“เธอรู้จักภีมพลตั้งแต่เธออายุสิบเอ็ดปี ตอนนี้เธออายุสามสิบสามปีแล้ว” คะนึงนิตย์กล่าว “พวกเขาสองคนฉลองวันเกิดและเทศกาลทั้งหมดด้วยกันทุกครั้ง ตอนนี้พวกเขาห่างเหินกันมาก เป็นเพราะเธอและพวกเด็ก ๆ ปรากฏตัวออกมา แต่พวกเขาก็เคยมีเวลาที่สวยงามและเวลาแห่งความสุขเช่นกัน”
“ความรักที่ญาณีมีต่อภีมพลนั้นหยั่งลึกมานานแล้ว แต่เธอไม่เคยร้องขอ เธอพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยแบ่งเบาะภาระของภีมพล” คะนึงนิตย์เริ่มสรุป “ฉันคิดว่าเธอรักลูกชายของฉันมากกว่าคุณ”
“……” นภาลัยอิจฉาเวลายี่สิบสองปีที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน
“ดังนั้น ญาณีจึงเหมาะที่จะเป็นคุณนายของตระกูลกงพลีมากกว่าคุณ เพราะเธอใช้เวลายี่สิบสองปีพยายามพิสูจน์ตนเอง เธอเข้ามาทำงานอยู่ที่ทีเอ็ม กรุ๊ปนานแล้ว และกลายเป็นมือขวาที่ภีมพลขาดไม่ได้”
นภาลัยได้ตัดสินใจจะไปจากที่นี่แล้ว และการที่คะนึงนิตย์เล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เธอฟัง ยิ่งทำให้เธอรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจของตนเองมากขึ้น
“คุณไปเถอะ แล้วอย่ากลับมาอีก” คะนึงนิตย์ส่งตั๋วเครื่องบินให้เธอหนึ่งใบ ขณะเดียวกันก็ยื่นการ์ดให้เธออีกหนึ่งใบด้วย “คุณเก็บการ์ดใบนี้เอาไว้ ฉันไม่อยากติดค้างคุณ ถือเป็นค่ารักษาของฉัน”
เวลาที่ระบุบนตั๋วคือ 15.00 น. ของพรุ่งนี้ และปลายทางคือเมืองออตตาวา
“ฉันจะรับตั๋วเครื่องบินไว้ ส่วนการ์ดนั้นไม่จำเป็น” นภาลัยรับตั๋วเครื่องบินมา “ฉันจะผลิตยาเหล่านี้ออกมาเป็นล็อตใหญ่เพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ และฉันก็ไม่สนใจเงินแค่นี้หรอก”
“เมื่อฉันให้คุณก็รับไว้เถอะ อย่าเสแสร้งทำเป็นเย่อหยิ่ง!” คะนึงนิตย์ลุกขึ้นยืนและมองเธอด้วยความเย็นชา “ฉันบอกแล้วว่าไม่อยากติดค้างคุณ!”
นภาลัยไม่รู้สึกตกใจกับท่าทางของเธอ และรับการ์ดมาทันที เธอลุกขึ้นยืน “โอเค ฉันจะไม่เสแสร้งทำเป็นเย่อหยิ่ง”
คะนึงนิตย์มองเธอด้วยสายตารังเกียจ!
“มีอะไรจะพูดอีกไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน”
“ไปจากเขา และอย่ามาให้เขาเห็นหน้าอีก”
“โอเค”
หลังจากกลับมาถึงห้องนอนของตนเอง นภาลัยเก็บถ้วยน้ำชาและพวงกุญแจที่ภีมพลมอบให้ไว้ในกระเป๋า แล้วยังมีจี้หยกครึ่งแผ่นที่เธอพกติดตัวมายี่สิบหกปี
นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดของเธอ และเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในชีวิตเธอ
นภาลัยอยู่ในอารมณ์เคร่งขรึมตลอดทั้งบ่าย ญาณีอยู่เคียงข้างภีมพลยี่สิบสองปี มันเป็นเวลากี่คืนกี่วัน?
เป็นความรู้สึกหนักหน่วง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก