เจ้ามังกรพรีเมี่ยม นิยาย บท 829

สรุปบท บทที่ 829 สิบระดับหัวหน้า: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

ตอน บทที่ 829 สิบระดับหัวหน้า จาก เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 829 สิบระดับหัวหน้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต เจ้ามังกรพรีเมี่ยม ที่เขียนโดย เป๋ต้งสู่เพี่ยน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ภายในโถงจัดงานแต่งงานครั้งนี้แขกเหรื่อที่ชุมนุมกันอยู่มีจำนวนประมาณหนึ่งในสี่ที่เป็นกลุ่มในเครือตระกูลเมืองซื่อจิ๋ว

ผู้ที่เห็นกับตากับเหตุการณ์ที่หวังเชาถูกเฟิ่งหวงเตะกระเด็นไปนั้น น่าจะอยู่ที่หนึ่งในสิบของบรรดาแขกเหรื่อทั้งหมด

นั่นหมายถึงว่า ผู้ที่รู้เรื่องฐานะของถังเฉา มีไม่มาก

เวลานี้เย่จงซือได้เปิดเผยถึงฐานะของถังเฉา จึงพาเอาคนที่อยู่นั้นขวัญสะเทือน

เจ้ามังกรในงานประชุมแดนเหนือ ก็เป็นเป้าหมายที่กลุ่มอิทธิพลของเมืองซื่อจิ๋วหวังแย่งดึงตัวมาเข้าพวก แต่ว่าเจ้าตัวนั้นเหมือนมังกรเทพ เห็นหัวไม่เห็นหาง ไม่มีทางจะไปตามหาตัวได้เลย

ไม่คิดว่าจะได้มาปรากฏตัวในที่นี้

อีกทั้งพอปรากฏตัว ก็ปะทะเข้ากับตระกูลหลวงตระกูลเย่เข้าให้

ในขณะเดียวกัน ผู้ที่ตั้งใจฟังละเอียดให้ดี ยังได้ยินแว่ว ๆ ที่เย่จงซือกล่าวพาดพิงถึงตระกูลหลวงตระกูลฉู่ด้วย

หรือจะเป็นได้ไหมว่า เจ้ามังกรได้รับเชิญมาจากฉู่หยังแห่งตระกูลหลวงตระกูลฉู่?

คิดมาดังนี้ ทุกคนต่างให้รู้สึกผวางง ฉู่หยังอยู่ในตระกูลหลวงตระกูลฉู่ ไม่ได้อยู่ในระดับแกนนำ กระทั่งแม้แต่ก่อนหน้านี้ยังไปโดนหลงเจียเจียซึ่งเป็นธิดาสาวตระกูลหลงเล่นงานเป็นที่อับอายต่อหน้าสาธารณะชน

คนประเภทนี้ ยังจะสามารถผูกสัมพันธ์กับคนระดับยิ่งใหญ่นี้ได้หรือ?

แต่ก็มีอีกจำนวนคนไม่น้อยมองฉู่หยังในระดับสูง ถึงขนาดเล่าขานกันว่า ฉู่หยังไม่ใช่คนเกะกะอย่างที่ร่ำลือกัน

“ฮัดเช้ย!”

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ฉู่หยังซึ่งกำลังเริงสราญอยู่ในสโมสรแห่งหนึ่งจามออกมาอย่างแรง

ขยี้ ๆ จมูกที่ออกอาการคัด สบถกระปอดกระแปด “แม่งเอ๊ย ใครนินทาข้าอยู่ลับหลังวะ!”

……

โดนสายตาทุกคู่ของคนทั้งงานจ้องใส่ ถังเฉาก็ยังไม่รู้สึกตื่นตระหนก กลับพูดด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ “เกินไป?ถ้าคุณเรียกแบบนี้ว่า ‘เกินไป’ ถ้างั้นสิ่งที่ผมจะพูดคือ เรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป คุณจะต้องรู้สึกว่ายิ่งไปกว่าเกินไป”

“……”

เย่จงซือสีหน้าขรึมลง

โอหัง

ใจกล้าซ่าระห่ำ

ไม่เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตา!

แต่ทว่า ตัวเขาเองก็มีความรู้สึกไม่เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตาเป็นทุนเดิมเหมือนกัน

ถ้าหากว่าเขาไม่เตรียมเชิญเอานักบู๊ระดับหัวหน้าจากศูนย์กลางสมาคมการต่อสู้สิบกว่าคนนี้มา ลำพังอาศัยนักบู๊ของคนตระกูลเย่ น่ากลัวคงจะต้องปล่อยให้เขาข่มเหงตามอารมณ์ใจ สมรรถนะกำลังของสองฝ่ายเห็นชัดว่าต่างชั้นกันคนละระดับ

“มันจะมากไปแล้ว!”

เย่หยวนซันแห่งตระกูลเย่ตบโต๊ะอย่างแรง เดือดแค้นเต็มสุด

ในสภาวะปกติ เย่หยวนซันจะไม่ยอมโกรธกริ้วเด็ดขาด แต่คำพูดของถังเฉา ขุดถึงก้นบึ้งแล้วก็เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตาเลย เขาจึงถูกกระตุ้นให้โกรธขึ้นมา

“ไอ้เด็กโอหัง ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ คิดแล้วหรือว่าตัวเองนั้นไร้เทียมทานไปทั้งโลก?”

“ท่านปู่พูดถูก ให้มันเชิดหน้าในนามเจ้ามังกร ก็ไม่มีระดับพอที่จะมองข้ามพวกเราตระกูลเย่”

เย่จงซือได้ทีพูดเสริม สายตาเย็นเยือก “ไอ้เด็กน้อยคนนี้คิดชิงเจ้าสาวหนีไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง มันก็สร้างให้ทุกคนเจ็บแค้นแล้ว บอกเหตุผลที่จะไม่ให้พวกเราฆ่ามันหน่อยซิ”

สายตาของถังเฉาก็มองตามไปที่เย่เทียนหลง แต่ไม่ได้มองอยู่นาน ย้อนกลับไปที่เย่จงซือ

พูดเสียงชืด ๆ “เขาเป็นเพื่อนเก่าที่ผมรู้จัก นี่คือเหตุผล พอไหม?”

“ไร้สาระ!ไร้สาระที่สุด!”

เย่จงซือโกรธจนหัวเราะ “คงเพราะเป็นเพื่อนเก่าของคุณนี่แหละ พวกเราจะฆ่ามันทิ้งเสีย คุณจะหน้าใหญ่พอมารับไหม?”

ถังเฉาก็ไม่ได้ออกโกรธ เพียงแต่ส่ายหน้า “ความอดกลั้นของผม ก็มีขีดจำกัดนะ ขอเตือนให้คุณมีเมตตา”

ส้วบ!

คำพูดเพียงจบ เฟิ่งหวงที่อยู่ข้างหลังซัดมีดบินเข้าใส่อย่างไม่รอฟังเสียง

เย่จงซือสีหน้าออกไม่เห็นเป็นเรื่อง เอียงหลบไปนิด อย่างเฉียดฉิวมาก ๆ หลบการจู่โจมของมีดนั้น

แต่ทว่า เขารู้สึกในความเจ็บแปลบ เลือดแดงสดไหลเยิ้มตามร่องแก้ม

ฉับพลันนั้น ผู้คนที่อยู่ข้างล่างเวที ต่างตกใจผวา ไม่ใช่เพราะการจู่โจมของเฟิ่งหวง แต่เป็นเย่จงซือ----แท้ที่จริงก็เป็นระดับฝีมือ

เย่จงซือหน้าเครียด “แกกล้าแอบจู่โจม?”

เฟิ่งหวงพูดเย้ย “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้หรือ ใครกล้าใช้วาจาเสียมารยาท ฉันจะตัดลิ้นมันทิ้ง”

และแล้ว แววตาเย่จงซือเยือกเหี้ยมสุด ๆ

มองจากแววตาเฟิ่งหวง เขามองเห็นจิตวิญญาณเรื่องฆ่าจริง ๆ

ก็คือ เฟิ่งหวงพร้อมที่จะทำเช่นนั้นจริง ๆ

“ถ้าจะเป็นอย่างนั้น ก็อย่ามาว่าตระกูลเย่เราไม่ให้เกียรติแล้วละนะ!”

เย่จงซือพูดเสียงเยือก

ถังเฉายังคงพูดอย่างดูสุภาพว่า “ผมก็อยากจะขอรับชม วิธีที่คุณไม่ให้เกียรติกับผมว่าเป็นอย่างไง”

“ใช่แล้ว ผมเกิดนึกเปลี่ยนใจขึ้นมาละ”

ในชั่ววินาทีเดียวนั้นเอง ถังเฉาหัวเราะกวน ๆ พูดว่า “ผมไม่เพียงแต่จะเอาเย่เทียนหลงไปเท่านั้น เจ้าสาวที่แต่งงานวันนี้ ก็จะขอเอาไปด้วย”

บรูม!

ว่ากันอย่างเอาแบบไม่ตายไม่เลิก

พอคำนี้พูดออกไป คนทั่วทั้งบริเวณงานเสียววูบเข้าไปในตา ใจผวาสุดเครียด

นี่จะเอากับตระกูลเย่ขนาดไม่ตายไม่เลิกเลยหรือ?

คนในตระกูลเย่ทั้งหมด สีหน้าเยือกเหี้ยมลงสุด ๆ

โดยเฉพาะเย่จงซือ แววตาที่จ้องไปยังถังเฉานำพาไปด้วยใจมุ่งจะฆ่าเต็มที่

แต่ทว่า ก็มีคนที่ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว นั้นก็คือเย่เซ่าเตี๋ย

หล่อนทำหัวเราะคิกคัก ก็ไม่กลัวว่าเย่จงซือจะได้ยิน ยิ้มกรุ้มกริ่มพูดไปว่า “ดูท่า แผนของใครบางคนจะผิดพลาดซะแล้ว นี่ถ้าเกิดเป็นว่า น้องสาวลูกพี่ลูกน้องคนนี้ของเราได้แต่งงานกับสามีดี ๆ คนแรกที่จะถูกเช็คบิล คงเป็นคุณแน่”

“แกเงียบไปเลยนะ!”

เย่จงซือคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

มาในรูปการณ์ขนาดนี้แล้ว เขาไม่สนใจที่ต้องวางบุคลิกอยู่ในความเป็นพิธีกรงานแล้ว ในใจคิดแต่ว่าไว้ให้จัดการเย่หรูอี้เสร็จ คนต่อไปก็คือเย่เซ่าเตี๋ย

เย่หรูอี้ได้แต่ยืนมองตรงที่เงาหลังของถังเฉา ในใจมีแต่ความคิดที่ว้าวุ่น

ในห้วงความคิดของหล่อน ก็ย้อนกลับไปยังงานแต่งงานของพวกเขาที่ลงท้ายก็ไม่จบเมื่อห้าปีก่อนนี้

พอได้ยินดังนั้น ถังเฉาแวบประกายวาบขึ้นในดวงตา เฟิ่งหวงก็ให้รู้สึกตื่นใจเต็มหน้า

ดูท่า เย่จงซือคนนี้ก็มีที่ไม่ธรรมดาอยู่บ้าง รู้จักการวางแผนล่วงหน้า

เคว้ง!เคว้ง!เคว้ง!

ขณะนั้นเอง ประตูใหญ่ทางเข้าของงานเปิดออก เงาร่างสูงใหญ่คนสิบกว่าตนเดินเข้ามา

แต่ละตัวตนดูราวภูผาปีศาจ เพียงแค่เห็น ก็เกิดเป็นแรงกดดันมหึมา

สายตาพวกเขาแต่ละคนเฉียบคม กวาดมองไปรอบ ๆ ทำเอาทั้งบริเวณเงียบเสียงกริบอย่างฉับพลัน

ภาพลักษณ์ของสิบคนที่เข้ามา สร้างอานุภาพสยบบรรยากาศทั้งบริเวณ

ถังเฉาหรี่ตามองไป สภาพการณ์แบบนี้ คงต้องใช้ความตั้งใจมากขึ้นสักนิด

เฟิ่งหวงเริ่มรู้สึกเหมือนได้เจอข้าศึกที่น่ากลัว มองพวกคนเหล่านี้ ล้วนให้เห็นถึงแววนักฆ่า และกระหายจะทำศึกอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะสิบคนที่เดินอยู่หน้าสุด แต่ละคนดูใหญ่โตแข็งแกร่ง แม้แต่เฟิ่งหวง ก็ให้รู้สึกมีความกดดัน

แต่ว่า เพียงถ้าพวกมันกล้าลงมือกับท่านรองหัวหน้า เฟิ่งหวงจะต้องลุยขึ้นหน้าอย่างเด็ดขาด

“เย่จงซือ ดูแล้วคุณไม่ได้หลอกพวกเราเลยนะ มีคนก่อกวนจริง ๆ คน ๆ นี้ถูกปากสำหรับพวกเรามาก”

สิบระดับหัวหน้าชิงกันพูด น้ำเสียงแต่ละคนโอหัง

“ฮา ๆ ๆ ข้าจะไปหลอกพวกท่านได้ยังไง?”

เย่จงซือหัวเราะปากกว้าง แล้วชี้ไปที่ถังเฉา “ไอ้คน ๆ นี้แหละที่มาก่อกวนงานแต่งงาน และยังเป็นม้ามืดในงานประชุมแดนเหนือ ต้องขอไหว้วานพวกท่านหัวหน้าทั้งสิบแล้วแหละ”

ฉัวะ ๆ ๆ!

ในทันทีนั้น สายตาทุกคู่ของสิบระดับหัวหน้ารวมศูนย์ไปที่ตัวถังเฉา

ถ้าให้เป็นคนอื่น ป่านนี้คงช็อคเป็นลมไปแล้ว แต่ถังเฉายังคงปักแน่นอย่างภูเขาไท่ซาน

สิบระดับหัวหน้าหัวเราะคิก “ประชุมแดนเหนือกระจอก ๆ ทำให้แกทำก๋าได้ขนาดนี้ ได้กันกี่คะแนนยังไม่รู้เลย”

“ใช่เลย ลองถ้าพวกเราไป คิดหรือว่าจะมีโอกาส?”

พวกเขามองถังเฉาด้วยสายตาหมิ่นแคลน

“……”

แววตาเฟิ่งหวงเยือกวูบ สะกดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ตัดสินใจจะลงมือ

ถังเฉายื่นมือออกขวางไว้อย่างทันด่วน

“รอเดี๋ยว”

ถังเฉาอ้าปากหัวเราะ เขาบังเอิญเห็นคนที่หน้าตาคุ้นเคยมากเข้าคนหนึ่ง

ในสิบระดับหัวหน้านั้น มีอยู่คนหนึ่ง กลับเป็นคนที่ถังเฉาเคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง

นั่นก็คือกู่ชิงในศูนย์สมาคมการต่อสู้

ก่อนหน้านี้ที่ตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวง เคยถูกถังเฉาจัดให้ไปเป็นหินลับมีดให้แก่เจียงไป๋เสว่

กู่ชิงให้รู้สึกเหมือนมีอะไรสะกิดใจ สายตาประสานเข้าด้วยกันในพริบเดียวนั้นเอง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก้าวถอยหลังไปอย่างไม่ตั้งใจ

“เป็นเขา......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม