เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 632

สรุปบท บทที่ 632 ซื้อตัว ‘เจ้ามังกร’: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

อ่านสรุป บทที่ 632 ซื้อตัว ‘เจ้ามังกร’ จาก เจ้ามังกรพรีเมี่ยม โดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน

บทที่ บทที่ 632 ซื้อตัว ‘เจ้ามังกร’ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

พอความคิดนี้แวบเข้ามา สายตาที่มู่เจียงมองถังเฉา ไม่มีแววของการฆ่าเหมือนก่อนหน้านี้เหลืออยู่อีกเลย แต่กลับเป็นการแสดงออกถึงความอึ้งทึ่ง

ด้วยความรู้สึกในลักษณะนี้ เขากระโดดขึ้นเวทีอีกครั้ง เริ่มลงมือต่อสู้กับถังเฉา

ปึง !

ครึ่งนาทีให้หลัง เขาก็ยังถูกถังเฉาเตะกระเด็นจากเวที ตกลงยังพื้นข้างล่าง

แต่เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มองไปยังถังเฉาอย่างกังขา

เมื่อครู่นี้ เขาพยายามจดจำจำนวนกระบวนท่าที่ปะมือกับถังเฉา

ที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มแรกจะอยู่ที่ไม่กี่วิ. จนกลายมาเป็นถึง 33 วิ.

ในช่วงความแตกต่างนี้ มันปรากฏให้เห็นความก้าวหน้าว่ามีหลายเท่าตัวทีเดียว

ในที่สุด มู่เจียงก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ถังเฉากำลังสอนเขาอยู่ ช่วยให้เขาผ่านทะลุคอขวด

สายตาที่มองไปยังถังเฉา เปี่ยมไปด้วยความยำเกรงและขอบคุณ

“เข้ามาอีก”

ถังเฉายืนอยู่ข้างบนเวที น้ำเสียงราบเรียบ

“ได้ครับ”

มู่เจียงยืนอยู่ข้างล่างเวที มีทำท่าแสดงความเคารพน้อย ๆ แล้วกระโดดขึ้นเวทีอีกครั้ง

ท่าการแสดงความเคารพนั้นอยู่ในลักษณะที่เล็กน้อยมากอย่างไม่เป็นที่สังเกตได้ถ้าไม่ตั้งใจดู

แต่ทว่า ยังคงเป็นที่ตะลึงงงของผู้ชมทั้งสนาม แต่ละคนเป็นไก่ตาแตกยืนดูอย่างงง ๆ

พี่น้องของมู่ตงเฟิง ยังกลับไปทำความเคารพถังเฉา ?

เขาคิดอย่างไรของเขานั่นนะ ?

ผู้ชมทั้งหมดไม่มีทางเข้าใจในพฤติการณ์อันนี้เลย ไอ้คนที่เรียกตัวเองว่า ‘เจ้ามังกร’ นี่เตะเขาตกเวทีครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วก็เรียกเขาขึ้นเวทีอีกทุกครั้ง สบประมาทกันอย่างต่อเนื่อง

ถ้าหากเป็นคนอื่น ป่านนี้คงออกจากไปแล้ว

แต่ดูมู่เจียงเหมือนกับคนโง่ทึ่มกระโดดขึ้นเวทีต่อครั้งแล้วครั้งเล่า ยังกับเรื่องในสามก๊กตอนจิวยี่ตีหวงไก้ คนหนึ่งอยากตี อีกคนยินดีให้ตี

แถมยังแสดงการคารวะให้ถังเฉาอีก ?

หวางเฉียน กับซุนหงเจี๋ยตื่นตระหนกกันไปหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังออกอาการใบ้กินพูดอะไรไม่ออก

ทั้งสองคนหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง เหมือนจิตขวัญดวงวิญญาณที่มีอยู่ประจำตัวหนีหายไปเกือบครึ่ง

ถึงแม้การต่อสู้ของ ‘เจ้ามังกร’ กับมู่เจียงยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทุกคนต่างเห็นชัดกันว่า การประลองยุทธครั้งนี้ มู่เจียงแพ้อย่างย่อยยับ

พลังฝีมือทั้งสองคนต่างกันคนละชั้นอย่างชัดเจน

“หงเจี๋ย รีบคิดหาวิธีเร็วเข้า นั่นมันเงินออมทั้งหมดของฉันเลยนะ.....”

หวังเฉียนทำท่าจะเป็นลมให้ได้ หน้าตาหดหู่ดูยับเยิน

“ฉันก็กำลังคิดหาทางอยู่ไม่เห็นรึงัย ?”

สติอารมณ์ของซุนหงเจี๋ยก็กำลังเปลี่ยนกลายเป็นจะแตกระเบิดแล้ว

ฝ่ายทางด้านบริษัทลอตเตอรี เห็นว่าได้เข้ามาถึงสถานที่ด้วยตัวเองแล้ว ตั้งใจจะเข้ามาขอคุยกับถังเฉา

ขืนเป็นไปตามรูปการณ์นี้ บริษัทพวกเขาต้องล้มละลายกันแบบตอกตะปูย้ำปิดฝาโลงกันเป็นแน่

อีกทั้งยังต้องแบกเต็ม ๆ กับเสียงด่าจากสื่อโซเชียล

ส่วนด้านทางอัฒจรรย์ชั้นที่สูงสุด ท่านบ้าบู๊หัวเราะขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ

ฝ่ายมู่ตงเฟิงกลับมีสีหน้าเหี้ยมขรึม

เป็นที่ชัดเจนว่า ทั้งสองก็ได้มองเห็นแล้ว ระหว่างถังเฉากับมู่เจียง ได้ก้าวข้ามขอบเขตุของการแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการต่อสู้กันแล้ว แต่เป็นการชี้แนะ

ถังเฉากำลังชี้แนะมู่เจียงในการทะลวงผ่านคอคอดขวด!

นี้เป็นเรื่องที่ทำให้มู่ตงเฟิงเสียหน้าเป็นอย่างยิ่งยวด

เรื่องที่มู่เจียงมีเหตุติดค้างที่คอขวด เขาก็รู้อยู่ เขาทั้งสองคนด้วยกันเองก็เคยดำเนินการต่อสู้กันอยู่นับไม่ถ้วนกี่รอบ เพื่อหาทางทะลวงผ่านช่องระหว่างความเป็นกับความตายของคอขวด

แต่ทว่า ไม่เคยประสบความสำเร็จ

สืบค้นต้นตอเหตุผล ก็เพราะทั้งสองคนมีพลังฝีมือต่างกันไม่มาก แม้จะนับว่ามู่ตงเฟิงเหนือกว่า แต่ก็เหนือกว่าไม่ได้มาก

แต่ระหว่างถังเฉากับมู่เจียงนั้นมันคนละเรื่องกันแล้ว มู่เจียงหาใช่จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของถังเฉาได้เลยไม่

ให้เขามาชี้แนะ กับที่มู่ตงเฟิงมาชี้แนะ ผลเมื่อเทียบกันย่อมให้เห็นชัดถึงส่วนด้อย

ฉะนั้นจึงทำให้สีหน้าของมู่ตงเฟิงดูไม่ได้เอาเลยถึงปานนี้

“แรงกำลังยังอ่อนไป ความเร็วยังไม่พอ แม้นถ้าปะทะกับคนฝีมือระดับท่านมันพอได้อยู่ แต่ในสมรภูมินั้นมีการเปลี่ยนแปลงทุกชั่วพริบตา ปฏิกิริยาในการตอบโต้ด้วยพลังแค่นี้ยังใช้ไม่ได้”

ถังเฉาพูดกับมู่เจียง

“ครับ”

มู่เจียงเริ่มค่อย ๆ จับเคล็ดต่าง ๆ ได้ ถังเฉาได้สอนแนะนำชี้แนวทางสว่างให้แล้ว ส่วนที่เหลือ ก็คงต้องอยู่ที่ตัวเขาเอง

“ตอนนี้ยอมหรือยัง ?”

ถังเฉามองที่มู่เจียง พูดเรียบ ๆ

มู่เจียงแสดงออกถึงความรู้สึกละอายจากส่วนลึกในใจ “ยอมครับ ผมยอมแพ้”

คราวนี้ ถังเฉาไม่ได้ให้มู่เจียงขึ้นมาบนเวทีอีก ส่วนมู่เจียงเดินก้าวจากไปอย่างทรนง

โครมคราม!

ในทันทีนั้น ทั่วทั้งบริเวณสนามกีฬาเดือดพล่าน

การจากไปของมู่เจียง ก็คือเป็นการประกาศให้ตระกูลฉินตกรอบ

ฉินโซ่ววง ฉินกวนฉี บ่งสีหน้าที่ดูแย่มากสุด ๆ มีแต่ฉินผู่หยางลอบปลื้มอยู่ในใจ

ตระกูลฉินตกรอบ อย่างน้อยฉินกวนฉีคงยังไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลฉินในเวลาอันใกล้นี้

เขาก็จะได้ยังมีช่วงสู้กับฉินกวนฉีได้

แต่หวางเฉียน กับซุนหงเจี๋ย มันกลับเหมือนว่าได้มาถึงวันโลกาพินาศแล้ว

และแล้วเสียงประกาศของกรรมการให้เป็นเวลาพักครึ่งเวลา เพื่อให้ผู้เข้ารอบได้มีเวลาพัก

ถังเฉาเดินออกจากห้องพัก

บริเวณนี้นอกจากผู้ผ่านการคัดเลือก บุคคลอื่นห้ามเข้า ฉะนั้น ถังเฉาจัดการเก็บชุดและหน้ากากไว้ข้างในนี้

“หลบไป จะขอไปพบ ‘เจ้ามังกร’ หน่อย”

“พวกเรามีเรื่องด่วนมาก ๆ นะ........”

“เรื่องคอขาดบาดตายเลยเชียวนะ!”

“……”

ทันใดนั้น ที่หน้าห้องพักผู้ผ่านการคัดเลือกมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น

กลุ่มคนกำลังผลักดุนเบียดดันกันอย่างโกลาหล ร.ป.ภ.หน้าประตูกั้นขวางกันไม่ไหว

งานประชุมแดนเหนือถึงแม้จะมีคนของสนามรบแห่งเมืองเจียงเฉิงทำหน้าที่อารักขาอยู่ แต่ในส่วนภายใน ก็คงยังเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำเวรเฝ้าอยู่

“ทุกท่านครับ ตรงนี้เป็นที่พักของผู้ผ่านการคัดเลือก ห้ามเข้านะครับ”

เจ้าหน้าที่ ร.ป.ภ. ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่อาจต้านคนจำนวนมากนั้นได้

“มีอะไรกัน ?”

“ฉันทั้งขายบ้านไป โยนลงไปห้าล้าน!”

“ครานี้ฉันพังหมดแน่ เมียฉันคงขอหย่าเลิกกับฉัน พ่อแม่ก็คงเอาฉันตายแน่ !”

“……”

พวกกลุ่มเพื่อนนักเรียนเก่าที่โดนหลอกต้มส่งเสียงปรับทุกข์กันระงมไปทั่ว

ฟังตัวเลขจำนวนมโหฬารขนาดนี้ หลินชิงเสว่ให้รู้สึกสะอึกอยากสะอื้น มองหน้าหยางเฉียนด้วยสายตาหนาวเยือก

“ทุกคนแต่ละคนก็เพื่อนนักเรียนเก่ากันทั้งนั้น เธอหลอกลวงพวกเขา ไม่เคยได้คิดถึงครอบครัวของพวกเขาบ้างเลยหรือ ?”

คำนี้พูดเสียดแทงเอาหัวใจของพวกเขาทั้งหมด

พวกเขาแต่ละคนเต็มระอุด้วยความแค้นจ้องกันไปที่หวางเฉียน

“ก็เพราะอีหญิงสารเลวที่เห็นเงินเป็นตาลุกคนนี้ หลอกทำให้พวกเราเสีย !”

“คืนเงิน รีบคืนเงินมานะ!”

“ถ้าไม่คืนเงินมา จะฟ้องพวกแก เอาให้พังกันทั้งตระกูลไปเลยทีนี้”

“……”

คนที่อยู่ทั้งหมดต่างมีความรู้สึกคับแค้นกันเต็มอก

หวางเฉียนโดนขู่จนขวัญกระเจิงซึมเซ่อ ยืนแทบจะไม่ติด

“มันไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยนะ เพราะฉันเห็นแก่พวกเธอจริง ๆ นะ อยากรวมกลุ่มพวกเรานักเรียนเก่า พอดีสามีฉันทำด้านนี้อยู่ ก็เลยคิดชวนให้พวกเรามารวยด้วยกัน”

“พวกเธอเชื่อฉันนะ ฉันไม่เคยแม้แต่เพียงคิดที่จะมาทำร้ายพวกเธอเลย”

หวางเฉียนรู้ดีว่า เรื่องนี้ถ้าลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา จะพาดพิงไปโดนถึงข้อหาหลอกลวง เป็นคดีอาญาเลยเชียว!

ซุนหงเจี๋ยก็กลัวติดคุกเหมือนกัน ก็ปลอบไปว่า “ทุกคนอย่าหวาดผวากันให้มากเลยนะ ประธานของพวกเราจะมาถึงเดี๋ยวนี้แล้วแหละ การลงทุนของพวกคุณในครั้งนี้ จะต้องได้คืนไม่ให้ขาดแม้แต่แดงเดียว”

พอพูดแบบนี้ ทุกคนต่างค่อยผ่อนหายใจโล่งอกขึ้น

มีแต่ถังเฉาเชิดหน้ามองพวกเขาอย่างเย้ย ๆ “ประธานกรรมการของพวกคุณกับ บริษัทบริษัทลอตเตอรีของพวกคุณยังเปิดอยู่หรือ ?”

“คุณหมายถึงอะไร ?”

ซุนหงเจี๋ยมีสีหน้าหวาดระแวง

ก่อนหน้านี้ก็ที่ถังเฉาบอกว่า พวกเขาจะต้องต้นหายกำไรหมดไม่มีทางจะได้คืน ผลปรากฏว่าพวกเขาก็เสียเงินทุนก้อนใหญ่ไปแล้วจริง ๆ

ถังเฉายิ้มเรียบ ๆ ไม่พูดอะไรอีก

ตึง ตึง ตึง!

ในขณะนั้นเอง แว่วเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบเข้ามา

เดินเข้ามาเป็นชายวัยกลางคน เดินแกมวิ่งเข้ามาด้วยเหงื่อเต็มหน้า

ซุนหงเจี๋ยเห็นเข้าก็เหมือนได้เห็นความหวัง ชี้ไปที่เขาพูดว่า “ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหม นั่นเขาคือประธานบริษัทล๊อตเตอรีของพวกเรา เจี่ยงหยูเหลียง ประธานเจี่ยง”

เจี่ยงหยูเหลียงไม่มีเวลาจะไปทักทายด้วย ตรงเข้าไปเคาะประตูพูดว่า “คุณ ‘เจ้ามังกร’ ครับ ผมประธานผู้อำนวยการบริษัทลอตเตอรีอินหวงนะครับ ผมมีธุระจะขอคุยกับท่านหน่อยนะครับ”

ถังเฉาเดินเข้ามา “พวกคุณไม่ต้องเคาะแล้ว ข้างในไม่มีคนอยู่”

พอพูดออกไปเสร็จ ในทันทีนั้นผู้คนต่างก็มองไปที่เขาถามอย่างงง ๆ ว่า “คุณรู้ได้อย่างไง ?”

แม้กระทั่งหลินชิงเสว่ยังจ้องตามองไปที่เขา

ถังเฉาหัวเราะ “ตอนที่ผมเข้ามา พอดีเห็นเจ้ามังกรเดินสวนออกไปแล้ว”

“เงินก้อนนี้ พวกคุณอย่าคิดหวังจะเอากลับไปเลย เพราะว่าอีกสักพัก บริษัทลอตเตอรีอินหวงก็จะต้องถูกตรวจสอบสั่งปิดแล้ว พวกคุณหลายคนนี้ ก็จะต้องถูกนำตัวไปด้วย”

ถังเฉาพูดกับเจี่ยงหยูเหลียง ซุนหงเจี๋ย และหวางเฉียนทั้งสามคน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม