ขณะที่เขาส่งถ้วยชาในมือนั้น เขาไม่กล้าแม้แต่เงยหน้าไปมองไปที่ดวงตาของหลินชิงเสว่ด้วยซ้ำ
แม้แต่มือที่ถือถ้วยชาอยู่ก็ดูอ่อนแรง น้ำที่อยู่ในถ้วยชาเองก็ดูกระเพื่อมไปมา ทำให้คนนั้นต่างกังวลว่าจะทำหกลงมาหรือไม่
ทั้งสำนักงานขายเงียบลงในทันที บรรยากาศนั้นก็ดูเหมือนจะแข็งตัวไปหมด ดวงตาของทุกคนเบิกกว้าง พวกเขามองไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่ด้วยท่าทางที่น่าเหลือเชื่อ
นี่ผู้จัดการหลี่เคารพหลินชิงเสว่ขนาดนี้เชียวเหรอ?
หลังจากผ่านไปนาน ทุกคนต่างก็มีปฏิกิริยาความตกตะลึงอยู่บนใบหน้า
จางขุยเองที่รู้สึกว่าหูของตนต้องมีปัญหาแน่ๆเลยรีบเดินเข้าไปถาม “ผู้จัดการหลี่ นี่นายกำลังทำอะไรอยู่?”
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการหลี่สะบัดมือของเขาออกและไม่พูดอะไรออกมา เขายังคงก้มหน้าลงและยื่นถ้วยชาให้กับหลินชิงเสว่
เมื่อหลินชิงเสว่นั้นไม่รับมา เขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก
ใช้เวลานานพอสมควรกว่าหลินชิงเสว่จะเริ่มเอ่ยปากออกมาอย่างแผ่วเบา
“ฉันไม่ดื่มชา วางไว้เถอะ”
ผู้จัดการหลี่นั้นตัวสั่นไปหมด ในใจก็คาดเดา การที่หลินชิงเสว่พูดขนาดนี้นั่นคือเธอจะไม่ให้อภัยตนงั้นเหรอ?
แต่ด้วยไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำพูดของหลินชิงเสว่ จึงได้แต่วางแก้วชาลงอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าแม้แต่ถอนหายใจที่แรงออกมาจึงได้แต่ยืนอยู่ข้างๆเท่านั้น
จางขุยและสองสาวฝาแฝดเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อและถามว่า “ผู้จัดการหลี่ เมื่อกี้นายเรียกเธอว่าอะไรนะ?”
ผู้จัดการหลี่ทนแทบไม่ไหวอยากจะด่า อดไม่ได้ที่จะบ่นกับจางขุยว่า “น้องจาง นายไปแย่งกับใครไม่แย่ง ดันมาแย่งกับคุณหลินเนี่ยนะ?นี่นายรู้หรือเปล่าเธอเป็นใคร?”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ใจของจางขุยเองก็สั่นไปชั่วขณะ ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกโหวงๆ
แท้จริงแล้วตั้งแต่สมัยก่อนที่ยังเรียนอยู่ จางขุยเองก็พอที่จะรู้ภูมิหลังตระกูลของหลินชิงเสว่อยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรเป็นพิเศษมากนัก
คิดแค่ว่าเป็นลูกสาวของตระกูลบริษัทที่ร่ำรวย ถึงได้มีนิสัยทำตัวเหนือใครแบบนี้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจางขุยนั้นจะมองหลินชิงเสว่ต่ำไป
เนื่องจากผู้จัดการหลี่เองก็พบเจ้าของธุรกิจต่างๆมาไม่น้อย มีบริษัทที่จดทะเบียนยักษ์ใหญ่รวมอยู่ในนี้ด้วย แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะมีความเคารพถึงเพียงนี้เลย
หลังจากนั้นชั่วครู่ ผู้จัดการหลี่หันไปมองที่จางขุยอีกครั้งพร้อมกับใช้น้ำเสียงต่ำพูดว่า “น้องชายจาง นายเองก็น่าจะรู้นะว่าสำนักงานขายของเรานั้นขึ้นตรงต่อที่ไหน?”
“รู้สิ ที่อสังหาริมทรัพย์หงหย่วนไง สนับสนุนโดยตระกูลหลิน...หรือว่า?!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นัยน์ตาของจางขุยก็หดลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “เธอเป็นคนของตระกูลหลินงั้นเหรอ?”
เหงื่อที่เย็นยะเยือกของผู้จัดการหลี่ไหลลงมา “ไม่ใช่แค่คนของตระกูลหลิน แต่เป็นถึงเจ้าหญิงคนโตของตระกูลอีกด้วย!”
บูม...
ทันทีที่เขาพูดออกมา หัวของจางขุยก็ว่างเปล่า การแสดงออกของเขานั้นเฉื่อยชา มองไปที่หลินชิงเสว่อย่างไม่น่าเชื่อ
เขารู้ว่าหลินชิงเสว่นั้นมีภูมิหลังที่ใหญ่โตแข็งแกร่ง แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แถมยังเป็นเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินอีกต่างหาก
ใบหน้าของสองสาวฝาแฝดเองก็ดูงงงวย
ด้วยสถานะของพวกหล่อนจึงทำให้ไม่ได้สัมผัสหรือชิดเชื้อกับคนจากระดับตระกูลหลวงในเยี่ยนตู นั่นจึงทำให้ไม่รู้ถึงความน่ากลัวสยดสยองของตระกูลหลวงเยี่ยนตูแม้แต่น้อย
“เจ้าหญิงคนโตอะไร เธองั้นเหรอ?”
“คุณชายจางคะ นี่มันปีไหนแล้วยังมีคนเรียกว่า‘เจ้าหญิง’อีกเหรอ คุณว่ามันตลกไหมล่ะ?ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
สองสาวฝาแฝดต่างหัวเราะออกมา
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
อย่างไรก็ตาม เวลาต่อมาจางขุยก็ได้ตบเข้าไปที่หน้าของสองสาวฝาแฝดอย่างแรง ตะโกนด้วยสีหน้าที่มืดมน “หุบปากซะ!”
สองสาวฝาแฝดนั้นดูโง่ในทันที
เห็นเพียงจางขุยนั้นปาดเหงื่อที่เย็นยะเยือกของเขา จากนั้นเดินมาที่หน้าของหลินชิงเสว่ ฝืนยิ้มออกมาอย่างอึดอัดจากนั้นพูดว่า “ชิงเสว่ เรื่องนั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆ บ้านหลังนี้พวกเราไม่ต้องการแล้ว ยกให้เธอเอาไปเลย”
ขณะที่พูดอยู่นั้น จางขุยก็ได้ขอโทษหลินชิงเสว่
เมื่อคิดว่าตนนั้นกล้าที่จะไปแย่งบ้านของเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินและหาเหามาใส่หัว เขาก็สะดุ้งจากเหงื่อที่ไหลเย็นลงมา
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เขาด้วยสายตาที่แผ่วลง
ถังเฉาเองก็เช่นกัน พวกเขานั้นคงจะยังไม่รู้เรื่องที่หลินชิงเสว่นั้นไม่ใช่เจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินอีกต่อไปแล้ว
ผู้จัดการหลี่ยิ้มและพูดว่า “คุณหลินครับ คุณมาที่นี่เพื่อมาซื้อบ้านกับเรา เป็นเกียรติของเราจริงๆ ผมชื่อเสี่ยวหลี่ หากในอนาคตคุณต้องการซื้อบ้านล่ะก็ ขอเพียงแค่บอกผมมาแล้วผมจะให้ส่วนลดครึ่งหนึ่งแก่คุณเลยครับ!”
หลินชิงเสว่พูดอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องหรอก ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อบ้านของพวกคุณเสียหน่อย”
ผู้จัดการหลี่ตกใจและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่ ใช่ คุณหลินพูดถูกต้องแล้วครับ!”
“เรียกคนมาดูเรื่องการจัดซื้อบ้านให้กับคุณหลินหน่อยสิ!”
จากนั้นเขาก็เรียกพนักงานขายสองสามคนมาเพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น
ผู้จัดการหลี่ปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาออก แล้วมองไปที่จางขุย “น้องจาง เอายังไงดี นายจะยังซื้อบ้านอยู่ใช่ไหม ไปดูบ้านแบบอื่นกันไหมล่ะ?”
หลินชิงเสว่และจางขุย คนหนึ่งคือคนที่เขาไม่สามารถหาเรื่องได้ ส่วนอีกคนคือหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา เขาเองก็ไม่สามารถละเลยใครได้เลย
จางขุยเลือกบ้านที่เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ดูเล็กกว่า “หลังนี้แล้วกัน”
เมื่อสองสาวฝาแฝดนั้นเห็นว่าบ้านหลังนี้นั้นต่างกับของหลินชิงเสว่เป็นอย่างมาก ใบหน้าของพวกหล่อนก็เกิดอาการไม่พอใจขึ้นมา
แต่จางขุยที่จ้องเขม็งมา ทำให้คอของพวกหล่อนนั้นหดลง ได้แต่ทำตัวว่านอนสอนง่ายเท่านั้น
กระบวนการในการซื้อบ้านนั้นค่อนข้างยุ่งยาก นั่นจึงทำให้ถังเฉาและหลินชิงเสว่นั้นได้แต่ยืนรออยู่ด้านข้าง
พนักงานขายนั้นแทบจะบริการพวกเขาราวกับเป็นเจ้าใหญ่นายโต แต่ท้ายที่สุดถังเฉานั้นก็รำคาญและส่งพวกเขาออกไป
ถังเฉายิ้ม “ดูเหมือนว่าฐานะของเจ้าหญิงคนโตจากตระกูลหลินนี่ก็จะใช้ได้ดีเหมือนกันนะ”
หลินชิงเสว่มองบน “ตอนนี้ไม่ใช่แล้วไง”
ผู้จัดการหลี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
ในเวลานี้ หน้าจอขนาดใหญ่ของสำนักงานขายกำลังแสดงโฆษณาอสังหาริมทรัพย์อีกรายหนึ่งอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม