ติ๊กตอก.......
ติ๊กตอก..........
เข็มวิธีนาฬิกาเคลื่อนตัวไปทุกวินาที แต่เวลาก็ยังคงเชื่องช้า
ค่ำคืนนี้ มันยาวนานเหมือนกับหนึ่งทศวรรษ
ค่ำคืนที่นอนไม่หลับ ก็ต้องมีคนนอนไม่หลับเป็นจำนวนมาก
ณ หย่วนหยางกรุ๊ป ห้องทำงานของประธาน
เย่หรูอี้ที่สวมชุดทำงานก็มีเสน่ห์ที่พิเศษไปอีกแบบหนึ่ง เช่นเดียวกันกับโต๊ะทำงานของเธอตั้งอยู่ข้างบานหน้าต่างขนาดใหญ่ และเธอเพียงแค่เอียงศีรษะเล็กน้อย ก็สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกแบบพาโนรามา
ตอนนี้ เธอก็เห็นรถที่เร่งรีบคันแล้วคันเล่า ขับมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน
ฉูบ ฉูบ ฉูบ!
ตู๊ม ตู๊ม ตู๊ม!
ในเวลาเดียวกัน ก็มีปืนใหญ่ถูกยิ่งขึ้นบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง ระเบิดกลางท้องฟ้าที่มืดมิด
ฉูบ ฉูบ ฉูบ!
ไม่ไกลนัก เฮลิคอปเตอร์หลายลำบินไปข้างหน้า และหายวับไปอย่างรวดเร็ว
ภาพนี้ เย่หรูอี้ไม่ได้แปลกใจเลย แววตายังคงสงบ
“ท่านประธาน มีแขกมาขอพบ”
เวลานี้ ประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามา เลขาเดินเข้ามาอย่างสุภาพ
“ให้เธอเข้ามาเถอะ”
เย่หรูอี้ราวกับว่ารู้แล้วว่าใครที่ต้องการพบตัวเอง กล่าวด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง
เลขาพยักหน้า ออกไปทันที
ไม่นานนัก เสียงกระแทกดังขึ้นหนึ่งที ประตูห้องทำงานถูกคนผลักอย่างแรง
คนที่ผลักประตูดูเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่โกรธจัด โดยใช้บานประตูเป็นตัวช่วยระบายความโกรธ เสียงแทะๆดังอย่างต่อเนื่อง
เสียงเดินของรองเท้าส้นสูงที่เร่งรีบดังมา ตรงหน้าของเย่หรูอี้ ก็ปรากฏขึ้นด้วยผู้หญิงคนหนึ่งที่รูปร่างสูงเพรียว ใบหน้าที่สวยงามเยือกเย็นดั่งภูเขาน้ำแข็ง
ผ้าก๊อซหนาถูกพันรอบหน้าผากของเธอ และมีรอยเลือดที่มองเห็นได้อย่างจางๆภายใต้ผ้าก๊อซสีขาวที่ขาวเหมือนหิมะ
“คุณบาดเจ็บเหรอ”
เย่หรูอี้มองหลินชิงเสว่ จู่ๆก็ยิ้มขึ้นมาทันที
“มันไม่สำคัญ”
หลินชิงเสว่พยายามระงับไฟโกรธในใจเธอ นั่งลงตรงหน้าของเย่หรูอี้ กล่าวอย่างเย็นชา “ทำให้มันมีสภาพการณ์แบบนี้ คุณพอใจแล้วหรือยัง?”
เย่หรูอี้ตกอยู่ในความเงียบทันที และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“ในแง่ของความรู้สึกดีๆกับตัวเอง ฉันพอใจมาก นอกจากลั่วเย่นหัวเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สามารถสร้างความโกลาหลอลม่านในเยี่ยนจิงได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของหลินชิงเสว่ยิ่งเย็นชามากขึ้น สายตาที่คมดั่งมีดจับจ้องอยู่บนหน้าเธอ “ดังนั้น คุณยอมรับแล้วว่าคุณเป็นคนทำ?”
“อะไรที่ฉันทำ?”
เย่หรูอี้มองเธอเหมือนผู้บริสุทธิ์ แล้วถามกลับ “ฉันไม่ได้ยอมรับเสียหน่อย ก็แค่โยนอิฐออกไปหนึ่งก้อน คิดไม่ถึงว่าจะสามารถล่อหยกชิ้นใหญ่ขนาดนี้ได้ เห่อๆ คุณมองคนในแง่ดีเกินไปแล้ว”
“……”
เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ หลินชิงเสว่ก็ตกอยู่ในความเงียบ
มันก็จริง วันนี้ที่สถานการณ์มันวุ่นวายขนาดนี้ มันเป็นเพราะฝีมือของเย่หรูอี้คนเดียวเหรอ?
แน่นอนจะมาเหมาว่าเธอทำทั้งหมดนั้นคงไม่ได้
คนเรามีเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา สำหรับในเรื่องเดียวกัน มีความคิดที่ไม่เหมือนกัน
ก็เหมือนกับที่เย่หรูอี้พูด โยนอิฐเพื่อล่อหยก (ใช้กุ้งฝอยตกปลากะพง)
เธอแค่สร้างความปั่นป่วนเล็กน้อย แต่ถังหลินกลับทำเรื่องให้ครึกโครมใหญ่โต? เพื่ออะไร?
ก็เพื่อศักดิ์ศรี เพื่อหน้าตา
กลับเปิดการโหมโรงของความโกลาหลนี้
เมืองเยี่ยนจิงทั้งเมือง โกลาหลไปโดยสิ้นเชิง
มีพวกที่กำลังยุ่งมาก มีคนที่คอยดูไฟจากอีกด้านหนึ่ง มีพวกที่แสวงหาผลประโยชน์ และ.....พวกที่แก้แค้น
แปะ แปะ
แปะ แปะ
เย่หรูอี้หัวเราะขึ้นมาเบาๆ ปรบมืออย่างเบาๆ ถอนหายใจออกมาจากใจ “วิเศษมาก วิเศษมากจริงๆ เก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู ดำรงอยู่นานพอแล้ว ได้เวลา...สับไพ่ใหม่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม