ่งในนั้นก็คือเป็นสาวเชียร์เบียร์ในร้านคาราโอเกะร้านหนึ่ง คืนนั้นเธอไม่ได้กลับมา ฉันก็รู้แล้วว่าเกิดเรื่องขึ้น รอจนถึงตอนที่ฉันเร่งไปถึง แม่ของฉันก็นอนใกล้จะหมดลมหายใจอยู่บนพื้นแล้ว คนที่ข่มขืนได้จากไปแล้ว”

“หลังจากนั้นมา ท้องของแม่ฉันก็โตขึ้นทุกวัน ๆ หลังจากนั้นก็มีนาย”

เย่หรูอี้มองไปยังเย่เทียนหลง

ร่างกายของเย่เทียนหลงสั่นเบา ๆ คำรามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “จ้าวเหล่าลิ่ว แกตายไปก็ไม่อาจลบล้างความผิดทั้งหมดได้!”

ถังเฉาเงียบ ไม่มีความสงสัยเลยสักนิด คนที่ข่มขืนคนนั้นก็คือจ้าวเหล่าลิ่ว

จ้าวเย็นหรานยิ่งไม่มีความกล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา

บ้านของพวกเธอติดค้างเย่หรูอี้นี่!

“ต่อมาเทียนหลง นายเกิดออกมาแล้ว แต่ครอบครัวของเราสิ้นไร้ไม้ตอก เลี้ยงเด็กสองคนไม่ได้โดยสิ้นเชิง”

“วันนี้แม่พูดว่า จะต้องสละลูกไปคนหนึ่ง ฉันก็คือคนที่ถูกละทิ้งคนนั้น”

เย่หรูอี้พูดเรื่องนี้ออกมาอย่างสงบ

สีหน้าของถังเฉาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ในตอนนั้นเย่หรูอี้เพียงแค่ห้าขวบเองมั้ง?

ดวงตาทั้งคู่ของเย่เทียนหลงแดงก่ำ เอ่ยเสียงแหบแห้งว่า “พี่ครับ ผมผิดต่อพี่...”

ตอนนั้นแนวคิดเห็นผู้ชายดีกว่าผู้หญิงนั้นรุนแรงมาก บางทีเย่ซูอาจจะให้ความเสมอภาคเหมือนกันทุกคน

แต่ปัจจัยครอบครัวไม่มีหนทางที่จะไม่ยินยอม ท้ายที่สุดแล้วก็ละทิ้งเย่หรูอี้ที่เป็นลูกสาว

“ญาติห่าง ๆ คนหนึ่งของแม่ฉันแต่งเข้าไปในตระกูลซ่ง แล้วแม่ของฉันก็ยึดเอาความสัมพันธ์อันน้อยนิด ภายใต้การขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าของแม่ ตระกูลซ่งจึงยินยอมรับฉันไปเลี้ยง”

เย่หรูอี้พูดเบา ๆ ว่า “ตอนที่แยกจากกัน แม่เอาสายรัดข้อมือนี้ให้ฉัน บอกฉันว่าต้องรักษามันไว้ให้ดี ต่อไปโตขึ้นแล้ว ให้อาศัยสิ่งนี้ตามหาน้องชาย ฉันตามหานายมาตลอด ดีที่ตอนนี้หาเจอแล้ว น่าเสียดายที่ฉากนี้แม่มองไม่เห็นแล้ว”

ต่อไปก็เป็นยุคของซ่งหรูอี้แล้ว

เรื่องราวในชีวิตของเย่หรูอี้ได้เปิดเผยออกมาทั้งหมดแล้ว แต่ถังเฉาที่เข้าใจความจริงทั้งหมดแล้วก็เกิดความเห็นอกเห็นใจต่อเย่หรูอี้มากขึ้น

ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วก็โหดเหี้ยมอำมหิตเลย เย่หรูอี้ผ่านอะไรมามากกว่าคนอื่น ดังนั้นถึงได้รู้กฎของการมีชีวิตที่ผู้ชนะได้เป็นราชาผู้แพ้เป็นผู้ร้ายนั้นดี

เย่เทียนหลงที่เป็นผู้ชายแมน ๆ คนหนึ่งได้ร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว

“พี่ครับ ตอนนี้พวกเราจำกันได้แล้ว พี่เป็นพี่สาวของผม ต่อไปใครจะมารังแกพี่ไม่ได้!”

เย่เทียนหลงกัดฟันพูด

เย่อี้หรูยกมุมปากขึ้น ยิ้มออกมา “งั้นต่อไปถ้าหากวันหนึ่ง ฉันกับคุณถังของนายไม่ใช่เขาตายก็เป็นฉันตาย นายจะช่วยใคร?”

“นี่...”

เย่เทียนหลงตกอยู่ในอันตรายทันที

“ล้อเล่นน่า”

เย่หรูอี้พูดทีเล่นทีจริง

ถังเฉากลับมองเย่หรูอี้หนึ่งครั้งด้วยสายตาเข้มงวด “ดังนั้น สาเหตุที่คุณกลับมาที่ตระกูลเย่ก็เพราะต้องการจะคุมอำนาจ จากนั้นก็แก้แค้นเย่จงซือนั่น ถูกไหม?”

“ใช่! ฉันจะล้างแค้น! แม่ฉันจะตายฟรีไม่ได้!”

เย่อี้หรูเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ในดวงตาทั้งคู่มีรังสีสังหารอยู่ทั่ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม