“ฮือ ๆ ......”
หลังจากเสียงข่มของหงโฝแล้ว ทันใดนั้นเสือที่น่าเกรงขามก็คลานลงมาเหมือนลูกแมวตัวหนึ่ง อุ้งเท้าใหญ่ทั้งสองข้างยังยกขึ้นและกุมศีรษะของมันไว้
ออร่าที่ดุร้ายก่อนหน้านี้ได้หายไปในทันที
ผู้คนทั่วทั้งบริเวณของบ้านตระกูลหลินก็ตะลึงงันและแสดงสีหน้าตกใจ
แม้แต่หลินจิ่วจิ่วก็ตกตะลึงเช่นกัน สองตาของเธอได้แต่จับจ้องไปที่หงโฝ
เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมีอายุเพียงแค่สิบเอ็ดหรือสิบสองขวบเท่านั้น แต่เธอสามารถทำให้เสือดุร้ายตัวนี้ตกใจได้ด้วยเสียงข่มของเธอได้
ช่างน่าทึ่งจริงๆ!
หลินจิ่วจิ่วขยี้ตาและสงสัยว่าตัวเองตาฝาดไป แต่หลังจากตาสว่างแล้วทุกอย่างตรงหน้ายังคงเป็นภาพเดิม
หงโฝจ้องเขม็งไปที่เสือตัวอย่างเคร่งขรึม
แต่เสือตัวนั้นกลับคลานอยู่ข้างๆ หงโฝและตัวสั่นเทา ราวกับว่ามันกลัวหงโฝมาก
“นี่มัน......เป็นไปได้ยังไง?”
หลินจิ่วจิ่วรู้สึกน่าทึ่งมาก เพราะว่าเสือที่ดุร้ายตัวนี้ยังไม่เชื่องสำหรับเธอเลย!
แต่ต่อหน้าหงโฝ มันกลับเชื่องมาก
แต่อย่างไรก็ตาม มันยังไม่จบเท่านี้
หงโฝเดินเข้ามาหาเสือตัวนั้นแล้วชูกุญแจอายุยืนที่อยู่ในมือขึ้น
เสือคิดว่าหงโฝกำลังจะทำร้ายมัน ดังนั้นมันจึงรีบกุมหัวไว้แน่นๆ
หงโฝทำเสียงฮึดฮัด แต่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายมัน จากนั้นเธอใช้กุญแจอายุยืนในมือไปคล้องคอของเสือตัวนั้นไว้
ซึ่งขนของเสือตัวนี้แน่นมาก เมื่อกุญแจอายุยืนถูกสวมเข้าไปมันก็จมอยู่ใต้ขนของเสือทันที
หลังจากตกตะลึงไปสักพัก หลินจิ่วจิ่วก็ตั้งสติได้และสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธ
เธอรู้สึกอับอายมาก
ทั้ง ๆ ที่เสือตัวนี้เป็นของเธอ และมันไม่ได้ถูกเธอฝึกให้เชื่อง แต่ยังไปทำตัวเชื่องต่อเด็กผู้หญิงอายุแค่สิบสองขวบคนนี้
“เสี่ยวแปด กลับมานี่!”
หลินจิ่วจิ่วตะโกนอย่างเสียงดัง
“โฮก!”
แต่แล้ว เสือที่ถูกสวมกุญแจอายุยืนตัวนี้ไม่เพียงแต่ไม่กลับมาหาเธอ แต่ยังคำรามอย่างดุร้ายใส่เธอด้วย
“ลุกขึ้น ยื่นมือมานี่!”
หงโฝก็ออกคำสั่งเช่นกัน
“โฮก!”
เสือยืนขึ้นอย่างเชื่อฟังและยื่นกรงเล็บอันแหลมคมของมันไปให้หงโฝ
หงโฝก็สัมผัสมันและจับมือกับเสืออย่างกล้าหาญ
“......”
ซึ่งภาพนี้ ทำให้ทุกคนในตระกูลหลินถึงกับตกใจมาก รวมไปถึงหลินจิ่วจิ่วด้วย
ทุกคนถึงกับถูกสตั๊นไป
ทำไมเสือตัวนี้ถึงจับมือเหมือนคนไปได้?
“มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
หลินจิ่วจิ่วพึมพำกับตัวเอง และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ถังเฉาก็มองไปที่หงโฝอย่างประหลาดใจเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาตัดสินใจถูกแล้วที่เชิญหงโฝมา
เพราะถ้าหากให้เขาเป็นผู้เผชิญหน้ากับเสือตัวนี้ เขาอาจต้องเลือกวิธีฆ่าอย่างเดียวเท่านั้น
หงโฝพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นนำกุญแจอายุยืนออกแล้วสวมไว้ที่ศีรษะของเธอ
“นั่น......นั่นมันอะไรกัน? เธอเป็นใครกันแน่?”
การเคลื่อนไหวของหงโฝทำให้หลินจิ่วจิ่วตกตะลึงอย่างที่สุด
หงโฝยิ้มพูดเบาๆ ว่า “ฉันชื่อหงโฝ มาจากสำนักกู่ในเหมียวเจียง”
“สำนักกู่ในเหมียวเจียง......”
นัยน์ตาอันงดงามของหลินจิ่วจิ่วเต็มไปด้วยความตกใจ และรู้สึกว่าสถานที่ที่พูดถึงนี้มันคุ้นหูมาก
ขอเพียงแค่เป็นกลุ่มคนที่ชอบการท่องเที่ยว ไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินเหมียวเจียงแห่งนี้เลย
แต่เหมียวเจียงเป็นเพียงเรื่องเล่าขานกันเท่านั้น บางคนลือกันว่าเหมียวเจียงจะอยู่ด้านหลังของบึงฉีชวน
เมื่อเดินผ่านที่ลุ่มอันกว้างใหญ่ ก็จะสามารถไปถึงดินแดนในตำนานของเหมียวเจียงได้
แต่นั่นเป็นแค่เรื่องในตำนานเล่าขานเท่านั้น ไม่มีใครคนไหนเคยไปถึงสถานที่แห่งนั้นจริงๆ เลยด้วยซ้ำ
หลินจิ่วจิ่วเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วชี้ไปที่หงโฝอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นมองหงโฝเหมือนกับเห็นผีแล้วพึมพำในปาก “เธอ......เธอ เธอมาจากที่นั่น......”
“ใช่”
หงโฝยิ้มตอบ “พวกคุณที่อยู่นอกบึง ไม่เคยไปถึงบึงฉีชวนด้วยซ้ำ แล้วจะไปถึงดินแดนแห่งเหมียวเจียงของเราได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม