ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก เร็วจนไวโอเล็ตแทบจะจับต้นชนปลายไม่ได้
เธอเพียงแต่เห็นว่าถังเฉาที่เดิมอยู่ข้างหลังเธอเดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าวอย่างกะทันหัน หายไปจากที่เดิมราวกับปีศาจร้าย
จากนั้นก็ยกตัวของหงเหลียนขึ้นมาด้วยมือข้างเดียวราวกับพญาเหยี่ยวจับลูกเจี๊ยบ
หงเหลียนเมื่อวินาทีก่อนยังยิ้มแย้มเบิกบาน พูดจาเหน็บแนมเย้ยหยันเธอ แต่วินาทีต่อมาก็ถูกถังเฉาหิ้วขึ้นมา เท้าทั้งคู่ห้อยอยู่บนฟ้า ลำคอถูกล็อกจนรู้สึกหายใจไม่ออก ทำให้เธอเหมือนจะหมดสติไป สีหน้าขาวซีดอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนี้ ที่สุดแล้วสายตาที่ไวโอเล็ตมองไปยังถังเฉาก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความลำพองใจเหมือนอย่างในตอนแรกแล้ว แต่กลับมีความรู้สึกอื่นเพิ่มขึ้นมาส่วนหนึ่ง
“กล้ามาก! ปล่อยคุณนายหงเหลียน!”
“รนหาที่ตาย!”
“...”
พอลูกน้องที่หงเหลียนพามาด้วยเห็นฉากนี้แล้วก็หวาดกลัวจนไม่อาจหวาดกลัวไปมากกว่านี้ได้
นึกไม่ถึงว่าความรวดเร็วของผู้ชายคนนี้จะรวดเร็วถึงเพียงนี้!
พวกเขาตั้งสติไม่ได้โดยสิ้นเชิง คุณนายหงเหลียนก็ถูกจับไปแล้ว ชีวิตอยู่ในการควบคุมของถังเฉา
นี่เป็นความสะเพร่าของพวกเขา หลังจากเหตุการณ์อันตรายบรรดาพวกยอดฝีมือของหว่างเหลี่ยงก็ล้วงเอาปืนที่พกมาในมือ ขึ้นนกแล้วเล็งไปที่ถังเฉา
ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะเป็นยอดฝีมือทางด้านการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ใช้อาวุธดูจะเข้าท่ามากกว่า
ทว่าถังเฉายังคงมีสีหน้าเย็นชา คนมากมายขนาดนี้ใช้อาวุธปืนเล็งมาที่ศีรษะของเขา เขากลับไม่หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
“ผมไม่ชอบให้มีคนเอาปืนมาเล็งหัวผมนะ นั่นอันตรายมาก”
เสียงอันเย็นชาของถังเฉาดังขึ้น “ถ้าหากว่าผมตกใจขึ้นมา มือสั่นขึ้นมา ไม่ทันระวังบีบคุณตายขึ้นมาจริง ๆ นั่นก็แย่เลยนะ คุณว่ายังไงล่ะ?”
เขายิ้มอย่างน่าสะพรึงกลัวให้กับคุณนายหงเหลียนหนึ่งที ในเวลาเดียวกันนี้ ฝ่ามือที่กุมลำคอของคุณนายหงเหลียนอยู่ก็เพิ่งแรงขึ้นมาทีละนิด ๆ
ทันใดนั้นคุณนายหงเหลียนก็รู้สึกหายใจไม่ปลอดโปร่ง เห็นได้ด้วยตาเนื้อว่าสีหน้าของเธอแดงก่ำไปด้วยเลือด
เท้าทั้งสองข้างก็เริ่มที่จะเตะสะเปะสะปะ เหมือนกบที่โดนต้มด้วยน้ำร้อน
“วาง...ปืนลง! วางปืน...ลงให้หมด!”
เธอพยายามออกแรงสุดชีวิต เธอฝืนพูดประโยคนี้ออกมา ในสายตานอกจากจะมีความเดือดดาลแล้ว ยังมีความหวาดกลัวมากยิ่งกว่า”
ด้านหนึ่งคือเธอกลัวศักยภาพของถังเฉา ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเจ้ามังกรต้าเซี่ยที่ทำให้หว่างเหลี่ยงสูญเสียย่อยยับเมื่อสามปีก่อน อีกด้านหนึ่ง เธอยังกลัวว่าถังเฉาจะออกแรงอย่างกะทันหัน บีบเธอจนตายทั้งเป็น
มีตัวประกันอย่างคุณนายหงเหลียนแล้ว มือปืนพวกนั้นก็ไม่กล้าเหนี่ยวไกขึ้นมาทันที สองจิตสองใจอยู่นาน สุดท้ายก็วางปืนลง
“ถังเฉา อย่าวู่วาม เธอก็เป็นเหมือนกับฉัน ล้วนแต่เป็นผู้บริหารสูงสุดห้าดาวขององค์กร ฐานะสูงส่ง ถ้าหากว่าเธอตายไปแล้ว นั่นก็เท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับองค์กรในทุก ๆ ด้าน!”
ไวโอเล็ตตั้งสติขึ้นมาได้ก็ร้องบอกถังเฉา
ถ้าหากบอกว่าเพียงแค่สูญเสียมนุษย์โคลนหลี่เห้าไปคนเดียว หว่างเหลี่ยงยังสามารถอดทนได้ แต่ถ้าหากถังเฉาฆ่าคุณนายหงเหลียนไปแล้ว นั่นก็เท่ากับประกาศสงครามแล้ว
ถึงอย่างไรจนกระทั่งตอนนี้หว่างเหลี่ยงก็มีผู้บริหารสูงสุดห้าดาวเพียงสามคนเท่านั้น
หนึ่งคือไวโอเล็ต สองคือหงเหลียน ยังมีอีกคน เป็นผู้บริหารชาย ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยตัว
“อย่างนั้นหรือ...”
ถังเฉาได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเบา ๆ เอ่ยถามว่า “คุณไม่รู้สึกว่าคุณพูดมากไปหน่อยเหรอ?”
ไม่ว่าจะเป็นการเยาะหยันในตอนที่เพิ่งจะพบกับถังเฉา บอกว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ หรือว่าจะเป็นการโจมตีไวโอเล็ต ล้วนแต่ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกรังเกียจอย่างล้ำลึกได้อย่างง่ายดาย
คำพูด สามารถกระตุ้นความโกรธอย่างรุนแรงของคนคนหนึ่งได้จริง ๆ
“หืม? ใช่ไหมล่ะ?”
เห็นหงเหลียนไม่พูดไม่จา ถังเฉาก็หรี่ตาลง ตบใบหน้าที่เริ่มจะหยุดหายใจของคุณนายหงเหลียนเบา ๆ
คุณนายหงเหลียนจึงฟื้นสติขึ้นมาได้ สายตาหวาดกลัวจนถึงขีดสุด พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง
“ใช่ ฉันพูดมากไปหน่อย”
“พูดมา ว่าคุณเป็นพวกปากไม่สงบเสงี่ยม ผู้หญิงขี้นินทาใช่ไหม?”
“...ถังเฉา นายอย่าทำเกินไปนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม