บทที่ 65 กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย......”
เมื่อเห็นเฟิ่งหวงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา ฉางเซ่าเฟิงก็ตะโกนด้วยความหวาดกลัว
ตุบตับ......
ในเวลานี้ ประตูรอบด้านของห้องสูทถูกเปิดออกและมีบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างพิเศษวิ่งเข้ามาในห้องแล้วล้อมรอบถังเฉากับเฟิ่งหวง พร้อมกับอีกส่วนหนึ่งเดินเข้าไปบังอยู่ตรงหน้าฉางเซ่าเฟิง
เมื่อเห็นภาพนี้ฉางเซ่าเฟิงถึงจะรู้สึกปลอดภัย
ทุกอย่างนี้ต้องขอบคุณพ่อของเขา เพราะหลังจากฉางเว่ยถูกทำร้ายจนพิการ ฉางหงเทียนก็ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของเขามากขึ้น เพราะเกรงว่าเขาจะถูกทำร้ายเหมือนพี่ชาย จึงต้องจัดบอดี้การ์ดมากมายมาคอยคุ้มกันเขา
ด้วยบอดี้การ์ดทั้งหมดยี่สิบคนที่คอยยืนคุ้มกันฉางเซ่าเฟิง ดังนั้นสีหน้าของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลังกำแพงของเหล่าบอดี้การ์ดก็เกิดความหยิ่งผยองขึ้นมาทันที
“ถึงว่าทำไมผมไม่ได้ข่าวจากเหลียงเจียหมิงเลย ที่แท้ก็ถูกพวกคุณจัดการนี่เอง ผมไม่สนว่าพวกคุณเป็นใครหรอกนะ กล้าบุกเข้ามาในถิ่นผมแบบนี้ ต่อให้เป็นเทพเจ้าก็ช่วยพวกคุณไม่ได้หรอก!”
สีหน้าของถังเฉากับเฟิ่งหวงยังคงเฉยเมย พวกเขาไม่ได้สนใจเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นว่าถังเฉากับเฟิ่งหวงเงียบไป ฉางเซ่าเฟิงจึงคิดว่าพวกเขาคงตกใจกลัว จากนั้นเขาจุดบุหรี่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ว่า “ถ้าไม่อยากตาย คุณเป็นพี่เขยของนางตัวแสบหลินจ้าวหยูนใช่ไหม เรียกมันมาคุกเข่าขอขมาผม แล้วเรียกผมว่า ‘ท่านปู่’ และขอโทษผมด้วย ผมจะให้โอกาสคุณ”
ทันทีที่สายตากวาดมองไปที่เฟิ่งหวง ฉางเซ่าเฟิงก็เกิดความคิดชั่วอีกครั้ง
“แล้วก็ให้ผู้หญิงคนนี้มาปรนนิบัติผมด้วย ถ้าทำให้ผมมีความสุขได้ ผมจะยอมปล่อยพวกคุณไป”
คำพูดมากมาย แต่เฟิ่งหวงก็มองเขาเหมือนคนโง่คนหนึ่งและพูดกับเขาอย่างเย็นชาว่า “เจ้าโง่”
“หักกระดูกพวกมันให้หมด” ถังเฉาสั่ง
“ค่ะ รองหัวหน้า”
แววตาที่เย็นชาและกระหายเลือดของเฟิ่งหวงก็เป็นประกาย ทันใดนั้นร่างของเธอก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันที
เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เธอก็เหมือนเสือที่กระโจนเข้าไปในฝูงแกะแล้วเริ่มสังหารทันที
แคร่ก ๆ ......
เสียงแตกหักของกระดูกดังขึ้น ตามด้วยเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเหล่าบอดี้การ์ด
“โอ๊ย......”
เป็นเสียงที่เจ็บปวดอย่างสุดทรมาน
เพียงเวลาแค่ครึ่งนาที บอดี้การ์ดที่ยืนล้อมถังเฉาก็ถึงจุดจบ
ในทันใดนั้นฉางเซ่าเฟิงก็เบิกตาอ้าปากกว้างและบุหรี่ในปากก็ร่วงลงพื้น
“ยังมีด้านอีกด้วย” เฟิ่งหวงพูดอย่างเย็นชา
ในขณะที่พูด แขนของบอดี้การ์ดคนหนึ่งก็ถูกหักไปเรียบร้อย
เป็นการลงมือที่โหดเหี้ยมอย่างที่สุด ฉางเซ่าเฟิงถึงกับขนหัวลุก ถ้าเทียบกับคนของเขาแล้ว ใครกันแน่ที่เป็นคนร้าย?
ส่วนสาวที่หลบอยู่มุมห้องก็กลัวจนกรีดร้องไม่ออก
เหล่าบอดี้การ์ดที่เข้ามาอย่างแข็งขัน แต่ภายในหนึ่งนาทีก็ถูกเล่นงานจนล้มนอนกองอยู่บนพื้นกันหมด ฉางเซ่าเฟิงได้แต่กลืนน้ำลายอย่างไม่หยุด ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยพบเห็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน
“ยังมีอีกไหม?”
ถังเฉาเดินเข้ามายืนอยู่ข้างเฟิ่งหวงแล้วพูดกับฉางเซ่าเฟิงอย่างเย็นชาว่า “ถ้ามีก็รีบเรียกออกมาให้หมด ผมยังมีธุระต้องทำต่อ”
ขณะนี้ฉางเซ่าเฟิงสีหน้าซีดเซียว ในที่สุดเขาก็รู้ว่าตัวเองแกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว
พรึ่บ!
เขาคุกเข่าลงต่อหน้าถังเฉาแล้วอ้อนวอนเหมือนขอทานที่น่าสงสาร
“อย่าฆ่าผมเลยครับ อย่าฆ่าผมเลย ผมเป็นลูกของฉางหงเทียน......”
ถังเฉาเม้มปากและพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณเป็นลูกของฉางหงเทียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม