พอความคิดนี้แวบเข้ามา สายตาที่มู่เจียงมองถังเฉา ไม่มีแววของการฆ่าเหมือนก่อนหน้านี้เหลืออยู่อีกเลย แต่กลับเป็นการแสดงออกถึงความอึ้งทึ่ง
ด้วยความรู้สึกในลักษณะนี้ เขากระโดดขึ้นเวทีอีกครั้ง เริ่มลงมือต่อสู้กับถังเฉา
ปึง !
ครึ่งนาทีให้หลัง เขาก็ยังถูกถังเฉาเตะกระเด็นจากเวที ตกลงยังพื้นข้างล่าง
แต่เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองไปยังถังเฉาอย่างกังขา
เมื่อครู่นี้ เขาพยายามจดจำจำนวนกระบวนท่าที่ปะมือกับถังเฉา
ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มแรกจะอยู่ที่ไม่กี่วิ. จนกลายมาเป็นถึง 33 วิ.
ในช่วงความแตกต่างนี้ มันปรากฏให้เห็นความก้าวหน้าว่ามีหลายเท่าตัวทีเดียว
ในที่สุด มู่เจียงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ถังเฉากำลังสอนเขาอยู่ ช่วยให้เขาผ่านทะลุคอขวด
สายตาที่มองไปยังถังเฉา เปี่ยมไปด้วยความยำเกรงและขอบคุณ
“เข้ามาอีก”
ถังเฉายืนอยู่ข้างบนเวที น้ำเสียงราบเรียบ
“ได้ครับ”
มู่เจียงยืนอยู่ข้างล่างเวที มีทำท่าแสดงความเคารพน้อย ๆ แล้วกระโดดขึ้นเวทีอีกครั้ง
ท่าการแสดงความเคารพนั้นอยู่ในลักษณะที่เล็กน้อยมากอย่างไม่เป็นที่สังเกตได้ถ้าไม่ตั้งใจดู
แต่ทว่า ยังคงเป็นที่ตะลึงงงของผู้ชมทั้งสนาม แต่ละคนเป็นไก่ตาแตกยืนดูอย่างงง ๆ
พี่น้องของมู่ตงเฟิง ยังกลับไปทำความเคารพถังเฉา ?
เขาคิดอย่างไรของเขานั่นนะ ?
ผู้ชมทั้งหมดไม่มีทางเข้าใจในพฤติการณ์อันนี้เลย ไอ้คนที่เรียกตัวเองว่า ‘เจ้ามังกร’ นี่เตะเขาตกเวทีครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็เรียกเขาขึ้นเวทีอีกทุกครั้ง สบประมาทกันอย่างต่อเนื่อง
ถ้าหากเป็นคนอื่น ป่านนี้คงออกจากไปแล้ว
แต่ดูมู่เจียงเหมือนกับคนโง่ทึ่มกระโดดขึ้นเวทีต่อครั้งแล้วครั้งเล่า ยังกับเรื่องในสามก๊กตอนจิวยี่ตีหวงไก้ คนหนึ่งอยากตี อีกคนยินดีให้ตี
แถมยังแสดงการคารวะให้ถังเฉาอีก ?
หวางเฉียน กับซุนหงเจี๋ยตื่นตระหนกกันไปหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังออกอาการใบ้กินพูดอะไรไม่ออก
ทั้งสองคนหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง เหมือนจิตขวัญดวงวิญญาณที่มีอยู่ประจำตัวหนีหายไปเกือบครึ่ง
ถึงแม้การต่อสู้ของ ‘เจ้ามังกร’ กับมู่เจียงยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนต่างเห็นชัดกันว่า การประลองยุทธครั้งนี้ มู่เจียงแพ้อย่างย่อยยับ
พลังฝีมือทั้งสองคนต่างกันคนละชั้นอย่างชัดเจน
“หงเจี๋ย รีบคิดหาวิธีเร็วเข้า นั่นมันเงินออมทั้งหมดของฉันเลยนะ.....”
หวังเฉียนทำท่าจะเป็นลมให้ได้ หน้าตาหดหู่ดูยับเยิน
“ฉันก็กำลังคิดหาทางอยู่ไม่เห็นรึงัย ?”
สติอารมณ์ของซุนหงเจี๋ยก็กำลังเปลี่ยนกลายเป็นจะแตกระเบิดแล้ว
ฝ่ายทางด้านบริษัทลอตเตอรี เห็นว่าได้เข้ามาถึงสถานที่ด้วยตัวเองแล้ว ตั้งใจจะเข้ามาขอคุยกับถังเฉา
ขืนเป็นไปตามรูปการณ์นี้ บริษัทพวกเขาต้องล้มละลายกันแบบตอกตะปูย้ำปิดฝาโลงกันเป็นแน่
อีกทั้งยังต้องแบกเต็ม ๆ กับเสียงด่าจากสื่อโซเชียล
ส่วนด้านทางอัฒจรรย์ชั้นที่สูงสุด ท่านบ้าบู๊หัวเราะขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ
ฝ่ายมู่ตงเฟิงกลับมีสีหน้าเหี้ยมขรึม
เป็นที่ชัดเจนว่า ทั้งสองก็ได้มองเห็นแล้ว ระหว่างถังเฉากับมู่เจียง ได้ก้าวข้ามขอบเขตุของการแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการต่อสู้กันแล้ว แต่เป็นการชี้แนะ
ถังเฉากำลังชี้แนะมู่เจียงในการทะลวงผ่านคอคอดขวด!
นี้เป็นเรื่องที่ทำให้มู่ตงเฟิงเสียหน้าเป็นอย่างยิ่งยวด
เรื่องที่มู่เจียงมีเหตุติดค้างที่คอขวด เขาก็รู้อยู่ เขาทั้งสองคนด้วยกันเองก็เคยดำเนินการต่อสู้กันอยู่นับไม่ถ้วนกี่รอบ เพื่อหาทางทะลวงผ่านช่องระหว่างความเป็นกับความตายของคอขวด
แต่ทว่า ไม่เคยประสบความสำเร็จ
สืบค้นต้นตอเหตุผล ก็เพราะทั้งสองคนมีพลังฝีมือต่างกันไม่มาก แม้จะนับว่ามู่ตงเฟิงเหนือกว่า แต่ก็เหนือกว่าไม่ได้มาก
แต่ระหว่างถังเฉากับมู่เจียงนั้นมันคนละเรื่องกันแล้ว มู่เจียงหาใช่จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของถังเฉาได้เลยไม่
ให้เขามาชี้แนะ กับที่มู่ตงเฟิงมาชี้แนะ ผลเมื่อเทียบกันย่อมให้เห็นชัดถึงส่วนด้อย
ฉะนั้นจึงทำให้สีหน้าของมู่ตงเฟิงดูไม่ได้เอาเลยถึงปานนี้
“แรงกำลังยังอ่อนไป ความเร็วยังไม่พอ แม้นถ้าปะทะกับคนฝีมือระดับท่านมันพอได้อยู่ แต่ในสมรภูมินั้นมีการเปลี่ยนแปลงทุกชั่วพริบตา ปฏิกิริยาในการตอบโต้ด้วยพลังแค่นี้ยังใช้ไม่ได้”
ถังเฉาพูดกับมู่เจียง
“ครับ”
มู่เจียงเริ่มค่อย ๆ จับเคล็ดต่าง ๆ ได้ ถังเฉาได้สอนแนะนำชี้แนวทางสว่างให้แล้ว ส่วนที่เหลือ ก็คงต้องอยู่ที่ตัวเขาเอง
“ตอนนี้ยอมหรือยัง ?”
ถังเฉามองที่มู่เจียง พูดเรียบ ๆ
มู่เจียงแสดงออกถึงความรู้สึกละอายจากส่วนลึกในใจ “ยอมครับ ผมยอมแพ้”
คราวนี้ ถังเฉาไม่ได้ให้มู่เจียงขึ้นมาบนเวทีอีก ส่วนมู่เจียงเดินก้าวจากไปอย่างทรนง
โครมคราม!
ในทันทีนั้น ทั่วทั้งบริเวณสนามกีฬาเดือดพล่าน
การจากไปของมู่เจียง ก็คือเป็นการประกาศให้ตระกูลฉินตกรอบ
ฉินโซ่ววง ฉินกวนฉี บ่งสีหน้าที่ดูแย่มากสุด ๆ มีแต่ฉินผู่หยางลอบปลื้มอยู่ในใจ
ตระกูลฉินตกรอบ อย่างน้อยฉินกวนฉีคงยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลฉินในเวลาอันใกล้นี้
เขาก็จะได้ยังมีช่วงสู้กับฉินกวนฉีได้
แต่หวางเฉียน กับซุนหงเจี๋ย มันกลับเหมือนว่าได้มาถึงวันโลกาพินาศแล้ว
และแล้วเสียงประกาศของกรรมการให้เป็นเวลาพักครึ่งเวลา เพื่อให้ผู้เข้ารอบได้มีเวลาพัก
ถังเฉาเดินออกจากห้องพัก
บริเวณนี้นอกจากผู้ผ่านการคัดเลือก บุคคลอื่นห้ามเข้า ฉะนั้น ถังเฉาจัดการเก็บชุดและหน้ากากไว้ข้างในนี้
“หลบไป จะขอไปพบ ‘เจ้ามังกร’ หน่อย”
“พวกเรามีเรื่องด่วนมาก ๆ นะ........”
“เรื่องคอขาดบาดตายเลยเชียวนะ!”
“……”
ทันใดนั้น ที่หน้าห้องพักผู้ผ่านการคัดเลือกมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น
กลุ่มคนกำลังผลักดุนเบียดดันกันอย่างโกลาหล ร.ป.ภ.หน้าประตูกั้นขวางกันไม่ไหว
งานประชุมแดนเหนือถึงแม้จะมีคนของสนามรบแห่งเมืองเจียงเฉิงทำหน้าที่อารักขาอยู่ แต่ในส่วนภายใน ก็คงยังเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเวรเฝ้าอยู่
“ทุกท่านครับ ตรงนี้เป็นที่พักของผู้ผ่านการคัดเลือก ห้ามเข้านะครับ”
เจ้าหน้าที่ ร.ป.ภ. ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านคนจำนวนมากนั้นได้
“มีอะไรกัน ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม