" บ้าบู๊มาแล้ว! "
เสียงที่ดังกังวานนั้น ทำเอาผู้คนโดยรอบตกใจกลัว เพียงชั่วพริบตาก็ดึงความสนใจของผู้คนทั่วบริเวณนั้นทั้งหมด
ขนาดนี้ทั้งสนามเงียบกริบ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งถังเฉา หรือจะเป็นคนของมู่ตงเฟิงและตระกูลฉิน ก็หันมาเช่นกัน มองไปยังประตูทางเข้าของโรงยิม
ก็เห็นเพียงแค่บ้าบู๊กับอู่ตงหยางและเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนที่มาด้วยกัน จังหวะก้าวเดินเข้ามาช่างดูน่าเกรงขามยิ่งนัก
ร่างกายที่สูงใหญ่ เปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา เห็นทีจะมีเพียงบ้าบู๊สองคำนี้เท่านั้น ที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความเกรงกลัว
หากอยากจะหาใครสักคนที่จะสามารถต่อกรกับมู่ตงเฟิงได้ แน่นอนว่าคนคนนั้นต้องเป็นบ้าบู๊เพียงเท่านั้น
" บ้าบู๊..... "
เมื่อมู่ตงเฟิงเห็นอู่ตงหยางแล้ว สีหน้าก็ขรึมลงไปขณะหนึ่ง
ดวงตานั้นดูลึกล้ำ ฉายแววถึงอารมณ์มืดฟ้าครึ้มฝนเพียงเสี้ยววินาที
ทำไมเขาจะจำไม่ได้ล่ะ ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อวานเขาเพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองเจียงเฉิง เดิมทีนึกว่าจะมีผู้คนมากมายมาต้อนรับ ฉากภาพดูเว่อวังอลังกาล แต่นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่มารับเขานั้นจะมีจำนวนประปรายถึงเพียงนี้ เพราะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ช่างน่าขายหน้าเสียจริง
เมื่อเทียบกับเขาที่เป็นคนใหญ่คนโต ก็คงไม่พึงใจเท่าไหร่ หลังจากผ่านไปจึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วผู้คนที่เขาคิดว่าจะต้องมารอต้อนรับเขาทั้งหมดกลับไปรอบ้าบู๊แทน
สำหรับมู่ตงเฟิงแล้ว มันเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก!
ที่จริงเขาก็อยากหาคนไปหาเรื่องบ้าบู๊ แต่ไม่นึกเลยว่า เดิมทีในสายตาของบ้าบู๊ไม่มีเขาอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ก็เลยถึงขั้น คนสองคนเป็นเพราะทะเลาะกัน ก็เลยทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ จนต่างฝ่ายต่างไม่มีความสุข
แน่นอน ด้วยมูลเหตุเช่นนี้มู่ตงเฟิงจึงไม่เอ่ยถึงมันออกมาเด็ดขาด
" คึกคักมากเลยใช่ไหมล่ะ..... "
บ้าบู๊หรี่ตานิดๆ ยิ้มจางๆ และออกมายืนใกล้ๆ ตรงหน้า
" มาเยี่ยมเยือนบ้าบู๊ผู้ยิ่งใหญ่ซะหน่อย! "
ฉินโช่ววงดูเหมือนจะหวาดกลัวบ้าบู๊เป็นอย่างมาก ถึงตอนนี้จะเป็นศัตรูต่อกัน แต่ก็จำเป็นที่จะต้องตะโกนทักทายบ้าบู๊
ฉินกวนฉีกับฉินผู่หยางก็เลียนแบบเช่นกัน ต่างคนต่างตะโกนออกมา
" เหอะ! "
มู่ตงเฟิงกลับถลึงตามองอย่างไม่กลัวเกรง แล้วก็ไม่ได้แสดงสีหน้าต้อนรับอย่างเป็นมิตร
แต่กลับสบถเสียงออกมา แล้วพูดเนิบๆ " บ้าบู๊แขกที่มาเยือนผู้ยิ่งใหญ่ คงไม่ได้คิดจะทำเรื่องดีๆ ของฉันพังหรอกนะ? "
อู่ตงหยางขำออกมายกใหญ่ ก่อนจะพูดว่า " ทำไมมองเรื่องดีในแง่ร้ายอย่างนั้นล่ะ พวกคุณทำต่อไปเถอะ ผมจะยืนดูอยู่ข้างๆ แล้วกัน "
เมื่อพูดจบ บ้าบู๊ยังไม่ทันที่จะได้แทรกเข้าไป ก็มองแล้วขำเหอะๆ ออกมา
นี่ทำให้ใจของมู่ตงเฟิงเกิดความสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
โดยเฉพาะสีหน้าที่ดูแปลกชวนให้สงสัยของบ้าบู๊ สีหน้าดูรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของคนอื่น ก็ยิ่งทำให้มู่ตงเฟิงยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่
เมื่อสังเกตเข้าไปที่สายตาของบ้าบู๊ดีๆ ถังเฉาก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า " คุณมู่ เมื่อคืนคงจะเสียหน้ามากเลยสินะ วันนี้อารมณ์ก็เลยไม่ค่อยดีแบบนี้ใช่ไหมล่ะ? "
" นายพูดอะไร? "
สีหน้าของมู่ตงเฟิงดูไม่ค่อยยินดีนะ จึงมองไปยังถังเฉาแล้วพูดขึ้น
ในใจก็มีแต่ความคับแค้น ยิ่งนานเข้ายิ่งมากขึ้นทุกครา
ถังเฉายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าเปลี่ยนไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ยิ้มมากขึ้น แล้วพูดต่อเนิบๆ " คุณมู่ เมื่อวานคงจะมีเรื่องก็เลยอยากเจอบ้าบู๊ แต่ว่าบ้าบู๊มีแขกมาต้อนรับมากหน้าหลายตา ก็เลยต้องปฏิเสธ เพราะแบบนี้ก็เลยทำให้คุณมู่โกรธ ใช่ไหมครับ? "
ตู้ม!
หลังจากที่ได้ยิน สายตาของมู่ตงเฟิงก็ดูเยือกเย็นขึ้นมาเพียงพริบตา
ฉินกวนฉีและฉินโช่ววงก็มองไปยังถังเฉาด้วยสีหน้าอึ้งกิมกี่ ผ่านไปสักพัก ก็กลับมาทำสีหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม
ส่วนคนอื่นก็หันไปมองมู่ตงเฟิงด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ถึง
ที่แท้ก็ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเหรอ?
บ้าบู๊ไม่ยอมเจอมู่ตงเฟิง ถ้างั้นไปเจอใครล่ะ?
ยังมีใครที่มีตำแหน่งสูงกว่ามู่ตงเฟิงงั้นเหรอ?
สีหน้าของมู่ตงเฟิงดูขรึมลงกว่าเดิม แล้วหันไปมองทางตระกูลฉินโดยอัตโนมัติ
ถังเฉารู้เรื่องนี้ ถ้างั้นแสดงว่าเรื่องในคืนนั้นก็ถูกเปิดเผยแล้วสิ!
นอกจากเขาแล้ว คนที่อยู่ตรงนั้นก็มีเพียงแค่ฉินกวนฉีกับฉินโช่ววงและไม่กี่คนที่รู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม