เมื่อเกิดความคิดนี้ ถังเฉาเองก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นบ้ามาก
แต่แท้จริงแล้วมันใช่อย่างที่คิดหรือไม่ ยังต้องพิสูจน์อีกที
"ดังนั้น สิ่งที่คุณอยากจะบอกก็คือ แม่ของคุณเป็นหญิงนักบุญสามของตระกูลเย่ และยังถือว่าเป็นคนของราชวงศ์ต้าเซี่ยด้วย ฉะนั้นผมจะฆ่าคุณไม่ได้ใช่ไหม?"
ถังเฉามองไปที่เย่จงซือ และถามเบาๆ
เย่จงซือเงยหน้าขึ้นมองและพูดด้วยเสียงสั่นเทาว่า "ข้าบอกเรื่องทุกอย่างที่ข้ารู้ให้แกแล้ว แกปล่อยข้าไปเถอะนะ!"
"ถ้าแกปล่อยข้าไป ข้าขอสัญญาว่า ข้าจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น และเราจะไม่พบกันอีก!"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่จงซือพูด ถังเฉาก็หัวเราะออกมา
"เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังคิดว่าจะรอดไปได้อีกเหรอ?"
ขณะที่พูดอยู่ ถังเฉาก็ยื่นมือออกมาบีบคอของเย่จงซือและยกเขาขึ้นจากพื้น
"โอ๊ย ๆ ๆ……"
เย่จงซือตกใจมาก ลำคอของเขายังคงเปล่งเสียงกรีดร้องอย่างอ่อนล้า
ถังเฉาเพิ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ
"ช่างกล้านะ ไอ้สารเลว!"
ทันใดนั้น เสียงตะโกนด้วยความโกรธจนขีดสุดและเสียงลมกระโชกดังขึ้นจากด้านหลัง
รู้สึกได้เลยว่าเมื่อเสียงตะคอกนี้หยุดลง บรรยากาศในบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง
ถังเฉาไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเย่จงเวิ่นบุกมาแล้ว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
พายุรุนแรงพุ่งเข้าหาถังเฉา และตรงไปที่แขนของถังเฉาที่กำลังบีบคอเย่จงซืออยู่
เสียงโครมดังขึ้น ถังเฉาปล่อยเย่จงซือลงและโยนเขาออกไปเหมือนกระสอบทราย
"เอื้อก!"
ในขณะที่ถูกถังเฉาเหวี่ยงออกไป เย่จงซือรู้สึกว่าโลกทั้งใบมันหมุนเร็วขึ้น พร้อมกับเสียงวิ้งในหู ทำให้เขาท้องไส้ปั่นป่วนและกำลังจะอาเจียนออกมา
เมื่อเห็นอย่างนี้ สีหน้าของเย่จงเวิ่นก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้หลบหนี แต่ยังรับเย่จงซือไว้ทันที
ปัง!
ด้วยเสียงกระแทกที่ดังขึ้น ทำให้เย่จงเวิ่นต้องถอยหลังไปหลายก้าว
ถังเฉาเหวี่ยงเย่จงซือออกไปเหมือนกับกระสอบทราย และสามารถบอกได้ว่าของที่เหวี่ยงออกไปนั้นมันเหมือนอุกกาบาตที่มนุษย์สร้างขึ้น เย่จงเวิ่นที่เข้าไปฝืนรับเย่จงซือก็ต้องเสียแรงไปไม่น้อยเหมือนกัน
"พ่อครับ ดีจังเลยที่พ่อยังไม่ตาย……"
เมื่อได้เจอเย่จงเวิ่นอีกครั้ง เย่จงซือก็เริ่มทนไม่ไหว ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มแดงขึ้น และในที่สุดเขาก็ร้องไห้ออกมา
เย่จงเวิ่นมองไปที่เขาและพูดเบาๆ ว่า "ไม่ต้องหนีแล้ว ไปนั่งดูข้างๆ ไป"
จากการถูกถังเฉาตามติดเหมือนเงาในก่อนหน้านี้ แม้เขาจะหนีไปสุดขอบโลกแต่ถังเฉาก็สามารถตามทันอย่างง่ายดาย เขาจึงคิดว่าหนีต่อไปก็ไร้ประโยชน์แล้ว
หกทางเดียวที่เขาจะปลอดภัยก็คือให้พ่อของเขาเอาชนะถังเฉาให้ได้
เย่จงเวิ่นมองไปที่ถังเฉาและพูดด้วยสายตาหม่นหมองว่า "ไอ้หนู ต้องไล่ตามขนาดนี้เลยเหรอ?"
บู้มมม!
คำตอบที่เขาได้รับคือกำปั้นที่หนักหน่วง
ถังเฉามาถึงตรงหน้าในชั่วพริบตาและใส่แรงทั้งหมดลงไปในหมัดนั้น
ถ้ารู้ว่าต้องสู้ ก็สู้เลยไม่ดีกว่าหรือ
เย่จงเวิ่นไม่กล้าละสายตา และออกหมัดปะทะกับถังเฉา
เป็นผลทำให้ถังเฉาไม่เป็นไร แต่เย่จงเวิ่นเองกลับกระเด็นถอยออกสิบกว่าก้าว
การแสดงออกที่ไม่แยแสของถังเฉา ทำให้เย่จงเวิ่นเกิดคลื่นมหึมาในใจ
เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของเขามาก แต่กลับต้องกระเด็นออกมาสิบกว่าก้าวโดยหมัดอันทรงพลังของถังเฉา
เป็นครั้งแรกที่เย่จงเวิ่นรู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลนี้
เขามองไปที่ถังเฉาแล้วพูดด้วยดวงตาที่หม่นหมองอีกครั้ง "จงผ่อนปรนเมื่อใดก็ได้เมื่อเป็นไปได้ ถังเฉา ข้าไม่ได้มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับแก แล้วแกทำไมถึงต้องอคติแบบนี้ด้วย!"
“อคติ?”
ถังเฉาทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ "เรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว ผมจะไม่อ้อมค้อมอีก ทุกอย่างมีเหตุก็ย่อมมีผลที่ตามมา พวกคุณพ่อลูกได้กระทำต่อเย่หรูอี้สองแม่ลูกเมื่อยี่สิบปีก่อน จนกระทั่งถึงแก่ชีวิต เรื่องนี้มันไม่อาจชดใช้ได้ ฉะนั้น วันนี้ลูกชายคุณต้องตาย ไม่มีใครมาหยุดได้!"
ถังเฉาย่างเท้าเข้ามาและพูดอย่างไม่แยแสว่า "วันนี้ผมก็จะฆ่าลูกชายคุณต่อหน้าคุณ"
บู้มม!
ทันทีที่พูดจบ เขาก็ตรงเข้าไปหาเย่จงซือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม