“คุณหนูของตระกูลเย่ คุณเย่หรูอี้ นายเป็นคนทำให้เธอด่างพร้อยใช่มั้ย?
คำพูดที่เย็นชาของหวางเจี๋ย ดังสะท้อนอยู่ในรถตำรวจที่แคบๆ
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดประโยคนี้แฝงไว้ด้วยความหมายที่รุนแรง หรือเพราะว่าพลังเสียงหวางเจี๋ยที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ทำให้มือของคนขับสั่นไปหนึ่งที มือที่จับพวงมาลัยรถเสียสมดุลไป
รถขยับซ้ายขาวไปมาสองสามครั้ง จากนั้นถึงกลับสู่ปกติ
ไฟถนนที่สลัวทั้งสองข้างทางส่องเข้ามาทางช่องของรถตำรวจ เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างอยู่ใบหน้าของถังเฉาอย่างไม่แน่นอน
เขาเข้าสู่ในความเงียบ
และดวงตาทั้งสองข้างของหวางเจี๋ย ก็เหมือนกับไฟสปอร์ตไลท์ ที่พยายามจะส่องหาอะไรบางอย่างจากการแสดงออกของถังเฉา
แต่น่าเสียดาย เขากลับมองไม่เห็นเบาะแสอะไรเลย
ถังเฉาเงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยสายตาที่สงบ “หัวหน้าหวาง คุณคิดว่าผมเป็นคนทำจริงเหรอ?”
ฉึก!
เมื่อคำพูดนี้ออกมา หวางเจี๋ยโกรธมาก
“ไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใคร? ทั้งหมดมันก็มีหลักฐานแล้ว!”
หลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่ง หวางเจี๋ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขยับเข้าไปใกล้ถังเฉาเล็กน้อย กล่าวด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น “ไอ้หนุ่ม ฉันขอเตือนให้นายยอมรับผิดแต่โดยเร็ว ความผิดที่นายทำมันไม่ใช่คดีทั่วไปและมันก็รุนแรงมาก มันเกี่ยวข้องกับตระกูลหลวงทั้งสองตระกูล และมีผลกระทบต่อความสงบสุขของเยี่ยนจิง เบื้องบนให้ความสำคัญมาก ได้เริ่มสืบเรื่องนี้แล้ว”
ขณะที่พูดคำเหล่านี้ น้ำเสียงของหวางเจี๋ยยังแฝงไว้ด้วยความสั่น
ถ้าหากเป็นคดีขืนใจธรรมดา ก็คงไม่ทำให้คนแตกตื่นขนาดนี้ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็คงไม่ต้องเสียสละเวลาเลิกงาน มาทำคดี
ปัญหาคือ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เธอคือเย่หรูอี้ของตระกูลเย่นะ!
ฐานะของผู้หญิงนี้คนนี้ไม่ธรรมดา พูดได้ว่าจะส่งผลโดยตรงต่อความสัมพันธ์ที่สมานฉันท์กลมเกลียวระหว่างตระกูลถังและตระกูลเย่
เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลหลวงแย่ลง จนถึงขั้นเปิดศึกสู้รบกัน เมืองทั้งเยี่ยนจิง ก็จะพังทลายลง
เพราะว่าเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู ปัจจุบันนี้อยู่ในสถานะที่สันติกันอย่างมาก ขอเพียงมีสองตระกูลหลวงเปิดศึก ที่เหลืออีกเจ็ดตระกูลเป็นไม่ได้ที่จะไม่เข้ามายุ่ง เพราะมันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์มากมาย
ตระกูลหลวงทั้งสอง ก็ต้องมองหาพันธมิตร ไปขอความช่วยเหลือกตระกูลหลวงอื่นๆ ทีมสู้รบทีมใหม่ และการล้างไพ่รอบใหม่ก็จะเริ่มขึ้น
เรื่องนี้สำหรับเยี่ยนจิงแล้ว มันเป็นหายนะชัดๆ!
“ดังนั้นล่ะ?”
ทว่า ถังเฉากลับไม่ตกใจเลย
เป็นการเงยหน้าขึ้นที่สบายๆ ถามกลับไปหนึ่งคำ
“……”
ทันใดนั้น หวางเจี๋ยถูกถามจนอึ้งไปแล้ว อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
เขายังไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของปัญหาเหรอ?
หวางเจี๋ยระงับความโกรธที่อยู่ในใจของเขาแล้วพูดกับถังเฉา “ทางที่ดีที่สุดตอนนี้นายควรยอมรับผิด การสอบสวนจะได้ง่ายขึ้น มิเช่นนั้น มันก็จะไม่ง่ายแบบนี้แล้ว”
ฟังคำพูดประโยคนี้แล้ว ถังเฉาก็ฉีกยิ้มขึ้นมา
“แต่ว่าผมไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากับเย่หรูอี้ ผมนั้นถูกใส่ความ”
หวางเจี๋ยหัวเราะอย่างโกรธเคือง “หลักฐานแน่นหนา นายคิดว่าฉันจะเชื่อนายเหรอ?”
ถังเฉายังอยากจะพูดอะไรอีก หวางเจี๋ยกลับตัดบทเขาโดยตรง
“เอาล่ะ มีอะไร รอให้ไปถึงโรงพักแล้วค่อยพูด”
เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน มองไปท้องฟ้าที่มืดมิด
คืนนี้ ก็เป็นอีกคืนที่นอนไม่หลับแล้ว.........
ถังเฉาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมจะโทรหาหลินชิงเสว่
ตำรวจทั้งหมดที่นั่งอยู่โดยรอบรถมองเขาอย่างกับศัตรู ถึงขนาดยกปืนพกขึ้น และชี้ไปที่หัวของถังเฉา
“นายคิดจะทำอะไร?”
หวางเจี๋ยสูบบุหรี่ไปหนึ่งคำ กล่าวอย่างเย็นชา
ถังเฉาพูดอย่างทำอะไรไม่ได้ “ฉันจะโทรบอกภรรยาว่าคืนนี้จะกลับบ้านดึกหน่อย”
หวางเจี๋ยเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ ชื่อผู้ติดต่อที่โชว์อยู่ก็คือคำว่าชิงเสว่ ทำให้เขาคิดถึงหลินชิงเสว่องค์หญิงใหญ่ตระกูลหลิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม