ตอน บทที่ 704 ซอยตงเฉิน จาก เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 704 ซอยตงเฉิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ที่เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ผู้จัดการหลี่รีบขอให้พนักงานขายหยุดกระบวนการทุกอย่างทันที
ใบหน้าของหลินชิงเสว่นั้นทั้งแดงและขาว ร่างกายของเธอนั้นสั่นเทาไปด้วยความโกรธ
“ฉันทำตามที่พวกคุณต้องการแล้ว ยอมออกจากตระกูลหลินก็แล้ว ทำไมถึงยังไม่ปล่อยฉันไปอีก!”
ดวงตาของเธอจ้องเขม็งไปที่หลินอิ่นและถงเจิน ถามอย่างโกรธเคือง
หลินอิ่นพูดอย่างไร้สีหน้า “เพราะว่าเธอนั้นทำให้เราเสียลูกชายคนสำคัญที่สุดไปน่ะสิ”
“แม้ว่าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ตอนเริ่มต้นก็เพียงแค่อยากให้เธอนั้นกลับมาที่ตระกูลหลินก็เท่านั้น แต่เธอกลับเป็นฆาตกรที่ทำให้เขาต้องความจำเสื่อม!”
หลินชิงเสว่กัดฟันพร้อมกับโต้เถียงกลับไป “เขาต้องการให้ฉันกลับไปที่ตระกูลหลิน แต่ถ้าฉันกลับไปที่ตระกูลหลินแล้วอะไรจะรอฉันอยู่ล่ะ?เป็นพวกคุณนั่นแหละที่จะจัดงานแต่งให้แล้วก็รับผลประโยชน์จากมัน!”
หลินอิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นเธอแต่งงานกับคนที่ทำให้เป็นมลทินเมื่อห้าปีก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะ?”
“ถังเฉานั้นแข็งแกร่งกว่าพวกคุณหลายเท่า เดิมทีพวกคุณก็ไม่ได้รู้จักอะไรเขาเลย มีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงเขาขนาดนี้กัน?”
อารมณ์ของหลินชิงเสว่ในตอนนี้นั้นพังทลายลงมาแล้ว เสียงของเธอดังขึ้นเล็กน้อย
ถังเฉาดูฉากนี้อย่างเงียบๆพร้อมกับตบไหล่ของหลินชิงเสว่ เป็นการบอกว่าเธอไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว
หลินชิงเสว่หายใจเข้าลึกๆ ทำให้จิตใจที่ขึ้นๆลงๆของเธอในตอนนี้สงบและมั่นคง แต่ถังเฉายังคงเห็นว่าดวงตาของเธอนั้นยังแดงก่ำอยู่
คิดว่าภายในใจของเธอคงรู้สึกน้อยใจเป็นแน่
“เอาล่ะ ฉันจะเปลี่ยนบ้านก็แล้วกัน”
หลินชิงเสว่นั้นประนีประนอมยอมปล่อยบ้านที่เธอหมายปองในตอนแรกไป
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”
ทันใดนั้น สองสาวฝาแฝดก็ดีใจอย่างหากที่สุดไม่ได้ หัวเราะออกมายกใหญ่
จากนั้นทั้งสองก็เข้าไปกอดแขนซ้ายแขนขวาของจางขุย พูดอย่างหยาดเยิ้ม “คุณชายจางคะ เธอปล่อยบ้านแล้ว รีบซื้อรีบซื้อเร็วค่ะ!”
ดวงตาของจางขุยยังคงจดจ่ออยู่ที่หลินชิงเสว่ ในขณะนั้นเอง ความคิดอื่นก็ผุดขึ้นมาในใจของเขา
เมื่อเห็นท่าทางของหลินชิงเสว่ ดูท่าจะอยู่เยี่ยนจิงและพัฒนาต่อไปได้อีกไกล โดนตระกูลหลินขับไล่ออกมา มันคงจะเป็นประโยชน์มากหากเขานั้นติดต่อหลินชิงเสว่ไว้
จางขุยรีบซื้อบ้านโดยเร็ว อย่างไรก็ตามชื่อที่ใส่ก็เป็นชื่อของเขาเองอยู่ดี
สองสาวฝาแฝดนั้นก็ยังโง่หลงคิดว่าเขาจะเขียนชื่อพวกหล่อนลงไป
หลินชิงเสว่ตัดสินใจที่จะไปดูบ้านแบบอื่นแทน
บ้าน ขอแค่คนอาศัยอยู่ได้ก็พอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถงเจินก้าวไปข้างหน้าและหยุดเธออีกครั้ง “ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดนะ คอนโดชุนเจียงเฉิงนี้ขึ้นตรงต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลถงของฉัน ฉันเป็นคนตัดสินใจว่าจะขายให้กับใคร ไม่ต้องพูดว่าบ้านหลังก่อนหน้าไม่สามารถซื้อได้ ต่อให้เป็นบ้านแบบอื่น เธอก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี!”
“นอกจากนี้ สำหรับชุมชนคอนโดอื่นๆ เธอก็อย่าคิดว่าจะได้ราคาเดิม ที่ฉันบอกว่าจะให้เธอเร่ร่อนบนถนนนั้นฉันพูดจริงและทำจริงแน่นอน!”
ใบหน้าของถงเจินนั้นมีการเย้ยหยันอยู่ พูดกับหลินชิงเสว่ว่า “อีกเรื่องที่บริษัทของเธอต้องการเข้าสู่ตลาดเยี่ยนจิง ฉันจะบอกให้ว่าเป็นไปไม่ได้ อย่างแรกเลย คุณยังหาสถานที่ตั้งบริษัทไม่ได้ด้วยซ้ำ!ไสหัวกลับไปที่หมิงจูซะเถอะ!”
ทั่วทั้งสำนักงานขายนั้นก้องกังวานไปด้วยเสียงของถงเจิน ผู้จัดการหลี่และพนักงานขายทุกคนต่างมองด้วยความกลัว ใครจะไปคิดล่ะว่าหลินชิงเสว่จะโดนไล่ออกจากตระกูลหลิน จากนี้ไปไม่ใช่คุณหลินของตระกูลหลินอีกแล้ว
ตอนนี้ไม่มีใครกล้าสนับสนุนหลินชิงเสว่อีกต่อไปเพราะกลัวว่าจะไปทำให้เถ้าแก่ของพวกเขาขุ่นเคือง
สำหรับจางขุยและสองสาวฝาแฝด พวกเขาต่างมองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยรอยยิ้ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขานึกถึงท่าทางที่สูงส่งของเธอก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้กลับต้องมาจบชีวิตเร่ร่อนอยู่บนถนนซะได้ ในใจของพวกเขานั้นรู้สึกเบิกบาน
หลินอิ่นและถงเจินนั้นไม่มีความทรมานใจจากความละอายเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดถึงเรื่องที่ลูกชายความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้แต่ตนด้วยซ้ำ นั่นทำให้ความโกรธในใจของพวกเขาปะทุออกมา
“พวกเราไป”
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา หลินอิ่นและถงเจินก็ออกจากสำนักงานขายไปอย่างรวดเร็ว
จางขุยมาหาหลินชิงเสว่ด้วยรอยยิ้ม กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ชิงเสว่ ดูเหมือนว่าเธอจะเจอปัญหาเล็กน้อยนะ แม้กระทั่งที่ให้ซุกหัวนอนก็ไม่มี”
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร เธอหยิบกระเป๋าและรีบออกไป
“หากไม่มีที่ให้อยู่ ก็บากหน้ามาขอฉันได้นะ!”
จางขุยตะโกนเสียงดังจากด้านหลัง
ถังเฉาดูเย็นชา ดวงตามองลึกไปยังพวกเขา จากนั้นก็รีบออกไป
เมื่อกลับมาในรถ หลินชิงเสว่เอนศีรษะลงบนเบาะนั่ง เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
การเยาะเย้ยและความพ่ายแพ้นี้ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ แต่เธอนั้นรู้สึกว่าแรงกายกับใจนั้นไม่ค่อยไปด้วยกันสักเท่าไหร่
เมื่อก่อนเธอมีฐานะของเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลิน ทุกคนต่างกลัวเกรง
แต่ตอนนี้นั้นไม่ใช่อีกแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้หากอยู่ที่เยี่ยนจิง
มีหลินอิ่นและถงเจินคอยขัดขวางไม่ต้องพูดเรื่องการก่อตั้งที่เยี่ยนจิงเลย แม้กระทั่งหาที่อยู่อาศัยยังทำไม่ได้
แม้ว่าตระกูลถงนั้นจะสู้ตระกูลหลวงในเยี่ยนตูไม่ได้ แต่ก็ถือเป็นตระกูลที่ใหญ่โต พื้นที่หลักคือพวกอสังหาริมทรัพย์
“แม่ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อถังเสี่ยวลี่ลืมตาขึ้นมาและเห็นหลินชิงเสว่เอนกายอยู่บนเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า เธอไม่เพียงแต่ลืมตาที่สวยงามคู่นั้นออกมาแต่ยังถามออกไป
“แม่ไม่เป็นไรจ่ะ”
หลินชิงเสว่นั้นแสดงรอยยิ้มพร้อมกับกอดถังเสี่ยวลี่ไว้ในอ้อมแขนของเธอ
ถังเสี่ยวลี่ยังได้ลูบไปที่ศีรษะของหลินชิงเสว่อย่างเฉลียวฉลาดพร้อมกับพูดว่า “แม่คะ ถ้ามีอะไรไม่สบายใจบอกกับเสี่ยวลี่ได้เลยนะ เสี่ยวลี่จะช่วยแม่เองค่ะ”
ซื่อเหอย่วนแท้จริงแล้วก็คือการลงทุนครั้งใหญ่อย่างหนึ่ง
เหมือนอย่างที่ถงเจินได้พูดไว้ เธอไม่จำเป็นต้องเปิดตลาดเยี่ยนจิง
แต่ก่อน เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะประกอบอาชีพในเยี่ยนจิงเพื่อที่จะพิสูจน์ให้ตระกูลหลินเห็นว่าเธอสามารถพัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาตระกูลหลิน
ตอนนี้เธอไม่ใช่คนของตระกูลหลินอีกต่อไป การพิสูจน์จะมีประโยชน์อะไรอีก?
หลินชิงเสว่ถอนหายใจออกมา ไม่ได้อยากเห็นฉันเร่ร่อนอยู่บนถนนหรอกเหรอ?ถ้าอย่างนั้นฉันจะต้องเอาซอยตงเฉินมาให้ดูให้ได้!
ขณะเดียวกัน หลินอิ่นและถงเจินก็ได้กลับมาที่ตระกูลหลิน
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้ตรงกลับบ้านในทันที แต่กลับตรงไปที่ห้องสมุดของเว่ยหมิงจวินแทน --เดิมทีห้องสมุดนี้เป็นของหลินรั่วหวี หลังจากที่หลินรั่วหวีมอบอำนาจให้กับหล่อน ห้องสมุดนี้จึงเป็นของเธอชั่วคราว
“เรื่องอะไรน่ะ หมิงจวิน?”
ถงเจินถามด้วยรอยยิ้ม
เว่ยหมิงจวินปิดสัญญาพร้อมกับยืนขึ้น “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีฉันเพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อกี้ว่าพรุ่งนี้สมาคมการค้าเก้าราชาจะทำการเริ่มจับฉลาก ฉันเลยคิดจะถ่ายมันเอาไว้และเอาซื่อเหอย่วนมาให้แก่ตระกูลหลิน พอรั่วหวีกลับมา ฉันก็จะทำเซอร์ไพส์ให้เขาประหลาดใจเอง”
หลินอิ่นพยักหน้า “สิ่งนี้ดูน่าเชื่อถือได้ เก้าตระกูลใหญ่ในตระกูลหลวงเยี่ยนตูรวมถึงแปดตระกูลใหญ่ๆนั้นล้วนครองซื่อเหอย่วน แต่ตระกูลหลินเราไม่มี นั้นก็ไม่มีเหตุผลล่ะ”
การที่ตระกูลหลินนั้นกลายเป็นตระกูลหลวงก็เพราะหลินรั่วหวี ไม่งั้นคงไม่ได้ครองซื่อเหอย่วนเป็นแน่
เว่ยหมิงจวินมองไปที่ถงเจิน “เจินเจิน ตระกูลถงของเธอทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ลองดูหน่อยสิว่าพอจะหาจดหมายเชิญมาให้ได้สักสองสามฉบับไหม ฉันได้ยินมาว่าการจับฉลากครั้งนี้ คุณบ้าการค้า ผู้นำของสมาคมการค้าเก้าราชาก็จะมาปรากฏตัวด้วย หากลองหาโอกาสได้ทำความรู้จักกับคุณซางชื่อล่ะก็ ตระกูลหลินของเราคงพัฒนาไปได้ไกลเลยและสถานะตำแหน่งของตระกูลถงเองก็จะพลอยสูงตามไปด้วย!”
ประโยคนี้ทำให้ในใจของถงเจินเต้นอย่างแรง “โอเค เดี๋ยวฉันจัดการให้เอง พรุ่งนี้ตอนเช้าฉันจะรีบส่งจดหมายเชิญมาให้เลย!”
หลังจากที่ส่งหลินอิ่นและถงเจินกลับไป เว่ยหมิงจวินก็นั่งอยู่ในห้องสมุดเพียงลำพัง จิตใจตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
การจับฉลากของซอยตงเฉิน นี่จะเป็นสิ่งใหญ่อันดับแรกที่เธอจะทำหลังจากที่เธอกลายเป็นนางสนม
เธอต้องการพิสูจน์ให้หลินรั่วหวีเห็นว่าความสามารถของเธอนั้นแข็งแกร่ง ไม่อ่อนแอไปกว่าลั่วเย่นหัว!
กล่าวโดยสรุปก็คือ พรุ่งนี้ซอยตงเฉินของสมาคมการค้าเก้าราชาก็จะเริ่มทำการจับฉลากแล้ว!
ไม่เพียงแค่ตระกูลหลินเท่านั้น อีกแปดตระกูลใหญ่ต่างก็จับจ้องเฝ้ามองดูอยู่เช่นกัน
นี่ถูกกำหนดให้เป็นการรวมตัวกันของเหล่าผู้แข็งแกร่งทรงพลัง ที่จับตาคอยดูว่าใครจะเป็นเลขที่อยู่ในฉลาก
ขั้นตอนในการซื้อของซอยตงเฉินก็เป็นแบบนี้ คนที่จดหมายเชิญเท่านั้นจึงสามารถเข้าร่วมได้ ในบรรดาเหล่าลูกค้าที่มีจดหมายเชิญก็ยังต้องเข้าไปสู่การจับฉลากแล้วดูว่าจะจับได้ใคร
ความน่าจะเป็นนั้นน้อยกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ!
สุดท้ายคนที่มีสิทธิ์ในการซื้อก็คือคนที่อยู่ในสิบเปอร์เซ็นต์นั้น!
ยิ่งโหดร้าย คนก็ยิ่งบ้าคลั่ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม