ฟึ่บ----
สิ้นประโยคของถังเฉา บรรยากาศในห้องส่วนตัวก็พิศวงขึ้นในบัดดล
ฉินผู่หยางตาโต หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
ถังเฉาพูดแฝงนัย ไม่ได้แค่เสียหมากกระดานนี้ แต่เสียทั้งตระกูลฉินนี่หมายความว่าอย่างไร?
ไม่รู้ทำไม ตอนนี้หัวใจของฉินผู่หยางเต้นรัวเร็ว สายตาที่มองถังเฉายังเปี่ยมไปด้วยความเลือดร้อน
เขาฟังออกแล้วว่าทำไมถังเฉาถึงมานี่ในคืนนี้ ต่อหน้าทำเป็นบอกเขาว่ายุติการเป็นพันธมิตร แต่เอาเข้าจริง ก็มาเพื่อเขา
แน่นอนว่าฉินผู่หยางไม่โง่พอที่จะคิดว่าถังเฉาให้ความสำคัญกับตัวเองถึงยื่นมือช่วยเหลือ
อย่างไรซะเงื่อนไขของการเป็นพันธมิตรระหว่างพวกเขามีผลประโยชน์อันใหญ่หลวงอยู่เบื้องหลัง ตระกูลฉินต้องศิโรราบแด่เขาอย่างสมบูรณ์
หากไม่มีคำมั่นสัญญานี้ ทั้งสองยังคงเป็นศัตรู และเป็นไปไม่ได้ที่จะกลายมาเป็นพันธมิตร
แต่บางครั้งโชคชะตาก็อัศจรรย์แบบนี้แหละ เมื่อห้าปีก่อน ถังเฉาตัดขาข้างหนึ่งขอฉินผู่หยาง จนเขาต้องถอยออกจากหน้าเวทีอย่างสลด ทั้งสองผูกใจเจ็บมานับแต่นั้น
คิดไม่ได้ถึงเลยว่าตอนนี้พวกเขาจะกลายมาเป็นพันธมิตร ไม่ได้หมายความว่าเขาปล่อยวางความแค้นในอดีตได้แล้ว แต่เมื่อเทียบกับการแก้แค้น เขามีสิ่งที่สำคัญกว่าให้ทำ
ฉินกวนฉี----อันตรายกว่าถังเฉา
สิ่งที่ผูกมัดทั้งสองคนไว้ได้มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น
ผลประโยชน์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด!
ในขณะเดียวกัน ห้องส่วนตัวก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
บทเพลง ได้ปิดฉากลงแล้ว มือเรียวของคนบ้าดนตรีออกห่างจากกู่เจิ้ง มีผ้าแพรบางๆปกคลุมใบหน้า เผยให้เห็นเพียงตาคู่งามที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่กำลังมองถังเฉาอย่างเรียบนิ่ง
เธอไม่แปลกใจกับการกระทำของถังเฉาเลยสักนิด
ฉู่หยางกลับฟังไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง ยังคงมองถังเฉาด้วยความเมามาย หยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าเป็นบางครั้ง
ทุกคนต่างมุ่งสายตาไปที่คนเพียงคนเดียว
ฉินกวนฉี
สีหน้าของเขามืดมน จ้องกระดานหมากรุกอย่างเอาเป็นเอาตาย ประกายดุดันฉายชัดอยู่ในแววตา ราวกับพร้อมจะตะครุบกินใครเข้าไป
"หมากนี้ทำไมถึงวางอยู่ที่นี่ ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ?"
ฉินกวนฉีชี้ไปที่หนึ่งในหมากของเขาและถามอย่างอึมครึม
'หมากแสนแย่' ก้าวนี้แหละที่นำไปสู่ชัยชนะถล่มทลายของถังเฉา เป็นผลให้เขาบุกทะลวงเข้ามาอย่างดุดัน
หากไม่มีหมากแสนแย่ก้าวนี้ ด้วยความสามารถของฉินกวนฉี ไม่รู้ว่าแพ้แน่นอนหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็สามารถต้านทานไปได้อีกสักระยะ
ถังเฉายกแก้วชาขึ้นดื่มเบาๆ กล่าวขึ้น "นายลืมไปแล้วหรอ ตอนที่นายยืนขึ้นก็ได้วางหมากตัวนั้นลงแล้ว"
"บางทีตอนนั้นแม้แต่นายเองก็อาจไม่ทันสังเกต สมาธิทั้งหมดไปอยู่กับบอดี้การ์ดของฉู่หยางและคนจัดกระดานหมากรุกคนนั้น กว่านายจะได้สติกลับก็ได้วางหมากลงไปแล้ว"
ฟึ่บ----
เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกไป ฉินกวนฉีก็นึกขึ้นได้ และมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก หน้าตาของเขาอึมครึมจนถึงขีดสุด
ก่อนหน้านี้ฉู่หยางมีเรื่องกับคนจัดกระดานหมากรุก จนทำให้สภาพแวดล้อมของการเล่นหมากรุกหนวกหูสุดๆ จนขัดจังหวะความคิดของฉินกวนฉี เขาถึงได้โกรธจัดจนตั้งใจที่จะสั่งสอนพวกเขาสองคน
หมากสีดำในมือก็วางลงโดยไม่รู้ตัว
ความผิดพลาดระดับล่างเช่นนี้เขาจะทนได้อย่างไร
“ไม่ได้! ก้าวเมื่อกี้ไม่นับ เรามาเล่นกันใหม่”
ฉินกวนฉีพูดอย่างโมโห
“เล่นใหม่?”
ถังเฉาหลุดหัวเราะ ก่อนที่สายตาจะเย็นเยียบขึ้นเรื่อยๆ “ทำไมหรอ เป็นถึงยอดฝีมือด้านหมากรุก ไม่เข้าใจหรอว่า ‘ไม่นึกเสียใจกับการเดินหมาก’ นั้นหมายความว่ายังไง?”
“.....”
ลมหายใจของฉินกวนฉีพลันชะงักไป สายตาอึมครึมยิ่งกว่าเดิม
เขาต้องเข้าใจความหมายของประโยคนี้อยู่แล้ว แต่ด้วยศักดิ์ศรีของเขา จะทนไหวได้ยังไง
“หรือว่า นายกำลังกลัว?”
ฉินกวนฉีมองถังเฉาด้วยสายตามืดมนพลางเอ่ยขึ้น “หากมาเล่นกันอีกตาอย่างสง่าผ่าเผย นายกลัวว่าจะแพ้ฉันรึ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินกวนฉีแล้ว ถังเฉาไม่ได้โกรธแต่กลับหัวเราะออกมาเบาๆ “นายไม่ต้องมาใช้วิธีท้าทายเพื่อยั่วฉันหรอก การเล่นหมากรุกสำคัญที่สภาพจิตใจ หากใจสงบ ต่อให้อยู่ในที่สุดชุลมุนก็สามารถทำใจให้นิ่งได้ นายยกยอว่าฝีมือการเล่นหมากรุกของตัวเองนั้นไม่มีใครเทียบเทียม นี่น่ะหรือฝีมือการเล่นหมากรุกที่นายภูมิใจนักหนา อาจารย์ผู้สอนวิชาหมากรุกให้กับนายคงต้องโมโหจนกระอักเลือด”
“......”
ภายในห้องส่วนตัวอันเงียบสงบ เสียงเย้ยหยันของถังเฉาดังก้องไปทั่ว
ทุกคนต่างมองผู้ชายสองคนนี้ด้วยสีหน้าตะลึง อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม